สาวๆ ที่เพิ่งผ่านการศัลยกรรมมาอ่านด่วน วันนี้เราจะลิสต์เมนูอาหารหลังศัลยกรรมที่กินได้และกินไม่ได้มาฝากกัน เชื่อว่าเป็นประโยชน์กับทุกคนแน่นอน เพราะอาหารก็มีผลต่อการซ่อมแซม แถมเตรียมร่างกายให้พร้อมกลับมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดอาการบวมและแผลหายไวด้วย ซึ่งเรื่องอาหารถึงแม้จะจุกจิกไปนิด แต่ก็ยังพอดูแลง่าย เลือกทำได้เองแบบไม่มีผลเสียเลย ยังไงกันไว้ก็ดีกว่าแก้ ใครมีแพลนเปลี่ยนหน้า เสริมอึ๋ม หรือศัลยกรรมมาเรียบร้อยแล้ว ลองอ่านไว้แล้วเลือกตามได้เลย
อาหารที่กินได้
- เมนูที่มีเนื้อสัตว์โปรตีนสูงเป็นส่วนผสมหลัก
ก่อนและหลังศัลยกรรมสิ่งที่ร่างกายต้องการที่สุดก็ไม่พ้นโปรตีนค่ะ เพราะโปรตีนเป็นอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการนำไปซ่อมแซม ผสานเนื้อเยื่อใหม่ให้แข็งแรง ซึ่งเนื้อสัตว์โปรตีนสูงก็จะมีประเภท เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลาทูน่า ปลาแซลมอน รวมถึงไข่ไก่ค่ะ
2. เมนูจากผลิตภัณฑ์จากนมวัว
ไม่ใช่แค่เนื้อสัตว์ที่ร่างกายต้องการ แต่อาหารอีกประเภทอย่างผลิตภัณฑ์จากนมก็มีโปรตีนสูงค่ะ โดยเน้นเป็นนมจากวัวจะได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่งก็กินได้เลยตั้งแต่นมสด ชีส และโยเกิร์ต แถมโยเกิร์ตเองที่ยังทำหน้าที่ช่วยลดการติดเชื้อได้ด้วย
3. เมนูของคาว ขนม หรือเครื่องดื่มที่ทำจากผลไม้รสเปรี้ยว
ช่วงหลังศัลยกรรมมาใหม่ๆ จะมีระยะเวลาที่แผลยังไม่หายดี เลือดไหลเยอะ ผลไม้รสเปรี้ยวเองก็จะมีวิตามินซีที่ช่วยลดการไหลของเลือด ทำให้แข็งตัวดีขึ้น พร้อมกันเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดการบวมหรืออักเสบได้ยากขึ้นค่ะ แถมวิตามินซีก็ยังช่วยกระตุ้นการดูดซึมคอลลาเจนได้ดี กินเยอะๆ ได้เลย จะเป็นส้มลอยแก้ว น้ำฝรั่ง กีวี่โยเกิร์ตปั่น ข้าวผัดสับปะรด หรือตระกูลเบอร์รีได้หมดเลยค่ะ
4. เมนูที่ใส่ผักหรือผลไม้ที่มีวิตามินเอ
ในผักผลไม้ที่มีสีเหลืองหรือสีส้ม อย่างมะละกอ แคนตาลูป แครอท และฟักทอง มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินเออยู่ในตัวค่ะ เขามีประโยชน์ตรงที่ช่วยลดการบวมได้ แผลผ่าตัดติดเชื้อยากขึ้น รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี เลือกกินประเภทนี้คือเหมาะเลย จะเลือกเป็นของคาวอย่างต้มซุปใส่แครอท หรือของหวานอย่างฟักทองบวดก็ได้ค่ะ
5. เมนูที่ใช้แป้งหรือข้าวไม่ขัดสีเป็นส่วนประกอบหลัก
ทุกคนมักกินคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนหลักในมื้ออาหาร เราเลยแนะนำว่าให้เลือกเป็นแป้งที่ไม่ขัดสีอย่างข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี หรือขนมปังโฮลวีต เพราะเขาจะมีไฟเบอร์สูง วิตามินบี ธาตุเหล็กและสารต้านอนุมูลอิสระค่ะ ซึ่งประโยชน์แน่นมาก ดีต่อหลอดเลือด สร้างภูมิคุ้มกัน แถมเสริมสร้างกระดูกได้ดีเหมาะกับคนที่เสริมจมูกมาอีกด้วย
