อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า วิตามินเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าวิตามินนั้นมีความลับซ่อนอยู่ หากคุณรู้เคล็ดลับง่ายๆในการกินวิตามินที่ถูกวิธีแล้วล่ะก็ คุณก็จะได้คุณประโยชน์จากวิตามินสุดสูง ซึ่งส่งผลดีต่อร่างกายและช่วยให้คุณดูแลสุขภาพของตัวคุณเองได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันมีอาหารเสริมและวิตามินออกมาจำหน่ายอย่างมากมาย แต่ด้วยกระบวนการดูดซึมของร่างกายมีผลต่อคุณค่าและประโยชน์ที่จะได้รับจากวิตามินนั้น ดังนั้นเราจึงต้องกินวิตามินให้ถูกวิธีและถูกเวลาด้วยจึงจะได้ประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด โดยเวลาที่ดีที่สุดในการกินวิตามินแต่ละชนิดนั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของวิตามินนั้นว่า เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันหรือเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ โดยวิตามินบางชนิดควรกินพร้อมมื้ออาหาร และวิตามินบางชนิดควรกินเวลาในขณะที่ท้องว่าง นอกจากนี้คุณยังควรที่จะกินวิตามินเวลาเดียวกันเป็นประจำทุกวัน ซึ่งนั่นจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของคุณและยังช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากวิตามินอีกด้วย วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับง่ายๆ กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด เพื่อให้ได้ประโยชน์และคุ้มค่าที่สุดกัน
หลายคนคงเคยได้ยินว่า .. การกินวิตามินให้กินร่วมกับมื้ออาหาร แต่หลายคนคงสงสัยใช่ไหมคะ ว่าทำไมต้องท่านร่วมกับอาหาร วันนี้เราจะมีคำตอบสำหรับความสงสัยนี้กันค่ะ . . .เพราะวิตามินบางชนิด ต้องกินร่วมกับมื้ออาหารถึงจะดีที่สุด วิตามินบางชนิดนั้นต้องการใช้ไขมันช่วยในการดูดซึมนั่นเอง อย่างเช่น วิตามินเอ ดี อี เค คือ วิตามินที่ละลายในไขมัน ร่างกายของเราจะดูดซึมวิตามินเหล่านี้ได้ดีเมื่อกินร่วมกับมื้ออาหารที่มีไขมัน โดยการกินวิตามินร่วมกับมื้ออาหารที่มีไขมันเพียงเล็กน้อยจะช่วยในการดูดซึมวิตามินได้ดีขึ้น และการกินวิตามินร่วมกับมื้ออาหารนั้น ยังจะช่วยลดการเกิดภาวะท้องเสียได้ และยังส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารมากกว่าการกินตอนขณะที่ท้องว่าง อย่างบางคนที่ท้องเสียง่าย การกินวิตามินร่วมกับมื้ออาหารนั้นจะช่วยคุณในเรื่องของความปลอดภัยต่อท้องไส้ของคุณมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งในปัจจุบันก็มีวิตามินหลายยี่ห้อที่มีส่วนประกอบของน้ำมันเพื่อช่วยให้คุณสามารถกินวิตามินได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกินวิตามินร่วมกับมื้ออาหารก็ได้
