ในช่วงนี้กระแสของการรักสุขภาพเริ่มมาแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนต่างหันมาดูแลตัวเองด้วยวิธีต่างๆหลากหลายวิธี ทั้งการออกกำลังกายและการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ถูกหลักโภชนาการ สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักนั้นการควบคุมปริมาณอาหารอย่างเคร่งครัดนั้นเป็นที่สำคัญที่สุดสำหรับการเริ่มต้นลดน้ำหนักควบคู่ไปกับการออกกำลังกายที่มีคุณภาพ โดยแคลอรีนั้นคือ ปริมาณพลังงานแคลอรีของอาหารที่เราต้องทานในแต่ละวันนั้นและเป็นสิ่งที่เราควรควบคุมให้ได้ แคลอรีนั้นมีอยู่ในอาหารทุกๆชนิดแตกต่างกันออกไปตามรูปแบบของอาหาร เช่น ข้าวขาหมูให้ปริมาณแคลอรีมากกว่าข้าวหน้าเป็ด เป็นต้น ในผลไม้ชนิดต่างๆก็เช่นกัน ผลไม้ต่างชนิดก็ให้ปริมาณแคลอรีที่แตกต่างกัน เราจึงควรเลือกทานอาหารให้ถูกต้องครบถ้วนตามปริมาณของพลังงานที่เราควรได้รับในแต่ละวัน สำหรับสาวๆหรือใครที่ชอบทานผลไม้แต่ไม่รู้ว่าผลไม้อะไรให้แคลอรีเท่าไหร่กันนะ? แล้วผลไม้ชนิดไหนที่มีแคลอรีน้อย กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนบ้างแถมให้ประโยชน์อื่นๆอีกมากมายเพื่อใช้ในการเลือกทานได้ ดังนั้นวันนี้เรามี 20 ผลไม้แคลน้อย กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแถมให้ประโยชน์อื่นๆต่อสุภาพมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย…
ชนิดที่ 1 : แตงโม ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 25 กิโลแคลอรี เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับใครที่ต้องการลดความอ้วนเพราะเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ ให้แคลอรีน้อย มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว บำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้แข็งแรง และยังมีไลโคปีน ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ด้วย
ชนิดที่ 2 : มะละกอ ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 13 กิโลแคลอรี เป็นผลไม้ที่ให้ปริมาณแคลอรีที่น้อยมาก แถมยังเด่นในเรื่องช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ต้านมะเร็งและยังบำรุงหัวใจ เป็นผลไม้ที่ประโยชน์มากมายไม่ทานไม่ได้แล้ว
ชนิดที่ 3 : แอปเปิล ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 52 กิโลแคลอรี เป็นอีกหนึ่งผลไม้สำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วนเพราะเป็นผลไม้ที่ให้ความหวานโดยธรรมชาติ ทำให้เมื่อทานแล้วจะไม่รู้สึกหิวบ่อย ใครที่ชอบทานของจุกจิกทานแอปเปิลแทนได้เลย แถมยังมีคุณประโยชน์ด้านอื่นๆอีกมากมายทั้ง ลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตสูง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวาน บำรุงกระดูก บำรุงสมอง ช่วยย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้
ชนิดที่ 4 : สตรอว์เบอร์รี่ ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 32 กิโลแคลอรี เป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่ให้พลังงานแคลอรีน้อย แถมยังเต็มไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอความแก่ เสริมสร้างคอลลาเจนช่วยลดริ้วรอยต่างๆได้ เสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยบำรุงประสาทและสมอง ป้องกันการเกิดหวัดและภูมิแพ้ บำรุงและรักษาสายตา ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน ช่วยบำรุงโลหิตและลดความดันโลหิต จริงๆแล้วสตรอว์เบอร์รี่นั้นยังมีคุณประโยชน์อีกมากมายหลายอย่างเลย เมื่อมีประโยชน์มากขนาดนี้ไม่ทานไม่ได้แล้วค่ะ
ชนิดที่ 5 : แครนเบอร์รี่ ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 46 กิโลแคลอรี แครนเบอร์รี่นั้นมีคุณสมบัติทางยาที่หลากหลายทั้ง ดีต่อช่องปากเพราะช่วยรักษาคราบจุลินทรีย์ที่ก่อตัวภายในช่องปากและโรคเหงือกระดับต้นได้ ช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีที่ปิดกั้นหลอดเลือดแดง รักษาสุขภาพของท่อปัสสาวะ มีวิตามินที่ดีต่อผิวที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยในการต่อต้านริ้วรอยและช่วยรักษาปัญหารังแคกับผมร่วง
ชนิดที่ 6 : ชมพู่ ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 42 กิโลแคลอรี ผลไม้ที่สามารถเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักได้ เพราะเมื่อทานแล้วทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้เร็ว ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น มีไลโคปีน ที่มีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินซีสูงช่วยป้องกันหวัด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน มีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสายตา ช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระชับเต่งตึงและยังช่วยป้องกันการเป็นมะเร็งลำไสใหญ่ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมายเลย
ชนิดที่ 7 : ส้ม ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 38 กิโลแคลอรี ส้มนั้นยังเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องการดูแลผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่ง มีสุขภาพดีไม่แห้งกร้าน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่ ช่วยในการขับถ่ายเนื่องจากมีกากใยสูง ป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันหวัดเสริมภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและยังช่วยสมานแผลได้ สาวๆหรือใครที่ต้องการมีผิวพรรณที่ดีส้มเป็นผลไม้แคลอรีน้อยที่ห้ามพลาด