6. น้ำใบบัวบก
จะเรียกว่าเมนูก็ไม่เชิง แต่เราขอแนะนำให้กินค่ะ เพราะน้ำใบบัวบกคือนัมเบอร์วันของการลดบวม ทำให้ร่างกายเย็น แก้การช้ำในส่วนต่างๆ แล้วยังรักษาอาการแพ้ ระคายเคืองได้ดีด้วย ถ้าทนไหว จะไปทุกวันยิ่งดี
7. น้ำมะพร้าวนมสด หรือน้ำมะพร้าวปั่น
สายของหวานต้องเลิฟ เพราะเมนูนี้ให้ความละมุนพร้อมช่วยรักษาแผลค่ะ เพราะส่วนผสมหลักคือน้ำมะพร้าวที่ช่วยลดการอักเสบได้ดี แถมยังล้างพิษ พร้อมมีแร่ธาตุสูง ช่วยการไหลเวียนเลือด แล้วกระตุ้นการสร้างคอลลเจนได้ด้วย บอกเลยว่ามีแต่ได้กับได้
8. ถั่วดำต้มกะทิ
ในถั่วดำจะมีสังกะสีที่สำคัญกับการฟื้นตัวหลังผ่าตัดค่ะ เขาจะช่วยลดการไหลของเลือด ขับสารพิษผ่านของเสีย ลดการติดเชื้อได้ ทำให้แผลหายไวและออกมาสวยได้รูปเลย
9. ซุปสาหร่าย
ธาตุเหล็กและแคลเซียมในสาหร่ายทะเลช่วยลดอาการบวมหลังศัลยกรรมได้ค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยให้เนื้อเยื่อผสานกันได้ไวขึ้น ขับพิษดี แถมลดอาการบวมได้ รวมทั้งกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง เราเลยแนะนำให้เลือกกินเป็นซุปสาหร่ายที่ไม่ผ่านการปรุงมากจนเกินไป เน้นธรรมชาติที่สุดเพื่อให้ร่างกายเอาไปใช้งานง่ายค่ะ
10. ผัดผักสีเขียว
ผักสีเขียวบางประเภทอย่างคะน้า ตำลึง บล็อกโคลี หรือกวางตุ้ง จะมีเบต้าแคโรธีนสูง ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมและการติดเชื้อได้ค่ะ แถมเสริมภูมิ ทำให้แผลหายไวได้นั่นเอง
กินไม่ได้
- ปิ้งย่าง ชาบู
อาหารประเภทนี้เสี่ยงต่อการย่างหรือลวกไม่สุกค่ะ ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามของสาวๆ ที่เพิ่งศัลยกรรม เพราะอาหารกึ่งดิบกึ่งสุกสามารถทำให้แผลติดเชื้อได้เลยทีเดียว
- ส้มตำปลาร้า
เนื่องจากปลาร้าเป็นของหมักดองที่อาจมีการสะสมเชื้อแบคทีเรีย อันตรายต่อการติดเชื้อในแผลผ่าตัด สาวๆ จึงต้องเลี่ยง ไม่เพียงเท่านั้นเขายังอาจมีสารพิษจากการหมักหรือการเก็บรักษาไว้นาน ทำให้เกิดสิ่งสกปรกได้ด้วย ให้ผ่านจากการพักฟื้นสัก 3 สัปดาห์ถึงจะกินได้ค่ะ
3. ผลไม้ดองทุกชนิด
ของดองกระบวนการเก็บรักษานาน รวมทั้งอาจมีสารเคมีในการดองด้วยค่ะ ไม่ใช่เท่านั้นแต่ภาชนะที่ใช่ในการดองถ้าไม่สะอาดก็อาจพบสิ่งปนเปื้อนได้ทำให้สะสมเชื้อโรคและเป็นอันตรายต่อแผลศัลยกรรมด้วย
4. ค็อกเทล
ค็อกเทล รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เป็นสิ่งที่ต้องงดอย่างเด็ดขาด เพราะเขามีสารกระตุ้นการสูบฉีดของเลือดในร่างกาย อาจทำให้แผลเลือดไหลไม่หยุด เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ และอาจไปหยุดการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกายที่ได้ค่ะ
