พุง หรือเจ้าก้อนไขมันบริเวณหน้าท้องนั้นมีหลายรูปแบบ ทั้งพุงป่องๆคล้ายคนท้อง หรือพุงส่วนล่างที่ยื่นเหมือนพี่เท่งในหนังตลุง แต่ไม่ว่าแบบไหน เชื่อว่าใครหลายๆคนก็คงไม่อยากจะมีใช่มั้ยหล่ะคะ ? ดังนั้น วันนี้ เรามาเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน กับเคล็ดลับช่วยลดพุงส่วนล่าง ที่สามารถทำเองได้ที่บ้านกันดีกว่าค่ะ
เปิดเคล็ดลับ ฉบับที่ 1 ลดคาร์โบไฮเดรตที่ไม่มีประโยชน์
อย่างแรก การลดคาร์โบไฮเดรตที่ไม่มีประโยชน์ หรือเกินความจำเป็นมากเกินกว่าที่ร่างกายควรจะได้รับหรือต้องการนั้น เป็นตัวการของสะสมไขมันได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตหรือแป้ง เมื่อเข้าสู่กระบวนการในร่างกายแล้ว ก็จะแปรสภาพ ไปเป็นน้ำตาล เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในร่างกายต่อไป แต่ถ้า น้ำตาลนั้น ร่างกายนำไปใช้ไม่หมดหล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น ? แน่นอนว่า ร่างกายของเราก็จะมีกระบวนการในการเก็บน้ำตาลที่เหลือนั้น ด้วยการแปรสภาพไปเป็นไขมันที่สะสมไว้ในร่างกายต่อไป นั่นจึงเป็นสาเหตุของการเกิดพุงอย่างหนึ่งนั่นเอง
เปิดเคล็ดลับ ฉบับที่ 2 IF หรือ Intermittent Fasting
การทำ IF หรือ Intermittent Fasting เรียกง่ายๆก็คือ การควบคุมระยะเวลาในการกินของแต่ละวันนั่นเองค่ะ โดยการทำแบบนี้ จะเป็นการทำให้ร่างกายจดจำเวลาในการกินและหลั่งน้ำย่อยออกมาค่ะ อีกทั้งยังควบคุมปริมาณการกินที่จำเป็นและเพียงพออีกด้วย โดยการทำ IF นี้ไม้ได้กำหนดค่ะว่า จะต้องเป็นอาหารคลีน อาหารไร้แป้ง หรือใดใด อย่างที่กล่าวในข้างต้นค่ะว่า การทำ IF กฎเกณฑ์ง่ายๆ แค่เรื่องของการควบคุมเวลาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องควบคุมประเภทอาหารแต่อย่างใด อยากกินอะไรก็สามารถกินได้ตามปกติค่ะ เพียงแต่ถ้าอยากให้เห็นผลไวยิ่งขึ้น การช่วยลดอาหารจำพวกน้ำมันเยอะหรือน้ำตาลเยอะ เช่น ขนม ที่มากเกินความจำเป็นร่วมด้วย ก็จะเป็นการดีค่ะ
สำหรับเคล็ดลับในการกินแบบ IF ก็ง่ายๆด้วยอัตรา 16/8 นั่นหมายความว่า จำกัดเวลากินเพียง 8 ชั่วโมง และกำหนดเวลาอด 16 ชั่วโมงค่ะ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเริ่มต้นวัน ด้วยการตื่น 8 โมงเช้า มื้อแรกของวันเริ่มที่ 9 โมงเช้า นับไป 6 ชั่วโมง คุณจะมีเวลากินได้ถึงเวลา บ่าย 3 โมงเท่านั้น หลังจากนั้นจนกระทั่งเข้านอน ห้าม กิน อะ ไร เด็ด ขาด ยกเว้น น้ำเปล่า กาแฟดำ หรืออะไรก็ตามที่ไม่ได้ให้พลังงานค่ะ เป็นเวลาครบ 16 ชั่วโมงจนกระทั่งคุณตื่น และสามารถเริ่มกินได้อีกครั้ง เมื่อถึงเวลา 9 โมงเช้าของวันถัดไป เป็นต้น
เปิดเคล็ดลับ ฉบับที่ 3 การหลีกเลี่ยงความเครียด