สำหรับวิตามินบางชนิดก็ควรจะกินตอนท้องว่าง อย่างเช่น วิตามินซี วิตามินบีรวม และโฟเลต (กรดโฟลิก) วิตามินพวกนี้ละลายในน้ำ ซึ่งวิตามินชนิดที่ละลายในน้ำนั้นจะสามารถดูดซึมได้ดีที่สุดในขณะที่ท้องว่าง ดังนั้น การกินวิตามินในตอนเช้าหลังจากตื่นนอน หรือกินตอน 30 นาทีก่อนกินอาหารมื้อเช้า หรือ 2 ชั่วโมงหลังจากมื้ออาหาร ถือว่าเป็นเวลาที่ดีสำหรับการกินวิตามินที่ละลายในน้ำ นอกจากนี้ถ้าหากร่างกายของคุณได้นำวิตามินเหล่านี้ไปใช้อย่างเพียงพอแล้วร่างกายของคุณก็จะกำจัดวิตามินส่วนที่เหลือออกทางปัสสาวะ และเนื่องจากร่างกายไม่ได้เก็บวิตามินเหล่านี้ไว้ คุณจึงควรกินวิตามินเหล่านี้เป็นอาหารเสริม เพื่อป้องกันร่างกายขาดวิตามินนั่นเอง รวมไปถึงสำหรับใครที่ทานวิตามินบี วิตามินบีนั้นที่จัดอยู่ในกลุ่มวิตามินที่ละลายในน้ำ วิตามินบีเป็นวิตามินที่มีความจำเป็นต่อร่างกายช่วยในเรื่องของการเผาผลาญสารอาหาร เพื่อนำไปสร้างสารสำคัญต่างๆต่อร่างกาย รวมไปถึงระบบประสาทและสมอง และยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย และช่วยบรรเทาความเครียดทำให้อารมณ์ดีขึ้น โดยส่วนมากวิตามินบีที่คนนิยมกินนั้นคือ วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 การกินวิตามินบีเราควรกินวิตามินบีในเวลาที่ท้องว่างหรือกินตอนเช้าหลังจากตื่นนอนจะดีที่สุดค่ะ
ถึงตอนนี้หลายคนคงจะเริ่มแยกออกแล้วว่าวิตามินที่เราทานอยู่นั้นเป็นชนิดละลายในน้ำมันหรือเป็นชนิดละลายในน้ำ และควรทานตอนไหนถึงจะดีและได้ประโยชน์สูงสุด แต่หลายคนอาจจะมีถามเพิ่มขึ้นในใจแล้วว่าและถ้าเรากินวิตามินหลายตัวพร้อมกันหล่ะ ควรกินตอนไหนดีที่สุด !? อย่างเช่น มัลติวิตามินควรจะกินตอนไหน !?
การกินมัลติวิตามินที่ดีที่สุดนั้น คือกินมัลติวิตามินร่วมกับมื้ออาหารและดื่มน้ำตามมากๆ และมื้ออาหารที่เราแนะนำคืออาหารมื้อกลางวันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดค่ะ เพราะสารอาหารจะทำงานได้ดีเมื่ออยู่รวมกัน ฉนั้นการทานมัลติวิตามินร่วมกับอาหารมื้อใหญ่นั้นจะช่วยให้กระบวนการดูดซึมเป็นไปอย่างดีค่ะ
และสำหรับใครที่ทานวิตามินอาหารเสริมอื่นๆ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม และ สังกะสี (zinc) วันนี้เราก็มีเคล็บลับการทาน ธาตุเหล็ก แคลเซียม และสังกะสี (zinc) ให้ได้ประโยชน์มากที่สุดมาบอกกันค่ะ
สำหรับธาตุเหล็กนั้น เราควรกินในขณะที่ท้องว่างกินร่วมกับน้ำเปล่า หรือน้ำส้มก็ได้ค่ะ แต่ไม่ควรกินธาตุเหล็กร่วมกับแคลเซียม วิตามินอี และสังกะสี เพราะแคลเซียม วิตามินอี และสังกะสี จะไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกายแต่ถ้าหากคุณกินธาตุเหล็กขณะท้องว่างแล้วเกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร คุณก็สามารถกินธาตุเหล็กร่วมกับของว่างเล็กน้อยที่มีไขมันต่ำได้ค่ะ
แคลเซียม สำหรับคนที่กินแคลเซียมควรดูว่ากินแคลเซียมชนิดไหน ถ้าเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ก็ควรกินหลังอาหารทันที เพราะแคลเซียมชนิดนี้ต้องใช้กรดในกระเพาะช่วยในการแตกตัว แต่ถ้ากินแคลเซียมซิเตรต ควรกินตอนท้องว่างค่ะเพราะขณะที่ท้องว่างร่างกายของเราจะดูดซึมแคลเซียมได้ดีกว่าหรือสามารถกินคู่กับวิตามินดีได้ แต่ก็ควรเลี่ยงการกินแคลเซียมพร้อมกับวิตามินตัวอื่น เพราะอาจจะลดการดูดซึมวิตามินของร่างกายได้ และอย่ากินแคลเซียมร่วมกับกาแฟหรือเครื่องดื่มชนิดอื่นๆที่มีคาเฟอีน เพราะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย
สังกะสี (zinc) ควรกินตอนท้องว่าง เพราะตอนท้องว่างร่างกายของเราจะดูดซึมได้ดีที่สุด แต่หลายคนมักจะมีอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร เราจึงอยากแนะนำให้กินสังกะสี (zinc) หลังอาหารจะดีกว่า แต่ไม่ควรกินสังกะสี (zinc) ร่วมกับธาตุเหล็กหรือกินกับแคลเซียมนะคะ
และสำหรับใครที่ทานโคเอนไซม์ คิว 10 Grape seed และน้ำมันตับปลา เราก็มีเคล็ดลับการกินให้ได้ผลดีที่สุดมาบอกต่อกันค่ะ
โคเอนไซม์ คิว 10 สำหรับใครที่ทานโคเอนไซม์ คิว 10 นั้นก็โคเอนไซม์ คิว10 จะละลายได้ดีในไขมัน เหมือนกับวิตามินเอ, ดี, อี และเค ดังนั้นจึงแนะนำให้กินหลังมื้ออาหาร ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ร่างกายกำลังดูดซึมสารอาหารทำให้สามารถดูดซึมโคเอนไซม์ คิว 10 ได้ดีที่สุด
Grape seed หรือสารสกัดจากเมล็ดองุ่น เราควรกินในขณะท้องว่าง โดยการกินGrape seedนั้นคุณอาจจะกินหลังตื่นนอนตอนเช้าหรือกินหลังอาหาร 2 ชั่วโมงก็ได้ แต่ห้ามกินหลังอาหารทันที เพราะโปรตีนจากอาหารที่เรากินเข้าไปอาจไปจับสารสำคัญใน Grape seed จะทำให้ร่างกายของเราดูดซึมสารอาการจากGrape seedได้ไม่เต็มที่ และถ้าหากคุณกิน Grape seed แล้วหล่ะก็ คุณก็ควรงดกินยาแอสไพรินหรือยาที่มีฤทธิ์ละลายลิ่มเลือดด้วยนะคะ เพราะ Grape seed เป็นอาหารเสริมออกฤทธิ์ละลายลิ่มเลือด จนเสี่ยงต่ออาการเลือดออกเยอะมาก หรือเลือดไหลไม่หยุดได้
น้ำมันปลา ในปัจจุบันหลายๆคนนิยมกินน้ำมันตับปลา เพื่อเป็นการเติมกรดไขมันดีให้ร่างกาย สำหรับน้ำมันตับปลานั้นเราควรกินหลังมื้ออาหาร ไม่เกิน 30 นาทีเพื่อให้ร่างกายของเราสาทารถดูดซึมน้ำมันปลาได้อย่างดีที่สุด และถ้าหากคนไหนที่กินน้ำมันตับปลาแล้วเกิดป่วยต้องกินยาแอสไพริน เราแนะนำให้งดการกินน้ำมันปลานะคะ เพราะน้ำมันปลาและยาแอสไพรินนั้นมีฤทธิ์ช่วยให้ไม่เกิดลิ่มเลือดจับตัวเป็นก้อนเหมือนกัน ซึ่งการทานน้ำมันตับปลาอาจจะทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่ายหรือภาวะที่เลือดไหลไม่หยุดค่ะ
มาถึงตอนนี้หลายคนคงจะพอที่จะทราบแล้วว่าการกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด เพื่อให้ได้ประโยชน์และคุ้มค่าที่สุดกับเงินที่เราเสียไปมากที่สุด ถ้าเรากินวิตามินได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี เราก็จะได้ประโยชน์จากวิตามินนั้นๆอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามเราควรกินวิตามินเฉพาะตอนที่ร่างกายขาดวิตามินเท่านั้น ถ้าไม่ขาดไม่ควรกิน เพราะการกินวิตามินเยอะเกินขนาดที่ร่างกายเราต้องการ ก็อาจจะก็ให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้นะคะ แต่ถึงเราจะทานวิตามินเป็นอาหารเสริมแล้ว ก็อย่าลืมสิ่งที่ดีที่สุดนั่นก็คือ การทานอาหารให้ครบ5หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีนะคะ