เมื่ออายุมากขึ้นปัญหาริ้วรอยก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจของใครหลายคน เพราะมื้ออายุมากขึ้นผิวจะเกิดการสูญเสียคอลลาเจน และอีลาสติน จนทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวหน้าแห้ง และทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะริ้วรอยบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และบริเวณร่องแก้ม หากไม่ได้รับการดูแลที่ดีริ้วรอยก็จะยิ่งมากขึ้น และชัดขึ้นกว่าเดิม สำหรับใครที่อยากให้มีผิวหน้าที่เต่งตึงเป็นธรรมชาติ แน่นอนว่ามีวิธีลดริ้วรอยบนใบหน้าที่เห็นผลได้จริง วันนี้เราเลยรวมทริค!! ลดริ้วรอยบนใบหน้า ผิวสวย ดูอ่อนกว่าวัย มาฝากเพื่อนๆกันค่ะ
ริ้วรอย คืออะไร ?
ริ้วรอย คือ ปัญหาผิวที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยจะสามารถเริ่มพบริ้วรอยได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 25 ปี หากสังเกตดีๆจะเริ่มเห็นริ้วรอยบนใบหน้า ในจุดที่มีการขยับบ่อย หากมีการแสดงสีหน้าบ่อย ริ้วรอยจากที่ตื้นก็จะพัฒนาให้เกิดริ้วรอยร่องลึกขึ้นได้ และสามารถเพิ่มปริมาณมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้น เนื่องจากพออายุเพิ่มขึ้นโครงสร้างผิวก็จะอ่อนแอลง สาเหตุเพราะกระบวนการทำงานเซลล์ผิวนั้นมีการทำงานที่ช้าลง เซลล์ผิวอุ้มน้ำน้อยลง ผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินของเซลล์ผิวน้อยลง จนทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น เกิดความแห้งกร้าน และส่งผลให้ผิวขาดความแข็งแรง ส่งผลให้ผิวมีริ้วรอยง่ายขึ้นจนทำให้เริ่มเกิดผิวหย่อนคล้อยตามมานั่นเองประเภทของริ้วรอย
ริ้วรอยบนใบหน้า แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือฃ
1.ริ้วรอยแบบตื้น
เกิดจากผิวหนังชั้นบนสุดมีความแห้ง ขาดน้ำ สาเหตุเกิดจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงสภาพแวดล้อมที่อยู่ เช่น การอยู่ในสถานที่เย็นจัด อาทิเช่น การในห้องปรับอากาศตลอดทั้งวัน เป็นต้น
2.ริ้วรอยย่นแบบลึก
เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้หนังแท้กับหนังกำพร้าดึงเข้าหากัน จนเกิดเป็นรอยยับย่นและมองเห็นเป็นร่องใหญ่ขึ้น มักพบได้ในผู้มีผิวแห้งมากและผิวมัน ประกอบกับการมีพฤติกรรมการแสดงสีหน้าบ่อย ทั้งการขมวดคิ้ว เลิกหน้าผาก พฤติกรรมเหล่านี้จะยิ่งทำให้เห็นริ้วรอยร่องลึกได้เร็วมากยิ่งขึ้น
สาเหตุการเกิดริ้วรอย
1.อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายของเราก็จะผลิตสารสำคัญอย่างอิลาสติน กรดไฮยาลูรอน หรือคลอลาเจรที่ช่วยให้ผิวหนังดูเต่งตึงและชุ่มชื้นน้อยลง ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นลดลง ส่งผลให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยขึ้นบนใบหน้า อีกทั้งกรดไฮยาลูรอนยังส่งผลต่อโครงสร้างผิว เพราะเมื่อกรดไฮยาลูรอนมีจำนวนที่น้อยลง เซลล์ก็จะไม่สามารถอุ้มเกาะน้ำไว้ในชั้นผิวได้ ทำให้ขาดความหนาแน่น ผิวหนังจึงเกิดความหย่อนคล้อย จากริ้วรอยที่เกิดขึ้นเล็กก็กลายเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่นที่ลึกขึ้นได้
2.การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ
ริ้วรอยที่จากการแสดงอารมณ์มากไป การแสดงสีหน้าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดริ้วรอยขึ้นบนใบหน้า การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม หัวเราะ การขมวดคิ้ว รวมถึงการขยี้ตาบ่อย ๆ ล้วนทำให้เกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะรอยระหว่างคิ้ว ร่องคิ้ว และรอยย่นที่หน้าผาก เป็นต้น ซึ่งเราสามารถลดริ้วรอยแรกเริ่มเหล่านี้ได้ ด้วยการฉีดโบท็อก
3.ปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอย
นอกจากสาเหตุทางข้างต้น ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นบนใบหน้า อาทิเช่น
4.นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ สามารถทำให้เกิด ริ้วรอยบนใบหน้าและใบหน้าหมองคล้ำดูไม่สดใสได้ เพราะการนอนหลับพักผ่อนน้อย จะทำให้ร่างกายของเราไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ใครที่นอนดึกหรือนอนน้อย จะส่งผลทำให้ผิวไม่เต่งตึง ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวแห้ง และก่อให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้เร็วกว่าปกติ
5.ความแห้งของผิว
เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การขัดถูกหน้าแรง การสครับผิวหน้าบ่อยจนเกินไป การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมชำระล้างผิวหน้า สาเหตุเหล่านี้อาจทำให้ผิวแห้งและความชุ่มชื้น อย่างไรก็ตามผู้ที่มีผิวแห้งมักเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผู้ที่มีผิวที่ชุ่มชื้น
6.แสงแดด
แสงแดด หรือ รังสีอัลตราไวโอเลตที่อยู่ในแสงแดด นั้นเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ และเกิดริ้วรอยขึ้นบนใบหน้าได้ เนื่องจากแสงแดดนั้นเป็นตัวการสำคัญในการทำร้ายโครงสร้างผิว และจากการที่คอลลาเจนในผิวหนังถูกทำลาย จนทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น โครงสร้างผิวอ่อนแอ ส่งผลทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าปกติ อีกทั้งยังสามารถก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
7.แอลกอฮอล์ และบุหรี่
เป็นสารอนุมูลอิสระที่ทำลายโครงสร้างผิวหนังได้โดยตรง ทำให้ผิวดูมีอายุ รวมถึงทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น เพราะสารนิโคตินในบุหรี่ และแอลกอฮออล์ มีส่วนทำให้คอลลาเจนที่อยู่ในผิวของเรานั้นเสื่อมสภาพลง และส่งผลให้ผิวดูแก่ก่อนวัย
ตำแหน่งริ้วรอยบนใบหน้า
ริ้วรอยหน้าผาก
บริเวณหน้าผาก และหว่างคิ้ว เป็นริ้วรอยที่เกิดมาจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไปร่องก็จะลึกขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงบริเวณหน้าผากเป็นพื้นที่ที่กว้างสามารถโดนแสงแดดได้มาก สำหรับคนที่ออกแดดบ่อยและไม่ทาครีมกันแดด ริ้วรอยบริเวณหน้าผากจะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าคนที่หลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดเป็นประจำ
ริ้วรอยใต้ตา
ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยหางตา หรือ ตีนกา เป็นจุดที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย เพราะผิวบริเวณรอบดวงตานั้นบอบบางกว่าบริเวณอื่นบนใบหน้า และสามารถเกิดริ้วรอยได้ง่าย โดยสามารถสังเกตเห็นได้ เริ่มจากการมีริ้วรอยบาง ๆ และตื้น ๆ ก่อน แต่หากดูแลรักษา ริ้วรอยก็จะค่อย ๆ ลึกขึ้นเรื่อย ๆ
ริ้วรอยขมวดคิ้ว
ริ้วรอยขมวดคิ้วเป็นจุดที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะอยู่ระหว่างตรงกลางใบหน้าพอดี ส่วนมากมักเกิดจากการแสดงสีหน้า และในคนที่ชอบขมวดคิ้วอยู่บ่อยครั้ง ก็จะยิ่งเห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
ริ้วรอยร่องแก้ม
ร่องแก้มเป็นอีกจุดที่พบริ้วรอยได้ ซึ่งมักเกิดจากการแสดงสีหน้า เวลายิ้ม รวมถึงความหย่อนคล้อยของผิว โดยส่วนใหญ่แล้วริ้วรอยที่แก้ม จะมีลักษณะเป็นร่องลึก แลพเป็นเส้นยาวตั้งแต่บริเวณปีกจมูกโค้งลงมาจนถึงที่บริเวณมุมปาก
ริ้วรอยที่คอ
ริ้วรอยที่คอเป็นริ้วรอยที่เกิดขึ้นได้บ่อย ไม่แพ้ริ้วรอยบนใบหน้าเลยทีเดียว สาเหตุเกิดจากการที่ผิวขาดความยืดหยุ่น และผิวมีความหนาแน่นที่ลดลงนั่นเอง
ทริคการลดริ้วรอยบนใบหน้า
การลดริ้วรอยบนใบหน้า สามารถรักษาได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหาโดยวิธีที่ได้รับความนิยม ได้แก่
1.ลดริ้วรอยด้วยการนวดหน้า

การลดริ้วรอยด้วยการนวดหน้านั้นถือเป็นวิธีลดริ้วรอยตามแบบธรรมชาติที่ถูกพูดถึงกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณใบหน้าได้มากยิ่งขึ้น แต่จะต้องทำเป็นประจำทุกวัน ครั้งละประมาณ 15 นาที จึงจะช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และทำให้อัตราการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าลดน้อยลง แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ จะต้องนวดให้ถูกวิธี หากใครที่ต้องการจะลดริ้วรอยก่อนวัยด้วยวิธีนี้ แนะนำให้ศึกษาวิธีการนวดหน้าอย่างละเอียด ซึ่งในปัจจุบันมีคลิปสอนการนวดหน้าอยู่มากมาย ดังนั้นควรเลือกศึกษาจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือค่ะ
2.สับปะรดช่วยลดเลือนริ้วรอย

การใช้สับปะรดเพื่อลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เป็นวิธีที่ถูกแชร์ และส่งต่อกันบนโลกโซเชียลค่อยข้างมาก สำหรับใครที่อยากรู้ว่าสับปะรดจะสามารถช่วยลดริ้วรอยได้เห็นผลจริงหรือไม่ ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล การนำน้ำสับปะรดสด มาทา หรือพอกผิวบนใบหน้า สรรพคุณของสับปะรด คือ สับปะรดนั้นมีวิตามินซีที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวรวมถึงสามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้าได้ แต่ในเรื่องของริ้วรอยถ้าเป็นริ้วรอยเล็กๆก็อาจช่วยได้บ้าง แต่สำหรับริ้วรอยที่เป็นร่องลึกก็อาจไม่เห็นผล นอกจากนี้น้ำสับปะรดอาจจะกัดผิวหน้าโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย ทำให้ผิวหน้าแห้งและก่อให้เกิดสิว หรืออาจก่อให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าเดิมได้
3.ลดริ้วรอยด้วยการทำทรีตเม้นต์

การทรีตเมนต์หน้า เป็นวิธีการดูแลใบหน้าด้วยวิธีต่าง ๆ อาทิเช่น การผลัดเซลล์ผิวใหม่ การยกกระชับผิว ซึ่งวิธีการทำทรีตเมนต์ใบหน้า เพื่อลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าประเภทยกกระชับนั้นจะช่วยยกกล้ามเนื้อใบหน้าให้กระชับ และเต่งตึงมากยิ่งขึ้นได้ เช่น การทำทรีตเมนต์หน้าด้วยคลื่นวิทยุ คือ การใช้อุปกรณ์ปล่อยคลื่นวิทยุเข้าไปเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินในชั้นผิว เพื่อทำผิวหน้าดูกระชับขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ทำให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย
4.ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวลดเลือนริ้วรอย

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็น ครีมหรือเซรั่มลดริ้วรอย ที่มีส่วนผสมของ AHA vitamin A acid โคเอนไซม์ คิวเทน วิตามินซี กรดไฮยาลูรอน จะช่วยในการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า อีกทั้งยังสามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้ลึกถึงต้นตอของสาเหตุการเกิดริ้วรอย รวมทั้งการทำ AHA treatment นั้นสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วให้หลุดลอกออก ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และยังสามารถกระตุ้นการสร้าง collagen และ elastin ในผิวหนัง ถือเป็นการลดริ้วรอย และชะลอการเกิดริ้วรอยได้ แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆเหล่านี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
5.เลเซอร์ลดริ้วรอย

เลเซอร์ลดริ้วรอยเป็นการใช้เครื่องมือเลเซอร์ที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ได้แก่ Nd YAG, Fractional laser และ IPL ที่จะสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอย และจุดด่างดำบนใบหน้าได้ วิธีรักษาริ้วรอยบนใบหน้าวิธีนี้ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ค่อนข้างเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องแรกมาด้วยความเจ็บในการทำเลเซอร์ และอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่ผิวจะฟื้นฟู และควรลดหรือหลีกเลี่ยงการออกแดดสักระยะ หรืออาจเสี่ยงต่อการเกิดแผลบนใบหน้าขึ้นได้ หากเข้ารับการรักษาจากแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์
6.โบท็อกลดริ้วรอย

โบท็อกลดริ้วรอย เป็นการฉีดโบท็อก (Botulinum toxin A) เข้าใบบนใบหน้าเพื่อลดริ้วรอย ลดกราม หรือการปรับรูปหน้าให้เรียว โดยการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ นั้นจะทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ และช่วยกระชับแก้ม รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าของเราให้จางหายได้ และด้วยคุณสมบัติของโบท็อกที่สามารถลดริ้วรอยบนใบหน้าทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้เป็นอย่างดี หลังฉีดโบท็อกตัวยาจะเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท ส่งผลให้มัดกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง เวลาขยับใบหน้าในจุดนที่มีการฉีดโบท็อกเข้าไปนั้นผิวก็จะไม่มีการพับ จึงทำให้ช่วยลดเลือนริ้วรอยใต้ตา และลบรอยตีนกาได้ นอกจากนี้สำหรับคนที่ใบหน้ามีรูขุมขนที่กว้าง โบท็อกยังสามารถช่วยกระชับรูขุมขนได้อีกด้วย การฉีดโบท็อกลดริ้วรอยจะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 สัปดาห์ และอยู่จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน แล้วแต่รุ่นและยี่ห้อของโบท็อกที่ใช้ เพราะแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณสมบัติ จุดเด่น ระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง
เป็นยังไงกันบ้างคะกับรวมทริค!! ลดริ้วรอยบนใบหน้า ผิวสวย ดูอ่อนกว่าวัย ที่เรานำมาฝากกัน อ่านแล้วสนใจวิธีไหนอยากทำตามก็ลองทำตามกันดูได้เลยนะคะ เพื่อใบหน้าที่สวยใสไร้ริ้วรอยมากวนใจของเพื่อนๆค่ะ