มนุษย์เราทุกคนย่อมเคยเจอกับปัญหาผิวแตกลายแน่นอนอยู่แล้ว แล้วผิวแตกลายพวกนี้ เกิดมาจากอะไรบ้าง? ยกตัวอย่าง น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นกะทันหันหรือมากเกินไป การมีบุตรทำให้เกิดผิวแตกลายจากการขยายตัวของหน้าท้อง หรือสาเหตุอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้น วันนี้เราจะมาแบ่งปัน 5 วิธีรักษาผิวแตกลาย ที่ได้ผลดีที่สุดแก่ทุกคนค่ะ
ข้อที่ 1 วิธีใช้ Retinal Cream
อันดับแรกถ้าไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ กับการใช้ครีมรักษารอยแตกลาย เพราะนับว่าเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกสะบายที่สุดเป็นการใช้ยาในกลุ่มของอนุพันธ์กรดวิตามินเอ (Vitamin A) เช่น Retinal (เรตินอล) หรือกรดวิตามินเอนั้น เป็นที่นิยมในการใช้เป็นสกินแคร์และยารักษาผิวหนังมานานแล้ว ทั้งเรื่องสิวและริ้วรอย (anti-aging) และแน่นอนว่าที่นิยมที่สุด ก็คือการนำมาใช้ในการรักษารอยแตกลายนั่นเอง
วิธีการใช้ Retinal Cream
- ขั้นตอนที่ 1 หลังอาบน้ำเสร็จ ต้องเช็ดตัวให้แห้ง และรอจนผิวแห้งสนิทประมาณ 10 นาทีก่อน
- ขั้นตอนที่ 2 ทาครีม Retinal ลงบนผิวบริเวณที่แตกลาย โดยไม่ต้องลงครีมบำรุงหรือโลชั่นอื่นๆทับอีก
- ขั้นตอนที่ 3 ให้ทาเฉพาะเวลาก่อนเข้านอน และทาแค่วันเว้นวันเท่านั้น
แต่การใช้ Retinal ที่เป็นสารเคมีในการรักษา แม้ว่าจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแต่ก็เลี่ยงไม่ได้ว่ามันก้คือสารสังเคราะห์ชนิดหนึ่ง ดังนั้น การใช้จึงต้องระมัดระวัง ให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและพอดี เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละบุคคลต่างกัน จึงควรพึงระวังอาการแพ้ แสบ แดง ไว้ด้วย หากเกิดอาการแพ้หรืออื่นๆ ให้หยุดใช้และปรึกษาแพทย์ผิวหนังในทันที ที่สำคัญ สตรีมีครรภ์ห้ามใช้สารชนิดนี้เด็ดขาด
ข้อที่ 2 วิธีใช้น้ำมัน พลังจากธรรมชาติ เคล็ดลับเติมน้ำให้ผิวแบบสาวเอเชีย
เริ่มจาก Olive Oil หรือน้ำมันมะกอกนั่นเอง สารพัดประโยชน์จากน้ำมันมะกอกทั้งช่วยบำรุงผมและผิวพรรณ ในน้ำมันมะกอก ประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ให้ความชุ่มชื้น และยังมีฤทธิ์เย็น จึงเหมาะกับการนำมาใช้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวมากค่ะ
วิธีใช้น้ำมันมะกอกในการรักษารอยแตกลาย
- ขั้นตอนที่ 1 นำน้ำมันมะกอกไปอุ่นในไมโครเวฟเล็กน้อยให้พออุ่น
- ขั้นตอนที่ 2 ทาและนวดวนเบาๆบนผิวบริเวณที่มีรอยแตกลาย โดยไม่ต้องล้างออก
นอกจากคุณสมบัติในตัวของน้ำมันมะกอกเองแล้ว ความอุ่นยังคงช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิตและช่วยให้ผิวนุ่มขึ้นอีกด้วย น้ำมันธรรมชาติที่ใช้ได้ ยังมีอีกหลายอย่าง เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันละหุ่ง น้ำมันอัลมอนด์ และน้ำมันอะโวคาโด เป็นต้น
ข้อที่ 3 วิธีสครับผิว ด้วย Sugar Scrub อย่างอ่อนโยน
