เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลที่ทำให้อากาศมีความแห้งมากยิ่งขึ้น ทำให้ประสบปัญหาหนังศีรษะและเส้นผมที่มาพร้อมอาการคันยิบ ๆ หรือที่เรียกว่ามีรังแคบนหนังศีรษะนั่นเอง ยิ่งสาว ๆ คนไหนไว้ผมยาวก็จะยิ่งทำให้คันมากขึ้นไปกว่าเดิม ซึ่งรังแคเป็นอาการที่สามารถพบได้ทั่วไป ผู้คนมากมายต่างพบเจอกับปัญหานี้ กลายเป็นรังแคทำให้เกิดความไม่มั่นใจและวิตกกังวลขึ้นมาได้ เพราะเกล็ดขาว ๆที่เป็นแผ่นๆ ร่วงติดเสื้อผ้าเต็มไปหมด ยิ่งวันไหนที่ใส่เสื้อสีดำและมีรังแคร่วงลงมายิ่งกลายเป็นหมดความมั่นใจเข้าไปใหญ่ เพราะจะสามารถเห็นเจ้ารังแคได้อย่างชัดเจน
เราจึงคอยสรรหาวิธีเพื่อมากำจัดรังแคและรักษาให้หายขาด ทั้งหาแชมพูที่สามารถกำจัดรังแคได้ก็แล้วแต่ก็ยังไม่หาย เราจึงควรรู้ก่อนว่าสาเหตุคืออะไร ปัญหานี้จะสามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอน วันนี้เราจึงนำวิธีรักษารังแคให้หายขาด ช่วยลดรังแคแก้ปัญหาได้ดีขึ้น และเห็นผลระยะยาว มาฝากทุกคนทั้งหนุ่มและสาวที่กำลังเจอปัญหานี้กวนใจอยู่ ถ้าอยากรู้แล้วไปลองดูกัน
สาเหตุหลักของรังแค เกิดจากอะไร?
หนังศีรษะจะประกอบไปด้วยเซลล์ผิวหนัง โดยปกติจะมีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวใหม่ทุกๆ 28 วันเช่นเดียวกับผิวหนังตามลำตัวทั่วร่างกาย เซลล์เก่าที่ตายแล้วจะถูกผลัดออกไปแล้วจะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทน รังแคจึงเกิดจากการหลุดลอกของชั้นนอกสุดของหนังศีรษะมากเกินไป หลุดลอกในอัตราเร็วที่มากหรือเป็นส่วนที่ตกสะเก็ตลงมาในปริมาณที่มากกว่าปกติ เมื่อกระบวนการนี้เกิดเร็วขึ้น ทำให้เกิดสะเก็ตสีเทาหรือสีขาวขึ้น โดยเกิดเป็นรังแคขึ้นมานั่นเอง สาเหตุของการเกิดรังแคร์ก็มีดังนี้
- อากาศในฤดูกาลที่ทำให้อากาศแห้ง ผิวหนังก็จะแห้งตามไปด้วยรวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันในห้องปรับอากาศที่เย็นและมีความชื้นต่ำ ก็จำทำให้หนังศีรษะหลุดลอกออกมาได้มาก
- หนังศีรษะได้รับเคมีรุนแรงเป็นประจำ เช่น ทำสีผมบ่อย สเปรย์ฉีดผม ดัดผมบ่อย ใช้แชมพูแรงๆ ซึ่งเหล่านี้ล้วนประกอบไปด้วยสารเคมีแรงๆที่จะทำให้หนังศีรษะถูกกระทบมาก ทำให้แห้งและทำให้มีการเร่งผลัดเซลล์ผิวในอัตราเร็วกว่าปกติ จึงเกิดกายเป็นรังแคหลุดร่วงลงมา
- การเร่งผลัดเซลล์ผิวในอัตราที่ผิดปกติ เซลล์ที่ตายแล้วจะหลุดออกมาสะสมกับกลายเป็นก้อนหนาๆหรือก็คือรังแคนั่นเอง จากนั้นจะเกิดอาการคัน รังแคจะไปอุดตันรูขุมขนของเส้นผม ทำให้หนังศีรษะขาดน้ำมันหล่อลื่น จึงแห้งคัน พอเกาก็จะทำให้รังแคหลุดร่วง
- มีเชื้อรา Malassezia ที่เป็นเชื้อราที่เติบโตในความมัน เมื่อมีเชื้อราชนิดนี้ในหนังศีรษะมาก หนังศีรษะก็จะมีสุขภาพที่แย่ลง สารที่เกิดจาก Malassezia จะทำให้เกิดอาการคัน ก็จะทำให้เกิดรังแคได้มากขึ้น
สำหรับคนที่มีปัญหารังแคเรื้อรัง ก็อาจทำให้หนังศีรษะเกิดการอักเสบและมีเชื้อราเจริญเติบโตมากผิดปกติ ทำให้เกิดกลายเป็นรังแคที่เป็นปัญหากวนใจใครหลายคน
ลักษณะของรังแค?
