อวัยวะในทุกๆส่วนของร่างกายนั้นก็มีความสำคัญเท่าๆกันที่ควรดูแลอย่างดี รวมถึงเท้า ก็เช่นกัน เท้าเป็นอวัยวะส่วนที่มีการถูกใช้งานตลอดทั้งวัน ซึ่งหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับเท้าบ่อยๆเลย นั่นก็คือปัญหาส้นเท้าแตกลาย เป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก สร้างความรำคาญ น่าหงุดหงิดใจและส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก เนื่องจากเท้านั้นจะแห้งและเป็นรอยแตกทำให้ไม่น่ามอง จถใส่รองเท้าที่ต้องเห็นส้นเท้าก็อาจจะไม่มั่นใจใส่แล้วก็ไม่สวยอีกด้วย ซึ่งสาเหตุของการที่ส้นเท้าแตกนั้นก็มีมากมายหลายสาเหตุด้วยกัน และหนึ่งในสาเหตุของส้นเท้าแตกมาจากการที่ผิวหนังบริเวณส้นเท้าแห้งและแตกลาย มีลักษณะที่ค่อนข้างหนาเพราะต้องทำการรองรับน้ำหนักตัวของเรา จึงทำให้เท้าแห้งและเสียความชุ่มชื้นได้ โดยปัญหาส้นเท้าแตกนั้นไม่ใช่ปัญหาเล็กๆเลย
วันนี้เราจึงได้นำ 14 วิธีแก้ส้นเท้าแตก ให้กลับมาเรียบเนียนเหมือนเท้าเด็กอีกครั้ง มาฝากใครก็ตามที่กำลังประสบปัญหากวนใจนี้อยู่ ให้หายได้อย่างรวดเร็ว ใส่รองเท้าอะไรก็ดูดี ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะมีวิธีอะไรบ้าง เราไปดูพร้อมๆกันได้เลย
สาเหตุส้นเท้าแตกเกิดจากอะไรบ้าง?
สาเหตุของการเกิดปัญหาส้นเท้าแตกนั้น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ซึ่งมีดังนี้
-กรรมพันธุ์
ถ้าครอบครัวใครที่มีปัญหาส้นเท้าแตกมาก่อนแล้วล่ะก็ ปัญหาส้นเท้าแห้งแตกสามารถส่งผ่านมาทางสายเลือดได้ ถ้าคนในครอบครัวใครมีปัญหานี้ก็ต้องระวังและดูแลเท้าอย่างเป็นพิเศษเลย
-อายุมากขึ้น
การที่เรามีอายุที่มากขึ้นจะทำให้ผิวของเรานั้นขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย ทำให้เท้าเราแห้ง พอแห้งก็เกิดกลายเป็นปัญหาส้นเท้าแตก ดังนั้นปัญหาส้นเท้าแตกจะพบได้ในส่วนใหญ่ผู้สูงวัยนั่นเอง
-การเดินเท้าเปล่าจนทำให้เกิดการเสียดสี
ใครก็ตามที่ชอบเดินเท้าเปล่าในบ้านบ่อยๆหรือใส่รองเท้าพื้นแข็ง ถ้ามีการพฤติกรรมเหล่านี้บ่อยๆ ก็จะทำให้เท้าด้านและเกิดกลายเป็นปัญหาส้นเท้าแตกขึ้นมาได้ ควรรีบหาครีมทาส้นเท้าแตกมาทาอย่างด่วน
-เท้าขาดความชุ่มชื้น
การทำพฤติกรรมต่างๆที่ทำให้ผิวแห้ง ทั้งเช่น ชอบอาบน้ำอุ่นจัดหรือใช้สบู่อาบน้ำที่ทำให้ผิวแห้ง ถ้าหากทำพฤติกรรมเหล่านี้แล้วไม่ยอมทาครีมบำรุงหรือทาครีมที่เพิ่มความชุ่มชื้น ก็จะทำให้ส้นเท้าแตกลายได้อย่างแน่นอน
-น้ำหนักตัวมาก
อีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นสาเหตุที่ใหญ่และหนักมาก คือ สาเหตุที่ทำให้ส้นเท้าเราต้องรับน้ำหนักตัวมาก จนทำให้ผิวหนังหนาขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้เกิดส้นเท้าแตกได้ ซึ่งปัญหาส้นเท้าแตกนี้จะพบได้มากในผู้ที่อ้วนและมีน้ำหนักมากจนร่างกายและเท้าจะรับไหว
-ใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม
เช่น รองเท้าแตะคีบ รองเท้าฟองน้ำ รองเท้าสาน รองเท้าเปิดส้น รองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าที่ไม่มีคุณภาพ ฯลฯ สาเหตุนี้ก็พาไปเชื่อมโยงกับสาเหตุของการเกิดการเสียดสีที่เท้า เพราะการใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมหรือการยืนที่นานจนเกินไป ทำให้เท้าเกิดการเสียดสีจนทำให้เท้าด้านและเกิดกลายเป็นปัญหาส้นเท้าแตกขึ้นมาได้นั่นเอง
-โรคต่างๆ เป็นเรื่องของสุขภาพภายในร่างกาย
โดยโรคบางโรคนั้นก็นำมาทำให้ส่งผลถึงปัญหาส้นเท้าแตกได้ เช่น เบาหวาน หรือรูมาตอยด์ ซึ่งก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ส้นเท้าแตกได้ -การยืนหรือเดินเป็นระยะเวลานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเป็นประจำ ส้นเท้าจะมีการกระแทกที่รุนแรงหลายครั้ง ทำให้ส้นเท้าแตกได้ เช่น นักวิ่ง นักเต้นรำ เป็นต้น
14 วิธีแก้ส้นเท้าแตก แก้อย่างไรดี?