การสครับผิวเป็นการทำเพื่อขัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ซึ่งแน่นอนว่าการใช้น้ำตาล ก็สามารถนำมาใช้สำหรับแก้รอยแตกลายได้ด้วย แสดงว่าสครับน้ำตาล สามารถขจัดได้ทั้งเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว และยังสามารถทำให้รอยแตกลายดูจางลงได้อีกด้วย
ปัจจุบันสครับน้ำตาลสำหรับขัดผิว มีมากมายหลายยี่ห้อในท้องตลาด ตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน สารพัดสูตรและส่วนผสมที่ช่วยดูแลผิวมากมายให้เลือกสรร เรียกได้ว่าสะดวกมากมาก ดังนั้น สามารถเลือกใช้ได้ตามสะดวกและตามความพึงพอใจส่วนบุคคลลของแต่ละคนได้เลยค่ะ
แต่ถ้าใคร อยากลองทำแบบประหยัดงบ เราก็มีสูตรง่ายๆที่ทำตามได้ที่บ้านมาฝากค่ะ
- ขั้นตอนที่ 1 ตวงน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ตักใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
- ขั้นตอนที่ 2 หยดน้ำเลมอน และน้ำอัลมอนด์ ลงไปในภาชนะที่ใส่น้ำตาลไว้ก่อนหน้านี้
- ขั้นตอนที่ 3 คนให้ส่วนผสมทั้ง 3 อย่างเข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
- ขั้นตอนที่ 4 นำไปใช้ได้เลย
วิธีการใช้สครับแบบทำเอง
ทาวนสครับบนผิวบริเวณที่แตกลายประมาณ 3-5 นาที หลังจากนั้น ล้างออกด้วยน้ำอุ่น และเช็ดให้แห้ง เมื่อทำเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 1 เดือนผ่านไป ก็จะเริ่มเห็นผลค่ะ
ข้อที่ 4 วิธีง่ายๆ ดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์กับผิว
ร่างกายของเรา ดำรงอยู่ได้ด้วยการได้รับสารอาหารที่จำเป็นและเพียงพอ ผิวพรรณของเราก็เช่นกัน การเลือกทานอาหารที่ให้คุณประโยชน์กับผิวพรรณจึงเป็นอีกส่วนสำคัญที่จำเป็น ในการรักษาและฟื้นฟูผิว โยสารอาหารต่างชนิด ก็ให้ผลลัพธ์กับผิวที่แตกต่างออกไป ดังนั้น สารอาหารที่สำคัญและจำเป็นต่อการช่วยรักษาและฟื้นฟูรอยแตกลายนั้น ได้แก่ อาหารที่มีวิตามินเอ (Vitamin A), อาหารที่มีวิตามินซี (Vitamin C), อาหารที่มีวิตามินดี (Vitamin D) และอาหารที่มีแร่สังกะสี
- ยกตัวอย่าง อาหารที่มีวิตามินเอ (Vitamin A) และแร่สังกะสี ได้แก่ ฟักทอง แครอท ตำลึง มะละกอ ผักบุ้ง และกวางตุ้ง เป็นต้น
- ยกตัวอย่าง อาหารที่มีวิตามินซี (Vitamin C) และวิตามินดี (Vitamin D) ได้แก่ เนย นม ตับ และปลาแซลมอน เป็นต้น
นอกจากการทานวิตามินแล้ว การดื่มน้ำให้มากเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายก็สำคัญเช่นกัน เพราะน้ำเปล่านั้นมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว ส่วนเครื่องดื่มที่ควรหลีดเลี่ยง อันได้แก่ ชาและกาแฟ เป็นต้น
ข้อที่ 5 วิธีลัดสู่ผิวเรียบเนียน กับเลเซอร์ผิวแตกลายด้วยเครื่อง Picoway Laser ที่ได้ผลลัพธ์ดี มีประสิทธิภาพที่สุด
Picoway คืออะไร?
นวัตกรรมเลเซอร์ระบบใหม่ล่าสุดของโลกที่มีฟังก์ชั่นหลากหลาย สามารถแก้ปัญหาผิวได้มากมายและตรงจุดภายในเครื่องเดียว PICOWAY Laser สามารถช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ โดยไม่เกิดการสะสมพลังงานความร้อน ทำให้ไม่กระทบผิวข้างเคียง และใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่าเครื่องเลเซอร์รุ่นก่อนๆ ปลอดภัยและได้มาตรฐาน 100 เปอร์เซ็นต์
Picoway ทำงานอย่างไร?