แน่นอนค่ะว่า ความเครียด นั้น ไม่ได้มีข้อดีหรือส่งผลดีต่อร่างกายอยู่แล้ว ยิ่งถ้าหากเกิดความเครียดขึ้นระหว่างที่ลดความอ้วนอยู่นั้น ยิ่งอาจส่งผลเสียหนัก จนทำให้ลดไม่ได้ ที่ทำมานั้นสูญเปล่าได้เลยนะคะ เพราะความเครียดและความกดดัน จะส่งผลกระทบกับร่างกายของเราโดยตรง ส่งผลให้นอนไม่หลับ จนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดความโทรม ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่งสดใส มีอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่ายขึ้น และยังมีผลวิจัยรองรับออกมาอีกว่า ความเครียด สามารถทำให้น้ำหนัดตัวเพิ่มขึ้นได้ ถือว่าเป็นเรื่องแย่สุดๆโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณกำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่ เจ้าความเครียดนี้ ก็ย่อมเป็นตัวขัดขวาง ที่ทำให้คุณลดน้ำหนักไม่สำเร็จอย่างแน่นอน
สาเหตุที่ความเครียด สามารถทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ นั่นเป็นเพราะความเครียด จะทำให้ระดับสารคอร์ติซอลในร่างกายเราสูงขึ้น ส่งสัญญาณให้ร่างกายของเราเริ่มต้นกระบวนการในการเก็บสะสมไขมันที่บริเวณหน้าท้อง ต้นขา และสะโพก สังเกตง่ายๆ เมื่อเกิดความเครียดขึ้น คุณมักจะมีความอยากกินขนมหรือของหวาน หรืออาหารประเภทจังก์ฟู้ด ของมัน ของทอดทั้งหลาย
เปิดเคล็ดลับ ฉบับที่ 4 ลดกินขนมจุกจิกระหว่างวัน
การกินจุกจิกทั้งวันนอกจากจะเปลืองเงินค่าขนมแล้ว ยังเป็นการกินที่มากเกินความจำเป็นของร่างกายอีกต่างหาก เพราะขนมจุกจิกเหล่านั้น เป็นเพียงแค่ความ “อยาก” ไม่ใช่การกินเพราะความ “หิว” แต่อย่างใด ยิ่งกินมาก ยิ่งทำให้มีน้ำตาลส่วนเกิด ที่ร่างกายนำไปใช้ไม่หมด สะสมอยู่ในร่างกายมาก แล้วคราวนี้ เจ้าน้ำตาลตัวร้ายก็จะแอบซ่อน หลบอยู่ในร่างกายของเราในรูปแบบของไขมัน จึงทำให้เราอ้วนง่ายนั่นเอง
เปิดเคล็ดลับ ฉบับที่ 5 ขยับตัวบ้างอะไรบ้างระหว่างวัน
ด้วยไลฟ์สไตล์ของหนุ่มสาวยุคใหม่ในปี 2021 นี้ มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่เด็กจบใหม่ยันจบปริญญาเอก ก็มักหนีไม่พ้นการทำงานในออฟฟิศ สำนักงาน หน้าคอมพิวเตอร์ การนั่งอยู่กับที่เพ่งหน้าจอคอมหรือตัวหนังนานๆทั้งวัน หรือติดต่อกันหลายๆชั่วโมง ก็อาจทำให้ ร่างกายของเราแทบจะไม่ได้ใช้พลังงานอะไรเลย เชื่อว่าแค่ขยับนิ้วก็คงไม่พอที่จะให้ร่างกายได้ใช้พลังงานจากการที่เรากินมื้อเช้าและมื้อกลางวันไปแน่ๆ ฉะนั้นแล้ว แม้ว่าจะไม่มีเวลาไปออกกำลังกายอย่างเป็นจริงเป็นจัง ก็ให้พยายามลุกออกจากที่นั่งเดินไปเดินมาบ้างระหว่างวัน อาจจะลุกไปถ่ายเอกสาร ลุกไปบิดขี้เกียจ ลุกไปชงกาแฟ หรือแค่ลุกขึ้นมาเดินไปมาสักสองสามรอบ เพื่อให้เพิ่มการขยับตัวระหว่างวันบ้าง จะได้ไม่มีปัญหาปวดเมื่อย ปวดหลัง หรือออฟฟิศซินโดรมตามมาในภายหลังด้วยค่ะ
เปิดเคล็ดลับ ฉบับที่ 6 เดินให้ครบ 10,000 ก้าว/วัน
