สิว คืออะไร?
สิว คือ การอักเสบของรูขุมขน และต่อมไขมันบนผิวหนัง ส่วนมากแล้ว เรามักจะเป็นสิวในบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัวส่วนบน เนื่องจากบริเวณเหล่านั้น เป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก
ในช่วงวัยรุ่น มักเป็นช่วงวัยที่เกิดสิวมากที่สุด สำหรับผู้หญิงมักเกิดในระหว่างอายุ 14-17 ปี สำหรับผู้ชายมักเกิดในระหว่างอายุ 16-19 ปี และจะเริ่มลดน้อยลงหรือหายไปในช่วงวัย 20-25 ปี
สาเหตุ ที่ทำให้เกิดสิว
สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวนั้นมีหลายอย่าง ไม่เฉพาะเจาะจงและขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคลด้วย ยกตัวอย่างเช่น กรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การใช้ยาหรือสารเคมีบางชนิด การใช้เครื่องสำอางต่างๆ สภาพผิวและความมันของผิวแต่ละคน
รวมไปถึงกิจวัตรประจำวันที่มนุษย์ทุกคนต้องทำ นั่นคือ การกิน การกิน ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้ที่ทำให้เกิดสิว เพราะสารอาหารบางประเภท ก็สามารถเข้าไปกระตุ้นระบบการทำงานของร่างกายให้เกิดเป็นปัญหาสิวได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึงสารอาหาร 7 ประเภทที่ควรเลี่ยง หากไม่อยากเป็นสิว หรือเป็นไปมากกว่าเดิม
อาหาร 7 ประเภทที่ควรเลี่ยง เพื่อป้องกันการเกิดสิว
1. สารอาหารจำพวกน้ำตาล ขนมหวาน และช็อกโกแลต
สารอาหารจำพวกน้ำตาล ขนมหวาน และช็อกโกแลตนั้น ส่วนผสมมักประกอบไปด้วยน้ำตาลมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนทราบหรือไม่ว่าหากร่างกายของเรา ได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากจนเกินไป จะทำให้ร่างกายของเราผลิตฮอร์โมนอิซูลินขึ้นมา เพื่อช่วยลดภาวะน้ำตาลเกินในร่างกาย จึงทำให้ร่างกายมีการผลิตไขมันเพิ่มขึ้นตามมาด้วย และเพราะเหตุนี้ก็อาจเกิดการอุดตันตามมาได้ จนทำให้กลายเป็นสิวในที่สุด
นอกจากนี้แล้ว น้ำตาลยังทำให้ผิวของเราแห้ง ขาดน้ำ จึงทำให้ผิวของเราต้องผลิตน้ำมันมากขึ้น ความมันบนผิวที่เกิดขึ้น ยังเป็นอาหารของแบคทีเรียที่เป็นเหตุทำให้เกิดสิวอีกด้วย และยังทำให้เกิดผิวอักเสบได้ง่าย และที่แย่ที่สุดคือยังทำให้หน้าแก่เร็วขึ้นด้วย
2. สารอาหารจำพวกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหรือส่วนประกอบจากนมวัว
สารพัดผลิตภัณฑ์หรือสินค้าในท้องตลาด โดยส่วนมากมักมีนมวัวเป็นส่วนประกอบ ยกตัวอย่างเช่น โยเกิร์ต นม ชีส เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว รายชื่อาหารที่กล่าวมาในตัวอย่างนั้น ยังประกอบด้วยไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โอเมก้า 6 และไอโอดีน ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนเป็นตัวกระตุ้นร่วม ในการทำให้เกิดสิวอักเสบ หรือสิวหนอง และสารอาหารเหล่านี้ ก็ยังไปช่วยกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นอีกด้วย
3. สารอาหารที่มีส่วนผสมของ กลูเตน