ในส่วนของ PicoWay RESOLVE / Fractional PicoWay จะใช้หลักการในการปล่อยแสง picosecond ออกมาเป็นจุดๆ ในพื้นที 6×6 ตร.มม.โดยมีมากถึง 100 จุด และจะใช้เทคโนโลยีพิเศษที่ชื่อว่า Holographic Fractional Handpiece ทำให้ได้จุดเลเซอร์ที่แม่นยำ และมีพลังงานที่สม่ำเสมอในทุกๆจุด โดยในแต่ละจุดเล็กๆนั้น เมื่อนำไปส่องดูด้วยกล้องขยาย จะเห็นว่ามีช่องว่างเล็กๆเกิดขึ้น ในชั้นผิวหนังแท้ (dermis) ที่เรียกว่า Laser-induced Cavity (LIC) ซึ่งพบได้เฉพาะ เทคโนโลยี Picoway เท่านั้น
การรักษาด้วย PicoWay มีขั้นตอนอย่างไร?
- ขั้นตอนที่ 1 เริ่มด้วยการทำความสะอาดผิวบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์และแปะยาชา ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีเพื่อรอยาชาออกฤทธิ์
- ขั้นตอนที่ 2 ขณะที่ยิงเลเซอร์จะให้ความรู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆจิ้มลงบนผิวถี่ ๆ และอาจรู้สึกอุ่นร้อนเล็กน้อยบนผิวบริเวณที่ทำ
- ขั้นตอนที่ 3 ใช้เวลาในการทำเลเซอร์ประมาณ 30-45 นาที ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละบุคคล
- ขั้นตอนที่ 4 หลังทำเลเซอร์ Picoway เรียบร้อย ก็จะใช้การประคบเย็นเพื่อสมานผิว ลดอาการแดงหลังการทำเลเซอร์
- ขั้นตอนที่ 5 บางรายจะมีอาการผิวแดงเล็กน้อยประมาณ 2-5 วัน หรืออาจมีอาการผิวบวมร่วมด้วยประมาณ 1-2 วันขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับการรักษารอยแตกลาย ควรทำการเลเซอร์ในขั้นเริ่มต้นตั้งแต่ 3-5 ครั้งขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
PicoWay Laser เป็นนวัตกรรมเลเซอร์จากสหรัฐอเมริกา (Candela, USA) ที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง “Dermatologist” และเป็นแบรนด์ที่ได้รับรางวัล The World’s Best Picosecond Laser จากการเปรียบเทียบกับเครื่องเลเซอร์ตระกูล pico laser หลายเครื่องทั่วโลก
ถ้าให้เทียบ Picoway กับเลเซอร์ Q – Switched ที่มีมาก่อนหน้านี้ เทคโนโลยี Picosecond ของ Picoway มีความเร็วกว่าเลเซอร์ Q – Switched หรือ Nanosecond มากถึง 1,000 เท่า โดย Picoway สามารถส่งเลเซอร์ลงไปยังชั้นผิวหนังแท้ได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย เห็นผลไว และมีประสิทธิภาพในการรักษาสูง ถึงแม้ว่าเครื่องเลเซอร์จะมีพลังงานความร้อน แต่ด้วยนวัตกรรมใหม่นี้ ความร้อนจึงไม่สะสมบนผิว ทำให้ไม่เสี่ยงต่อการเกิดการผิวไหม้ และไม่ทำลายเซลล์ผิวโดยรอบ
หลังการทำเลเซอร์จะเจ็บน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องเลเซอร์รุ่นอื่น รวมไปถึงถึงรอยแดงหรือรอยตกสะเก็ดหลังจากการทำเลเซอร์ ก็น้อยกว่าเลเซอร์กลุ่ม Q-Switch และกลุ่มอื่นๆที่ใช้ในการรักษารอยแตกลาย นอกจากนี้ PicoWay ยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ใต้ชั้นผิวได้อีกด้วย ทั้งยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ เนื้อเยื่อบริเวณรอยแผลเป็นให้เรียบเนียน ช่วยให้ผิวแข็งแรง เปล่งปลั่ง สดใสและดูอ่อนเยาว์ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต แต่อย่าลืมว่าผลลัพธ์ที่จะได้จากการรักษาด้วยเลเซอร์นั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย
สรุป
การรักษารอยแตกลายนั้น มีหลากหลายวิธีการและการดำเนินการ ทั้งการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ธรรมชาติบำบัด สารเคมี ยารักษาต่างๆ รวมไปถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งนี้ การเลือกใช้วิธีรักษาที่เหมาะกับปัญหาผิว งบประมาณหรือเงินทุนที่ใช้ในการรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีวิธีไหนถูกหรือผิด เพียงแต่ แต่ละวิธีก็จะให้ผลลัพธ์และความเร็วของการเกิดผลลัพธ์จากการรักษาแตกต่างกันออกไป