รังแคมีลักษณะเป็นสะเก็ดขาว สะเก็ดสีเทาหรือสะเก็ดสีเหลือง เล็กๆ หลุดออกมาจากหนังศีรษะ มักพบเห็นที่บริเวณหนังศีรษะ เส้นผม และไหล่ มีผิวหนังแห้งร่วมด้วย มีหนังศีรษะที่แห้งและแดง จนเกิดกลายเป้นอาการคันร่วมเข้ามาด้วย ยิ่งถ้าฤดูกาลไหนที่มีอากาศแห้งก็จะยิ่งเกิดเป็นสะเก็ดเยอะมากๆ จนหลุดร่วงลงมาเป็นรังแค
7 วิธีรักษาแก้ปัญหารังแคให้หายขาด
การรักษารังแคสามารถรักษาได้หลายรูปแบบทั้งใช้แชมพูที่มีสารสกัดในการกำจัดรังแค ใช้ยารักษารังแค หรือใช้วิธีการกำจัดรังแคแบบธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับความชอบและผลลัพธ์ในการรักษารังแคได้หรือไม่ ซึ่งมีวิธีการรักษารังแค ดังนี้
1.ใช้แชมพูและยารักษารังแค
แชมพูขจัดรังแคสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป โดยแชมพูขจัดรังแคต้องผ่านการทดสอบแล้วว่าจัดการอาการทั้งหมดที่เกิดจากรังแคได้ มีสูตรต่างๆที่หลากหลาย โดยขึ้นอยู่กับอาการ ประเภทของเส้นผม และความต้องการ ยารักษารังแคส่วนมากก็จะมาในรูปแบบของแชมพูเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นชนิดน้ำ ควรใช้แชมพูยาชนิดใดชนิดหนึ่งจนกว่าจะควบคุมอาการของรังแคได้ ยาที่มีฤทธิ์รักษารังแคมีจำหน่ายอยู่หลายชนิด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ถ้าไม่ได้ผลก็แค่ลองเปลี่ยนไปใช้ตัวยาอื่นดู โดยยาที่สามารถรักษารังแคได้ มีดังนี้
- ซิงค์ไพริไทออน (zinc pyrithione) แชมพูยาที่มีตัวยานี้มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยลดอาการคันและลดการลอกของหนังศีรษะได้ แต่อาจจะเกิดอาการแพ้ได้
- ซีลีเนี่ยมซัลไฟด์ (selenium sulfide) ออกฤทธิ์โดยลดการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังชั้นขี้ไคลของหนังศีรษะ จึงช่วยในเรื่องของการลดการเกิดรังแคได้
- คีโทโคนาโซล (ketoconazole) เป็นยาฆ่าเชื้อรา มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา
- ยาแอสไพริน (Aspirin) เป็นยาที่อยู่ในรูปของยาแก้ปวด แอสไพรินมีสารที่ออกฤทธิ์เช่นเดียวกับ Salicylic acid ที่อยู่ในแชมพูกำจัดรังแคมากมาย จึงมีส่วนช่วยในการกำจัดรังแคออกไปได้
2.ใช้เกลือเพื่อกำจัดรังแค
เกลือมีสรรพคุณที่ช่วยในการฆ่าเชื้อโรค จึงมีประโยชน์ในการขจัดแบคทีเรียและเชื้อราบนหนังศีรษะ ควรใช้เกลือที่เม็ดละเอียดมาก ๆเพราะไม่เช่นนั้นเกลืออาจจะบาดที่หนังศีรษะได้ วิธีการใช้คือนำเกลือมาถูกบริเวณหนังศีรษะแล้วล้างน้ำออก จากนั้นก็สระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยนได้เลย
3.ขจัดรังแคด้วยเบกกิ้งโซดา
ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะ และช่วยชะล้างสะเก็ดรังแค วิธีการทำคือนำน้ำมาผสมกับเบกกิ้งโซดา นวดลงบนหนังศีรษะจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดและทำการสระผมด้วยแชมพูที่มีความอ่อนโยน
4.ใช้มะนาวในการช่วยกำจัดรังแคออกไป
โดยมะนาวมีกรดที่ช่วยทำความสะอาดเส้นผม ทั้งยังนำมาใช้หมักผม เพื่อลดการเกิดรังแคได้และยังทำให้เส้นผมของเราแข็งแรงขึ้นตั้งแต่โคนจรดปลาย วิธีการทำก็คือนำน้ำมะนาวมาผสมกับน้ำต้มสุก เอามาหมักผมไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นล้างน้ำออกให้สระอาดและทำการสระผมด้วยแชมพูที่อ่อนโยน เท่านี้รังแคบนหนังศีรษะก็จะหายไป
5.ขจัดรังแคด้วยน้ำมะกรูด
สรรพคุณของมะกรูดสามารถนำมาใช้ขจัดรังแค และแก้ปัญหาคันหนังศีรษะได้ วิธีการทำคือนำมะกรูดไปเผาไฟ บีบน้ำมะกรูดมาชโลมให้ทั่วศีรษะ หมักทิ้งไว้หลังจากนั้นทำการล้างออกด้วยน้ำที่สะอาด และใช้แชมพูสระผมอีกทีเพื่อความสะอาด
6.ใช้น้ำผึ้งดิบหรือน้ำผึ้งที่ไม่ผ่านความร้อนมาขจัดรังแค