กลูเตน (Gluten) คือ ชื่อของโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่พบได้มากในแป้งสาลีและข้าวบาร์เลย์ โดยกลูเตน มีคุณสมบัติในการช่วยสร้างความเหนียวให้กับแป้ง โดยเกิดมาจากการรวมตัวกันของ กลูเตนิน (Glutenin) และไกลอะดิน (Gliadin) เชื่อมต่อกันด้วยพันธะไดซัลไฟด์ (Disulfide Bond) ทำให้มีลักษณะทั้งเหนียว ทั้งยืดหยุ่น และไม่ละลายน้ำ
โดยทั่วไปแล้ว กลูเตน (Gluten) ที่พบในอาหาร มักสกัดมาจากการนำแป้งข้าวสาลี (Wheat flour) มาผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสม โดยส่วนมากสามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์เบเกอรี แครกเกอร์ โดนัท ขนมเค้ก ซาลาเปา ปาท่องโก๋ ชีส น้ำสลัด ข้าวโอ๊ต ซีอิ๋ว ฯลฯ นอกจากนี้ กลูเตน ยังนิยมใช้ในการกินทดแทนเนื้อสัตว์ โดยใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเจ Vegan และอาหารมังสวิรัติอีกด้วย
และสาเหตุที่กลูเตน (Gluten) ทำให้เกิดสิว นั่นเป็นเพราะเกิดจากร่างกายของเราไม่สามารถย่อยกลูเตน (Gluten) ได้ทั้งหมดหากได้รับเข้าไปในปริมาณที่มากเกินไป จึงทำให้เกิดการตกค้างของกลูเตนในร่างกายจนทำให้ระบบย่อยแปรปรวน ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องระบบการขับถ่าย และส่งผลไปยังผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบ เกิดสิวเห่อและสิวอักเสบได้นั่นเอง
4. สารอาหารที่มีส่วนประกอบหรือส่วนผสมจาก โซเดียม
โซเดียม คือ แร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เพราะโซเดียม เป็นตัวช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย รวมไปถึงช่วยรักษาสมดุลของความดันโลหิต โดยปกติแล้ว ร่างกายจะต้องการโซเดียมในปริมาณ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่บางครั้งเราก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงโซเดียมที่ผสมมากับอาหารในชีวิตประจำได้ แต่ทั้งนี้การบิโภคโซเดียมมาก ก็นับว่าเป็นเรื่องที่อัตรายและให้ผลเสียเช่นกัน
ดังนั้น ปริมาณโซเดียมสูงสุดต่อวันที่ได้รับแล้วไม่อันตราย อยู่ที่ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน (หรือเทียบเป็นเกลือประมาณ 1 ช้อนชา) หากได้รับโซเดียมมากกว่านั้น อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆได้ เช่น โรคไต โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น
โซเดียม นอกจากเกลือแล้ว ยังคงมีโซเดียมอยู่ในอาหารอีกหลายชนิด และเรามักรับประทานโซเดียมเข้าไปในปริมาณมากได้แบบไม่รู้ตัว เนื่องจากโซเดียม ไม่ได้มีรสเค็มจัดเช่นเกลือเสมอไป แต่ยังอยู่ในรูปแบบของอาหารแปรรูป อาหารกระป๋องและซอสปรุงรสต่างๆ ทั้งผงชูรส ผงปรุงรส ซุปก้อน ก็เต็มไปด้วยโซเดียมในปริมาณมาก
รวมถึงผงฟูที่ใช้ในการทำขนมปังและสารกันบูดต่างๆ ล้วนมีโซเดียมอยู่เช่นกัน ซึ่งโซเดียมพวกนี้หากได้รับในปริมาณมาก ก็จะไปรบกวนกระบวนการดูดซึมอาหารทำให้ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้ร่างกายมีการขับทิ้งของเสียรวมกับเหงื่อออกทางรูขุมขน จึงส่งผลกระทบทำให้ผิวมีอาการระคายเคืองจนเกิดสิวอักเสบได้
นอกจากนี้แล้วโซเดียมยังเป็นตัวการทำให้ผิวแห้ง ขาดน้ำแต่ผิวมันมากขึ้น เพราะต่อมไขมันต้องทำงานหนัก ดังนั้นจึงควรบริโภคโซเดียมแต่พอดีตามคำแนะนำการบริโภคต่อวัน เพื่อเลี่ยงปัญหาสุขภาพและปัญหาสิวที่จะตามมาค่ะ
