ท้องเสีย เป็นอาการป่วยพื้นฐานที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และสามารถเกิดได้ในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะอากาศร้อน อากาศเย็นหรืออากาศชื้น ยิ่งโดยเฉพาะอากาศชื้น เป็นอุณหภูมิที่ดีที่เชื้อแบคทีเรียในอาหารเจริญเติบโตได้ดี ยิ่งถ้าเกิดทานอาหารที่ผิดแปลกหรือไม่สุดและไม่สะอาดก็จะทำให้เกิดอาการท้องเสียขึ้นมาได้ ถ้าเกิดท้องเสียไปแล้วเราทำอย่างไรได้บ้าง สำหรับบางคนที่พบว่ามีอาการท้องเสียอาจไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร การเลือกรับประทานอาหารในขณะที่มีอาการท้องเสียก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียให้ดีขึ้นได้ วันนี้เรามีเมนูนำสำหรับคนท้องเสียมาฝากกัน ถ้าอยากรู้ว่าควรทานอะไรไม่ควรทานอะไรก็ไปดูกันได้เลยค่ะ
อาการท้องเสียคืออะไร?
อาการท้องเสียถือได้ว่าเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับร่างกายมนุษย์อีกหนึ่งโรค เป็นอาการอุจจาระร่วง หรือ ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้งมากกว่าปกติเกินวันละ 3 ครั้งขึ้นไป โดยอาการท้องเสียเกิดจากการทานอาหารที่ไม่สะอาด มีเชื้อโรคเจือปน หรือในบางรายเกิดจากการทานอาหารที่มีรสจัด ทำให้มีเชื้อโรคปะปนเข้าไปร่วมกับอาหาร ทำให้ร่างกายเกิดการติดเชื้อ ร่างกายจึงต้องพยายามต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาในร่างกายแต่เมื่อร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคเหล่านี้ได้ก็จะส่งผลให้มีอาการท้องเสียเกิดขึ้นตามมา บางรายอาจจะมีอาการที่ไม่ได้หนักมาก หรือในบางรายอาจจะมีอาการที่หนักถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลก็เป็นได้ ดังนั้นก่อนจะทานอะไรควรตรวจสอบให้ดีว่าอาหารที่ทานสะอาด ไม่มีการปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไปด้วย
ท้องเสียเกิดจากอะไร ?
ท้องเสียสามารถเกิดมาได้จากหลายสาเหตุ โดยมีสาเหตุหลัก ๆ มักเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต ในอาหารที่เรารับประทานหรือน้ำที่เราดื่ม การทานอาหารที่มีชาติจัดจนเกินไป รวมไปถึงการปนเปื้อนของเชื้อโรคผ่านมือของเราที่ผ่านการหยิบจับสิ่งต่าง ๆ ส่งผลให้มีเชื้อโรคติดมาด้วย โดยปกติแล้วลำไส้ของคนเราจะมีการดูดซึมสารอาหารในรูปแบบของของเหลวจากสิ่งที่เราได้รับประทานเข้าไปในร่างกายจนเหลือแต่กากใยทิ้งไว้ แจ่ลำไส้จะไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติถ้ามีอาการท้องเสียเกิดขึ้น ดังนั้นสารอาหารที่เข้าไปในร่างกายจะไม่ถูกดูดซึมและถูกขับออกมาจากร่างกาย จึงทำให้เกิดการถ่ายเหลวขึ้นได้ หรือถ่ายเป็นจำนวนครั้งมากกว่าปกติ
นอกจากนี้ อาการท้องเสียยังสามารถเกิดได้จากสาเหตุอื่น ๆ อีก เช่น ความเครียด อาการวิตกกังวล การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป การแพ้สารอาหารบางชนิด รวมไปถึงการท้องเสียหลังจากการรักษาที่ส่งผลให้ลำไส้ทำงานผิดปกติ เช่น การได้รับยาปฏิชีวนะบางชนิดหลังการรักษาที่เป็นยาเกี่ยวกับระบบลำไส้ หรือมีการฉายแสงรังสีที่ส่งผลให้เยื่อบุลำไส้ได้รับความเสียหาย ลำไส้จึงไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ ไม่สามารถดูดซึมน้ำและอาหารได้เหมือนเดิม
การแบ่งประเภทของอาการท้องเสีย?