น้ำผึ้งดิบเป็นสารธรรมชาติที่สามารถดูดความชื้นออกไปจากหนังศีรษะได้ จึงทำให้เส้นผมเก็บความชุ่มชื้นไม่ทำให้หนังศีรษะแห้งหลุดออกมาเป็นสะเก็ด อีกทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่ช่วยในการบำรุงผม ซึ่งน้ำผึ้งจะสามารถลดการเกิดรังแคปละป้องกันการเกิดรังแคจากผมที่งอกขึ้นใหม่ได้อีกด้วย วิธีการทำคือทาน้ำผึ้งลงบนหนังศีรษะและทำการนวดเบาๆ ทิ้งไว้และทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลังจากนั้นก็สระผมให้สะอาดอีกหนึ่งรอบ
7.น้ำมันมะกอก (Olive oil)
การหมักผมด้วยน้ำมันมะกอกจะช่วยบำรุงหนังศีรษะให้มีความชุ่มชื้นป้องกันการทำให้หนังศีรษะแห้งและหลุดลอกออกมา และช่วยรักษาปัญหารังแคได้เป็นอย่างดี วิธีการคือนำน้ำมันมะกอกมาชโลมลงบนหนังศีรษะ หรือบริเวณที่เป็นแผลตกสะเก็ต หมักทิ้งไว้และทำการล้างออกด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยการสระผมด้วยแชมพูที่มีความอ่อนโยน เท่านี้ก็สามารถช่วยกำจัดรังแคออกไปได้
การดูแลและป้องกันการเกิดรังแค?
- ควรใช้แชมพูที่มีส่วนผสมในการกำจัดรังแค อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ละควรสระผมทุกวันเพื่อกำจัดน้ำมันส่วนเกิน โดยควรเลือกใช้แชมพูขจัดรังแคสูตรอ่อนโยน
- หลังสระผมเสร็จแล้วควรเช็ดผมให้แห้งทุกครั้ง ไม่ควรทิ้งผมเปียกไว้นานๆ ใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดค่อยๆ ซับเบาๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความอับชื้นที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป้นต้นเหตุของการเกิดของเชื้อรา
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับหนังศีรษะ เช่น การทำสี การยืด การดัดผม ใช้สเปรย์ฉีดผม หรือการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะเป็นอันตรายต่อหนังศีรษะและทำให้เกิดการระคายเคืองขึ้นมาได้ อีกทั้งยังเป็นปัจจัยเสริมทำให้เกิดรังแคเพิ่มขึ้นอีกด้วย
- ลดความร้อนของไดร์เป่าผมที่ใช้ เพราะความร้อนจะยิ่งทำให้หนังศีรษะมีความแห้งและก่อให้เกิดรังแคตามมาได้
- ห้ามเกาศีรษะแรงๆ ด้วยเล็บ เพราะยิ่งเกาแรงๆก็จะยิ่งทำให้มีสะเก็ดหนังศีรษะตกลงมาได้มากและเกิดการสะสมกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้
- พยายามไม่ใช้น้ำอุ่นสระผม เพราะน้ำอุ่นทำให้น้ำมันธรรมชาติบนหนังศีรษะถูกล้างออกมากเกินไป หนังศีรษะจะแห้ง พอแห้งก็จะสามารถเกิดรังแคขึ้นมาได้
- หวีผมเบาๆ และหมั่นรักษาความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้กับผม ไม่ควรใช้หวีที่มีความแข็งจนเกินไปเพราะจะทำให้เกิดการดึงผมแรงๆ และเกิดการหลุดร่วงมากขึ้น อีกทั้งควรทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้กับผมหรือศีรษะ เพื่อช่วยลดการสะสมของเชื้อราบนหนังศีรษะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีการกำจัดรังแคให้หายขาด อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดรังแค สามารถแก้ปัญหาได้ดีขึ้นแถมยังได้ผลในระยะยาวที่เราได้นำมาฝากทุกๆคนในวันนี้ หวังว่าใครก็ตามที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่จะสามารถจัดการมันออกไปได้ไม่ใช่มากวนใจจนต้องวิตกกังวลนะคะ อีกทั้งยังทำให้เรามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย เพราะการไม่มีรังแคก็ถือได้ว่าเป็นภาพลักษณ์ที่ดีอย่างหนึ่งเลย
แหล่งที่มา
- https://www.sanook.com/campus/1041451/
- https://www.cosmenet.in.th/cosme-intrend/21839
- https://www.akerufeed.com/health/20-cures-for-dandruff
- https://www.drornhaircenter.com/what-causes-dandruff/
- https://women.kapook.com/view241647.html
- https://www.herbforhair.com/content/7392/6-tips-to-keep-dandruff-away