1.ครีมทาส้นเท้าแตกหรือครีมมอยส์เจอไรเซอร์ชนิดเข้มข้น
ใช้ในการทา ถูบริเวณเท้าและส้นเท้าเป็นประจำในทุกวัน หรือจะใช้หลังการขัดเท้าหรือก่อนนอนก็ได้เช่นกัน หลังจากทาเสร็จแล้วอาจจะนำถุงเท้ามาสวมทับเพื่อให้ครีมไม่หลุดลอกออกได้ ซึ่งส่วนใหญ่ครีมทาส้นเท้าแตกก็จะมีส่วนผสมของยูเรียที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เท้าและสามารถช่วยบรรเทาอาการส้นเท้าแตกให้ดีขึ้นได้
2.วาสลีน
วิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถช่วยประหยัดงบ หาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป วิธีการใช้ก็คือนำวาสลีนมาทาให้ทั่วบริเวณส้นเท้าที่แตกเป็นประจำ จะสามารถช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่เท้าและส้นเท้า ทำให้อาการส้นเท้าแตกลดน้อยและจางลงไปได้
3.น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันงา
โดยน้ำมันทั้งสองชนิดนี้นั้นสามารถใช้รักษาอาการส้นเท้าแตกได้ ซึ่งควรทำอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าหากทำเป็นประจำได้จะสามารถช่วยได้ มีวิธีการทำง่ายๆเพียงนำน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันงามานวดทาบริเวณส้นเท้าประมาณ 15 นาที โดยไม่ต้องล้างออก
4.ใช้มะนาวรักษาส้นเท้าแตก
โดยนำน้ำมะนาวไปผสมกับน้ำสะอาด แช่เท้าทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ช่วยให้เท้านุ่มขึ้นได้เหมือนกัน หรือจะเป็นวิธีการนำเปลือกมะนาวผสมเกลือขัดบริเวณรอยแตกก็จะทำให้ผิวหนังที่แห้งหลุดลอกออกไป สามารถสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงได้ ทำเป็นประจำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
5.น้ำผึ้ง
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ง่าย โดยการนำน้ำผึ้งไปผสมกับน้ำอุ่น เมื่อผสมแล้วนำเท้าไปแช่ทิ้งไว้ อย่างน้อย 20 นาทีก่อนนอนทุกคืนจะทำให้ส้นเท้านุ่มขึ้น ไม่สร้างปัญหาส้นเท้าแตกมากวนใจ เนื่องจากในน้ำผึ้งนั้นจะมีส่วนผสมของมอยซ์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติ ประกอบกับสารแอนตี้แบคทีเรียนั่นเอง
6.หินขัดเท้ารวมถึงที่ขัดเท้า
เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สมควรมีไว้ติดบ้านเสมอ วิธีนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาปลายเหตุได้ดี ซึ่งคนที่มีปัญหาส้นเท้าแตก หากทำการดูแลไม่ดีก็จะสามารุทำให้กลับมาเป็นได้อีก
7.เปลือกกล้วย
โดยนำเปลือกกล้วยมาถูบริเวณส้นเท้าที่แตก ถูไปมาแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที และล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้ควรทำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เนื่องจากรดของผลไม้และสารอาหารในเปลือกกล้วยจะช่วยลอกผิวและสมานส้นเท้าที่แตกของคุณได้
8.ยางมะละกอ
ถึงจะเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก แต่ถ้าบ้านใครนั้นปลูกสวนมะละกอก็สามารถทำยางมาแก้ปัญหาส้นเท้าแตกได้ โดยนำยางมะละกอมาถูที่เท้าที่แตกก่อนนอนทุกคืน เมื่อทำเป็นประจำรอยแตกที่เท้าก็จะยิ่งค่อยๆจางลง
9.แช่เท้าในน้ำอุ่น
วิธีนี้คือวิธีการที่ให้คุณแช่เท้าในน้ำอุ่นทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เมื่อเสร็จก็นำหินขัดเท้ามาขัดเบา การขัดด้วยหินจะช่วยขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป อีกทั้งการนำหินขัดจะผ่อนคลาย ทำให้ผิวนุ่มนวลได้
10.เบกกิ้งโซดา
เป็นสิ่งที่เชื่อว่าหลายๆครอบครัวจะมีติดบ้านไว้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นราคาแห่งครัว วิธีการคือ นำมาผสมน้ำแล้วขัดเบาๆ ที่เท้า ทิ้งไว้สัก 5-10 นาที ก่อนล้างออก อาจจะมีการทาครีมบำรุงเพิ่มเติม ก็จะช่วยทำให้เท้าและส้นเท้ามีความนุ่มนวลแน่นอน
11.น้ำมันมะพร้าว
เรียกได้ว่าน้ำมันมะพร้าวนั้นเป็นสิ่งที่ควรมีติดบ้านไว้อย่างมาก เพราะเต็มไปด้วยวิตามินอีเข้มข้น ที่จะช่วยสมานผิวแตกๆ ให้เรียบเนียนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว วิธีคือการนำเท้าไปแช่น้ำอุ่น และทาน้ำมันมะพร้าวตามลงไป เพียงเท่านี้ก็ช่วยแก้ปัญหาส้นเท้าแตกได้
12.แช่เท้าในน้ำสบู่
โดยแช่เท้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ช่วยทำให้ผิวที่แห้งแตกและหยาบกร้านนิ่มลงได้ หลังจากนั้นอาจจะทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เท้าและส้นเท้าเพิ่มด้วย จะยิ่งทำให้สนเท้าที่แตกหายไวมากขึ้น
13.สารส้ม
คุณสมบัติของสารส้มนั้นสามาถทำได้หลายอย่าง นอกจากจะช่วยในเรื่องของการดับกลิ่นตัวแล้วนั้น ยังสามารถนำมาใช้ในการบรรเทาอาการส้นเท้าแตกได้อีกด้วย วิธีการทำคือนำสารส้มไปผสมกับน้ำแล้วใช้สำลีชุบทาลงบนส้นเท้า ทิ้งไว้นานพอสมควรก็จะดีขึ้น
14.น้ำสมุนไพรขัดส้นเท้า
(มีส่วนผสมของมะขามเปียก, ขมิ้นชัน, มะกรูด, แอลกอฮอล์ และอื่น ๆ) วิธีนี้เป็นวิธีที่เมื่อทาทิ้งไว้จะเห็นผลได้อยากรวดเร็ว โดยทำเพียงอาทิตย์ละครั้ง เพียงเท่านี้ส้นเท้าที่เคยแตกก็จะสามารถหายและจางลงได้
วิธีดูแลและป้องกันไม่ให้ส้นเท้าแตก
- ใส่ถุงเท้า การใส่ถุงเท้าจะช่วยลดปัญหาเท้าแตก เพราะจะไม่ทำให้เท้าหนาวจนแห้งและแตกขึ้นมาได้
- รักษาน้ำหนักตัว เนื่องจากปัญหาส้นเท้าแตกมีสาเหตุมาจากเรื่องของน้ำหนักตัว การลดน้ำหนักก็จะช่วยลดปัญหานี้ออกไปได้
- สวมใส่รองเท้านุ่มๆ หากใครมีน้ำหนักตัวมาก อาจลองเลือกเป็นพื้นยางหรือพื้นที่มีวัสดุช่วยผ่อนน้ำหนักและแรงกดที่เท้า หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าแข็งๆ
- ไม่เดินเท้าเปล่า การเดินด้วยเท้าเปล่าจะยิ่งทำให้เกิดการเสียดสี จึงควรแก้พฤติกรรมนี้เพื่อที่จะไม่เป็นปัญหาส้นเท้าแตก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน ควรดื่มน้ำให้มากเพียงพอใจแต่ละวัน การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นกับผิวโดยรวม รวมถึงส้นเท้าได้
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัด หรือร้อนจัด ไม่ควรใช้เท้าแช่น้ำนานๆ และไม่ควรอาบน้ำนานจนเกินไป
- ไม่สวมรองเท้าที่คับแน่นจนเกินไป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 14 วิธีแก้ส้นเท้าแตก ให้กลับมาเรียบเนียนเหมือนเท้าเด็กอีกครั้ง ที่เราได้นำมาฝากภายในวันนี้ ปัญหาส้นเท้าแตกนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ก็ส่งผลเสียในหลายๆด้านเช่นกัน ดังนั้นควรใส่ใจเท้าและส้นเท้าของเรา ดูแลความสะอาดและไม่ประพฤติตามสาเหตุของการทำให้ส้นเท้าแตก เพียงเท่านี้เท้าก็จะเรียบเนียนแล้ว