โรคอุจจาระร่วงแบ่งได้เป็น 2 ประเภท โดยแบ่งตามระยะเวลาที่เกิดอาการ ดังนี้
-โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน คือ เกิดอาการท้องเสียเป็นระยะเวลาน้อยกว่า 14 วัน พบได้ในคนส่วนใหญ่ เป็นอาหารที่เกิดขึ้นได้เร็ว แต่ใช้ระยะเวลาไม่นานก็สามารถหายได้ อาจจะเกิดจากการติดเชื้อ อาจเกิดจากไวรัส เชื้อแบคทีเรีย บิด อหิวาหรือเชื้อปรสิต เกิดจากการกินพิษของโรคที่ปนเปื้อนในอาหาร เป็นสารพิษจากเชื้อโรค เกิดจากการทานสารเคมีหรือสารตะกั่ว สารหนูเข้าไป หรือรวมไปถึงการทานพืชพิษ เช่น เห็ดพิษ เป็นต้น อาการนี้สามารถทำการรักษาดูแลตัวเองได้ ไม่นานอาการก็จะค่อยๆดีขึ้นไป
-โรคอุจจาระร่วงเรื้อรัง คือ มีอาการท้องเสียมากกว่า 14 วัน พบได้ในคนส่วนน้อยอาจจะเกิดจากการมีภาวะเครียดสะสม มีความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เกิดจากการติดเชื้อที่ร้ายแรง เช่น บิดอะมีบา เกิดจากโรคที่เรื้อรัง เช่น โรคคอพอกทำพิษ โรคเบาหวาน เนื้องอก มะเร็งลำไส้หรือเกิดจากความผิดปกติของลำไส้ ขาด Enzyme lactase เพื่อใช้ในการย่อย lactose สุดท้ายอาจจะเกิดจากผลข้างเคียงของการผ่าตัดได้เช่นกัน การรักษาเบื้องต้นที่สำคัญ เน้นการให้น้ำเกลือแร่ ORS อย่างเพียงพอ เพื่อทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป ร่วมไปถึงการทานยาเพื่อบรรเทาอาการ สุดท้ายสิ่งที่ควรคำนึงมากที่สุดคือ อาหารที่เหมาะสมและอาหารที่ต้องหลีกเลี่ยงในขณะมีอาการ
อาการท้องเสียเป็นอย่างไร ?
1. อุจจาระมีลักษณะเหลว หรือถ่ายออกมาเป็นน้ำ
2. ถ่ายท้องต่อเนื่อง มากกว่า 3 ครั้งต่อวัน
3. มีอาการปวดท้องเกร็งที่รุนแรงกว่าปกติภายในบริเวณช่องท้อง
4. ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย เหมือนมีไข้อ่อน ๆ
5.ถ่ายเป็นมูกปนเลือด 1 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 24 ชั่วโมง
6.ไข้ขึ้นสูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส
7.ร่างกายอาจจะมีภาวะขาดน้ำ เด็กเล็กหากมีอาการท้องเสียเกิน 1 วันควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจจะเกิดอาการช็อคจากการขาดน้ำและเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้
หากใครมีอาการเหล่านี้อาจบอกได้ว่ากำลังเผชิญกับอาการท้องเสียอยู่ ภายใน 1-2 วันสำหรับบางคนอาจค่อย ๆ ดีขึ้นและหายได้เอง แต่หากมีอาการท้องเสียติดต่อกันอย่างยาวนานมากกว่า 3-14 วัน ให้รับเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพและเข้ารักษาต่อไป
ท้องเสียกินอะไรดี ?
อาการท้องเสียเป็นอาการที่เราควรใส่ใจในเรื่องของอาหารการกินเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อมีอาการท้องเสียสิ่งที่สามารถทานได้ มีดังนี้
-ควรดื่มน้ำที่สะอาดในปริมาณที่มาก เนื่องจากเมื่อมีอาการท้องเสียร่างกายได้สูญเสียน้ำออกทางการขับถ่ายเป็นอย่างมาก จึงควรดื่มน้ำเพื่อทดแทนให้แก่ร่างกาย ไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำจนถึงขั้นช็อคและอันตรายถึงชีวิต
-รับประทานอาหารที่มีรสอ่อน สามารถย่อยได้ง่าย
-รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ไม่หนังท้องมากนัก เนื่องจากทำให้การหดรัดตัวของลำไส้ใหญ่ลดลง ส่งผลให้การ ขับถ่ายอุจจาระลดลงได้
-สามารถดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วยได้ หากร่างกายมีอาการอ่อนเพลียจากการถ่ายท้องบ่อย
-ดื่มนมเปรี้ยวที่มีแล็คโตบาซิลลัสผสมอยู่จะช่วยในการฟื้นฟูแบคทีเรียที่ทำหน้าที่ปกป้องลำไส้ใหญ่ และยิ่งหากมีการติดเชื้อเพราะแบคทีเรียเหล่านั้นตายไป
-ควรทานอาหารที่มีความเหลว เพื่อไม่ให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักจนเกินไป
-ทานโยเกิร์ต ที่มีส่วนผสมของโปรไบโอติก เชื้อแบคทีเรียตัวนี้เป็นแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วยกระตุ้นลำไส้ให้กลับมาทำงานได้อย่างปกติและมีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องเสียลงได้
-สามารถทานขิงเพื่อลดอาการระคายเคืองในท้องได้ เพราะขิงจะช่วยในเรื่องของการลกอาการแปรปรวนของลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ช่วยแก้อับเสบและเพิ่มประสิธิภาพในการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี
ท้องเสียห้ามกินอะไร ?