5. สารอาหารที่มีส่วนผสมของ กรดไขมันโอเมก้า 6
โอเมก้า 6 คือ ชื่อกลุ่มของกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน และเป็นกรดไขมันชนิดที่จำเป็น (Essential fatty acid) ต่อร่างกายของเรา และยังเป็นหมู่ของกรดไขมันไม่อิ่มตัวแบบมีพันธะคู่หลายคู่ (Polyunsaturated fatty acid) อีกด้วย เนื่องจากโอเมก้า 6 นั้นเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ร่างกายของเรากลับไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ เราจึงจำเป็นต้องหาโอเมก้า 6 จากอาหารต่างๆ เช่น พืชตระกูลถั่ว ธัญพืช น้ำมันพืช น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง ไข่แดง เครื่องในสัตว์ เป็นต้น
แต่หากร่างกายของเราได้รับ โอเมก้า 6 มากเกินความจำเป็น ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าให้ประโยชน์ ให้โทษกับสุขภาพและผิวพรรณ ดังเช่นของมันและของทอด ขนมห่อ ขนมขบเคี้ยวทั้งหลาย มักจะมีกรดไขมันโอเมก้า 6 อยู่มาก ซึ่งจะทำให้เกิดสิวอักเสบและสิวอุดตันได้ และยังทำให้อ้วนขึ้นอีกด้วย
6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทและทุกชนิด
แน่นอนว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกจากดื่มเพื่อสังสรรค์ เพื่อความสนุกแล้ว ย่อมให้โทษแก่ร่างกายมากกว่าประโยชน์ เมื่อเรารับเอาแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายมากเกินไป จะทำให้ร่างกายขาดความสมดุลและเกิดสารพิษจากแอลกอฮอล์ตกค้างอยู่ในร่างกายด้วย ดังนั้นระบบร่างกายของเราจึงต้องเริ่มหาทางกำจัดของเสียออกไปจากร่างกาย ด้วยการทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น หรือทำให้รู้สึกร้อน เหงื่อออก ซึ่งแน่นอนว่ามันคือการกำจัดของเสียออกทางผิวหนัง หากได้รับแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไปก็ทำให้ระบบผิวหนังทำงานหนัก เกิดการระคายเคืองที่ผิวได้ ในบางรายอาจส่งผลต่อระบบภายใน ระบบเลือดและผิวหนัง ทำให้ผิวมีสีแดงหรือบางรายอาจมีอาการคันร่วมด้วยก็ได้ค่ะ
7. เมนูอาหารที่มีรสเผ็ดจัด
อาหารไทยส่วนใหญ่ มักมาคู่กับรสชาติจัดจ้าน โดยเฉพาะอาหารประจำภาคอีสานและอาหารประจำภาคใต้ แต่รู้หรือไม่ว่าการรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัด จะทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้นด้วย สำหรับคนที่เป็นสิวอยู่แล้ว ก็ยิ่งไปกระตุ้นสิวทำให้สิวเห่อมากขึ้น อีกทั้งการรับประทานอาหารรสจัดยังไปกระตุ้นต่อมเหงื่อและต่อมไขมันให้ทำงานหนักมากขึ้น จึงทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
สรุป
การหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว นั้นเป็นเพียงปัจจัยเดียวที่ช่วยลดเปอร์เซ็นต์การเกิดสิวให้ลดน้อยลงได้ แต่ขอย้ำว่ายังไม่ใช่ทั้งหมด สิวยังคงเกิดขึ้นได้ ดังที่กล่าวข้างต้น ว่า สิว นั้นมีหลายเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้น ดังนั้น เราจึงต้องดูแลตัวเองในด้านอื่นๆประกอบกันด้วย เพื่อช่วยลดและป้องกันไม่ให้เกิดสิวนะคะ