ชนิดที่ 8 : ฝรั่ง ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 60 กิโลแคลอรี เป็นผลไม้ที่ทานแล้วอิ่มท้องมีประโยชน์มากมาย เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย เสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ลดไขมันในเลือด ป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง รักษาโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ฯลฯ
ชนิดที่ 9 : บลูเบอร์รี่ ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 57 กิโลแคลอรี ผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่อีกหนึ่งชนิดที่ให้พลังงานแคลอรีน้อย เป็นผลไม้ที่มีเส้นใยมากเหมาะแก่การช่วยขับถ่าย ทำให้รู้สึกอิ่มนานและอิ่มเร็ว ช่วยในการชะลอเซลล์มะเร็ง บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ บำรุงเลือดและผิวพรรณ
ชนิดที่ 10 : สัปปะรด ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 50 กิโลแคลอรี ในสัปปะรดมีวิตามินซีสูง ป้องกันหวัดเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยย่อยอาหาร บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง ลดความดันโลหิตสูง ลดเสมหะและลดอาการท้องผูก
ชนิดที่ : 11 แคนตาลูป ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 33 กิโลแคลอรี แคนตาลูปเป็นผลไม้เย็นที่ช่วยแก้กระหาย ดับร้อน ช่วยในการลดไข้ มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยเป็นยาขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ ป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันและยังช่วยบำรุงกระดูและฟันให้แข็งแรง เป็นต้น
ชนิดที่ 12 : แก้วมังกร ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 60 กิโลแคลอรี เป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำแถมกากใยสูง ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย แก้ท้องผูก ลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด กระตุ้นน้ำนม ป้องกันโรคมะเร็งและช่วยดับร้อนดับกระหาย เป็นอีกผลไม้เย็นที่มีประโยชน์มาก ไม่ลองไม่ได้แล้ว
ชนิดที่ 13 : เชอร์รี่ ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 60 กิโลแคลอรี เชอร์รี่นั้นช่วยบำรุงสายตาได้อย่างดี ช่วยสังเคราะห์คอลลาเจน บำรุงผิวพรรณให้สดใส ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย สามารถช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดต่างๆได้ ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและประโยชน์อื่นๆที่มีอีกมากมาย
ชนิดที่ 14 : กีวี ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 60 กิโลแคลอรี กีวีนั้นเป็นผลไม้ที่วิตามินอีสูง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ดีขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวหนังเต่งตึง เปล่งปลั่ง บำรุงผิวพรรณให้สดใส ชะลอวัย ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ป้องกันไขมันอุดตันเส้นเลือด ช่วยให้อาการหอบหืดดีขึ้น
ชนิดที่ 15 : ราสเบอร์รี่ ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 53 กิโลแคลอรี ผลไม้ที่มีไขมันและแคลอรีต่ำ สามารถช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายและช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ อุดมไปด้วยวิตามินเค วิตามินบีรวมและอื่นๆช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ช่วยรักษาสมดุลฮอร์โมนเพศได้และยังมีคุณประโยชน์อื่นๆอีกด้วยแถมยังทานง่ายสุดๆ
ชนิดที่ 16 : สาลี่ ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 57 กิโลแคลอรี ผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่ทานง่าย ช่วยแก้กระหายคลายร้อนได้ ลดความดันและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ช่วยให้ขับถ่ายง่ายและช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย
ชนิดที่ 17 : ลิ้นจี่ ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 57 กิโลแคลอรี ผลไม้ที่มีรสชาติหวานเป็นธรรมชาติ ทำหน้าที่เป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยแก้การติดเชื้อในลำคอ ช่วยแก้อาการคัดจมูก อาการไอเรื้อรัง ต้านมะเร็ง ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม
ชนิดที่ 18 : ลูกแพร์ ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 58 กิโลแคลอรี ผลไม้ชื่อแปลกแต่สรรพคุณไม่น้อยเลยทั้งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทานเพื่อบรรเทาอาการไข้ได้ ลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ช่วยขับโลหะหนักออกจากร่างกาย ฯลฯ
ชนิดที่ 19 : มังคุด ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 72 กิโลแคลอรี ผลไม้เย็นที่เป็นราชินีของบรรดาผลไม้ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในลำไส้และกระเพราะอาหาร บำรุงร่างกายให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า อีกทั้งประโยชน์ยังมีที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมายเลยทีเดียว
ชนิดที่ 20 : องุ่น ปริมาณ 100 กรัมให้ปริมาณพลังงานแคลอรี 69 กิโลแคลอรี อีกหนึ่งผลไม้ที่ทานง่ายมีความหวานโดยธรรมชาติ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ต่อสู้กับอาการอักเสบได้ ช่วยรักษาหลอดเลือดให้แข็งแรง สามารถช่วยกรองคลื่นแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 20 ผลไม้ที่แคลอรีน้อยแถมอร่อยและมีประโยชน์มากมายอีกด้วย ผลไม้เป็นสิ่งที่ทานง่ายหาซื้อได้ทั่วๆไป ประโยชน์หรือวิตามินที่ได้นั้นก็มีมากช่วยให้ร่างกายเราแข็งแรง แต่บางชนิดก็มีปริมาณแคลอรีที่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของผลไม้ เราสามารถเลือกทานผลไม้ตามความต้องการของเราได้แต่ก็อย่าลืมคำนึงถึงสุขภาพด้วยนะคะ ทานมากไปก็อาจจะเกิดผลเสียต่อตนเองได้ ดังนั้นหวังว่าทุกคนจะได้ข้อมูลไปช่วยในการตัดสินใจเลือกรับประทานผลไม้ต่างๆนะคะ
ที่มา : lovefitt.com,women.mthai.com,vejthani.com,today.line.me