ในยุคปัจจุบันนี้ ล้วนมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและครบครัน ทั้งบันไดเลื่อน ลิฟต์ รถยนต์ส่วนตัว รถรับ-ส่งของคอนโด และอื่นๆอีกมากมายสารพัด ที่สรรหามาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชีวิตมนุษย์ ยกตัวอย่าง ชีวิตของนางเอ นามสมมติ นางเออาศัยอยู่คอนโดกลางเมือง ชั้นสอง แต่ไม่เคยใช้บันไดเลยใช้ลิฟต์เท่านั้น และแม้ว่าจะมีเซเว่นอยู่หน้าคอนโดของตัวเอง แต่นางเอก็ยังเลือกที่จะสั่งเดลิเวอร์รี่จากเซเว่น ให้ขับมาส่งที่ใต้ตึกของตัวเองอยู่ดี คำถาม ในวันวันนึง นางเอ เดินกี่ก้าว ? เห็นมั้ยหล่ะคะ ว่าปัจจุบันสิ่งอำนวยความสะดวกมันเยอะแยะมากมายไปหมด แม้แต่จ่ายค่าน้ำค่าไฟก็ไม่ต้องเดินออกไปจ่ายด้วยซ้ำ สารมารถจ่ายออนไลน์ได้เลย ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของเราค่อนข้างเสพติดความสะดวกสบายเหล่านี้ แต่ ถ้าคุณยังมีพฤติกรรมการกินเหมือนเดิม เท่าเดิม แล้วร่างกายจะเผาผลาญออกหมดอย่างไรหล่ะ ? นั่นจึงเป็นเหตุทำให้ในปัจจุบัน คนเป็นโรคอ้วนและมีพุงกันง่ายขึ้นมาก
ดังนั้น หากสิ่งใดเล็กๆน้อยๆ ก็ออกแรงเองบ้าง อย่างน้อยลองเดินให้ถึง 10,000 ก้าว/วัน ดูนะคะ การเดินจะช่วยให้ร่างกายได้ใช้พลังงานและช่วยเผาผลาญพุงน้อยๆของเราออกไปได้บ้างค่ะ
เคล็ดลับลับ ฉบับที่ 7 การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ลิตร/วัน
ร่างกายของมนุษย์ ประกอบไปด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น น้ำ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สำคัญยิ่ง แล้วทำไม การดื่มน้ำมาก จึงช่วยลดพุงได้ ? นั่นเป็นเพราะการดื่มน้ำ จำนวน 2 ลิตรต่อวัน หรือตามอัตราของน้ำหนักตัวของแต่ละบุคคล จะช่วยในเรื่องของการขับถ่าย และกระบวนการเผาผลาญภายใน ให้ร่างกายได้มีการทำงานและใช้ไขมันสะสมที่มีอยู่ในร่างกายมากขึ้นค่ะ
สรุป
เป็นยังไงบ้างคะ กับ 7 เคล็ดลับลดพุงส่วนล่างที่ทำเองได้ที่บ้าน ที่นำมาฝากกันในวันนี้ ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ ? มีเพียงแค่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือเพิ่มกิจกรรมให้ตัวเองในชีวิตประจำวันบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นการช่วยลดพุงในทางใดทางนึงแล้ว แต่เคล็ดลับทั้ง 7 ข้อนี้ หากใครทำได้ทั้งหมด ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากมากค่ะ บางคนอาจจะทำได้ไม่ครบ 7 ข้อก็ไม่เป็นไร ค่อยๆทำความเข้าใจและศึกษาร่างกายของตัวเองดูนะคะ ว่าร่างกายของเรา เหมาะกับแบบไหน ทำอะไรแล้วจะดีกับร่างกาย ความพร้อม และสภาพจิตใจของตัวเรามากที่สุด
ฉะนั้น หากจะเริ่มใส่ใจดูแลตัวเอง เริ่มต้นง่ายๆได้ที่บ้านค่ะ ไม่ต้องหาข้ออ้างเรื่องเวลาหรือสถานที่ เพียงแค่วิธีง่ายๆเหล่านี้ ก็ทำให้คุณได้เริ่มขยับ ได้เริ่มออกกำลังกายแล้วนั่นเอง แล้วมาลดพุงไปพร้อมกันนะคะ