5. เมนูจากอาหารทะเล
อาหารทะเลมีโอกาสทำให้เกิดการแพ้ได้สูง ทำให้แผลบวมอักเสบได้ จึงต้องควรงด ไม่ว่าจะ หอย ปู หมึกหรือกุ้งก็ตาม ถึงแม้ปกติจะไม่ใช่คนที่แพ้อาหารทะเล ก็สามารถมาเจออาการกำเริบเอาในช่วงนี้ได้นั่นเอง เพราะงั้นป้องกันไว้ก่อนจะเซฟที่สุดค่ะ
6. ซูชิ ซาชิมิ
ของดิบก็เสี่ยงต่อการสะสมพยาธิ ที่จะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย รวมทั้งซูชิบางชนิดยังมีการนำหมักหรือดองปลา ทำให้มีโอกาสเจอสารเคมี สิ่งปนเปื้อน รวมทั้งเรื่องความสดใหม่ของอาหารด้วยค่ะ ส่งผลให้มีสิทธิ์บวมได้ง่าย แล้วบางหน้าก็เป็นอาหารทะเลด้วย ถ้าแพ้ขึ้นมาก็จบเลย
7. น้ำอัดลม
ข้อนี้อาจไม่ใช่เมนูแต่ขอแทรกไว้ เพราะอยากให้หลายคนระวังเป็นพิเศษค่ะ เพราะโซเดียมในน้ำอัดลมสามารถทำให้เกิดอาการบวมได้ง่าย จากสารเคมีและแก๊สในตัวสูง นอกจากนี้ยังมีน้ำตาลมาก ไม่เหมาะที่จะกินเข้าไปเยอะๆ ค่ะ ดังนั้นถ้าใครติดรสหวานของน้ำอัดลมก็ควรลองเปลี่ยนไปเป็นน้ำผลไม้แทนสักระยะจะดีกว่านั่นเอง
8. อาหารแปรรูป และเครื่องปรุงที่โซเดียมสูง
ในเครื่องปรุงหลายชนิด ประเภทน้ำปลา เต้าเจี้ยว ซอสรสเค็ม และอาหารแปรรูปอย่างเนื้อสัตว์ที่นำไปเก็บรักษา ทั้งแฮม ไส้กรอก แซลมอนรมควัน หรือแม้แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเองก็ตาม ล้วนทำให้แผลบวมและหายยากได้ ช่วงพักตัวจึงควรงดการปรุงรสหรืออาหารที่ผ่านกระบวนการต่างๆ
ลงค่ะ ถ้าสามารถทำเองได้ก็เลือกทำเองเป็นดีที่สุด
9. อาหารเสริมทุกชนิด
ทุกวันนี้อาหารเสริมกับสาวๆ แทบจะเรียกว่ากินกันเป็นอาหารหลักไปแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่าต้องงดเช่นกัน เพราะอาหารเสริมไม่ว่าจะเป็นวิตามิน สมุนไพร น้ำมันตับปลา พวกนี้จะมีผลต่อการแข็งตัวของเลือดค่ะ ทำให้แผลหายช้า เลือดไหลไม่หยุด แถมบวมง่ายได้นั่นเอง ดังนั้นจึงไม่ควรกินหลังจากทำศัลยกรรมมาใหม่ๆ ค่ะ แต่กินภายใต้คำวินิจฉัยของแพทย์ (ที่รู้ว่าเรามีการทำศัลยกรรม) ก็สามารถกินได้ค่ะ
10. เมนูหน่อไม้
สายแซ่บ เลิฟซุปหน่อไม้ หรือชอบจิ้มหน่อไม้ลวกกับน้ำพริกเป็นต้องมองเหม่อ เพราะหน่อไม้ไม่ว่าจะเป็นแบบดิบหรือหน่อไม้ดองก็เป็นอาหารที่ควรเลี่ยงค่ะ ด้วยความที่เป็นของแสลง มีพิษอยู่ในตัวเอง เราเลยไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าสะอาดพอหรือไม่ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงควรงดไปก่อน
สรุป
เนื่องจากเมนูที่กินได้และไม่ได้ก็มีค่อนข้างเยอะ ถ้าสาวๆ จำไม่หมด ก็ขอให้เลือกกินสิ่งที่มีประโยชน์ เน้นโปรตีนและผัก ผลไม้ ที่ไม่ผ่านกระบวนการทางเคมีหรือปรุงรสเยอะจนเกินไป ถูกสุขลักษณะ และงดพวกของแสลง และแอลกอฮอล์ เท่านี้ก็จะพอรักษาแผลผ่าตัดให้ปลอดภัยได้แล้วค่ะ
ที่มา mthai