เมื่อเกิดอาการท้องเสีย อาหารการกินเป็นสิ่งที่เราต้องยิ่งระวังเป็นอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้อาการหนักลงไปมากกว่าเดิม ซึ่งอาหารที่ห้ามกินในขณะที่มีอาการสำหรับคนที่มีอาการท้องเสีย มีดังนี้
-หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ที่มีผลิตภัณฑ์นมเป็นส่วนประกอบหลัก
-งดทานอาหารที่มีรสจัด เนื่องจากจะยิ่งทำให้ไปกระตุ้นให้อาการท้องเสียรุนแรงมากยิ่งขึ้น
-ควรงดอาหารประเภทหมักดองทุกชนิดจนกว่าอาการท้องเสียจะหายดี
- หลีกเลี่ยงอาหารมันหรือของหนักๆ และทานในปริมาณน้อย โดยการแบ่งย่อยออกเป็นหลายๆมื้อแทนการทานมื้อใหญ่ทีเดียวได้ เช่น เนื้อติดมันเยอะๆ อาหารผัดหรือทอด เป็นต้น เพราะอาหารที่มีไขมันสูงจะย่อยยาก อาจจะเกิดการขับถ่ายเพิ่มได้ เนื่องจากลำไส้ใหญ่หดตัว
-หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไฟเบอร์หรือมีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ รวมไปถึงอาหารที่ก่อให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารอย่างอาหารจำพวกถั่วด้วยเช่นกัน
เมนูอาหารของคนท้องเสีย
- ข้าวต้มปลาหรือข้าวต้มกุ้ง ข้าวต้มเป็นอาหารอ่อนๆ เป็นอาหารที่มีความเหลว อีกทั้งเนื้อปลาและกุ้งต้มสุกเป็นเนื้อสัตว์ที่สามารถย่อยได้ง่าย เพราะเป็นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ การทำงานของลำไส้ก็จะลดลง ช่วยทำให้อาการท้องเสียหายได้อย่างรวดเร็ว
- ซุป ซุปก็เป็นอาหารประเภทเดียวกับโจ๊กหรือข้าวต้ม ไม่ว่าจะเป็นซุปอะไรก็ตามขอแค่ไม่มีรสชาติที่จัดเกินไปเพื่อไม่ให้ลำไส้ทำงานหนัก เพียงเท่านี้ก็สามารถทานได้แล้ว
- แกงจืดเต้าหู้ สำหรับคนที่หายท้องเสียมาได้สักระยะหนี่งและเริ่มรับประทานอาหารได้ตามปกติ ควรทานอาหารที่ยังอ่อนอยู่ เช่น แกงจืดเต้าหู้ แต่ถ้าท้องเสียมาใหม่ๆยังไม่ควรทานอาหารที่มีผักและผลไม้
- เมนูอาหารที่มีขนมปังขาวเป็นส่วนประกอบ ผู้ที่มีอาการท้องเสียควรเลือกทานอาหารประเภทแป้งเป็นหลัก ขนมปังขาวจึงเป้นหนึ่งในตัวเลือกของอาหารที่สามารถทานได้
- กล้วย เนื่องจากกล้วยเป็นอาหารที่อยู่ท้อง ย่อยง่ายและยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมที่มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการท้องเสียได้ ส่วนกล้วยน้ำว้ามีสารเทนนินก็สามารถแก้อาการท้องเสียได้
- อาหารที่มีส่วนประกอบของมันฝรั่ง มันฝรั่งก็มีส่วนประกอบของโพแทสเซียม เช่นเดียวกับกล้วย จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องเสียให้ดีขึ้นได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆอีกมากมายเลยด้วย
อาการท้องเสียเป็นอาการที่ใครๆก็สามารถเป็นได้ ถ้ามีการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด มีเชื้อโรคเจือปน หรือทานอาหารที่มีรสจัดจนเกินไป เมื่อมีอาการท้องเสียเกิดขึ้นแล้ว เราจึงต้องควรให้ความใส่ใจในอาหารของเราว่ามีความสะอาดและสดอยู่เสมอ อีกทั้งควรงดหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่จะทำให้ลำไส้ทำงานหนักเมื่อมีอาการท้องเสียให้อาการนั้นหายดีก่อนจึงจะสามารถกลับมาทานอาหารได้ตามปกติ ซึ่งเราหวังว่าบทความและเมนูอาหารที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ทุกคนจะชื่นชอบและสามารถเป็นตัวเลือกในการทานอาหารของทุกๆคนได้นะ อาการท้องเสียจะยิ่งค่อยๆดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
ที่มา :