หลายๆคนคงมีปัญหา เรื่องของโครงสร้างใบหน้า อยากมีหน้าที่เรียว ดูสวย ดูมีคางมากยิ่งขึ้น อยากให้หน้าดูยาวขึ้นหน้าเรียวเป็นวีเชฟ แต่มีวิธีไหนบ้างที่จะปลอดภัย ให้ผลลัพท์ที่ดูเป็นธรรมชาติ วันนี้เราได้รวบรวมวิธีการทำให้หน้าเรียวดูมีคางมากยิ่งขึ้น ด้วยวิธีธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าของทุกคนนั้น ดูยาว สวยเขารูปมากยิ่งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างของใบหน้าไม่ได้ดั่งใจ แก้ปัญหา หน้าสั้น คางตัด คางบุ๋ม ไม่ว่า จะเป็น ด้วยวิธีการธรรมชาติ เช่นกันนวดหน้า การออกกำลังกาย หรือจะเป็นการ เติมฟิลเลอร์ ไปดูกันค่ะว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยทำให้หน้าดู เรียวเล็ก เพื่อที่ จะสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนมากยิ่งขึ้น ในเวลาถ่ายรูป หรือการต้องพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก ไปดูกันเลยค่ะ
1. บริหารหน้าให้ หน้าเรียวดูมีคางมากยิ่งขึ้น
เวลาเราทำการบริหารหน้าแล้วหรือ วิธีการ ทำโยคะ หน้า วิธีนั้นจะสามารถช่วยลดแก้มและบริหารกล้ามเนื้อทำให้ใบหน้า มีความประชับมากยิ่งขึ้น โดยวิธีนี้จะเป็นการทำให้หน้าเรียวดูมีคางมากยิ่งขึ้นด้วย วิธีธรรมชาติ สามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนและไม่เจ็บตัวได้ค่ะ ซึ่งถ้าที่เราแนะนำในวันนี้มีทั้งหมดห้าท่าด้วยกัน ไปดูกันค่ะว่ามีท่านไหนบ้าง
เริ่มจากการทำปากจู๋ และดูดแก้มทั้งสองข้างเข้าหากัน ทำค้างไว้ประมาณสิบถึงสิบห้าวินาที ทำเวลาที่สาวๆว่าง ทำทุกวัน ท่านี้จะช่วยทำให้ หน้าเรียวคางดูยาวมากยิ่งขึ้นทำให้แก้มที่ดูย้อยนั้นมีความกระชับมากยิ่งขึ้น
อมอากาศไว้ในแก้มข้างใดข้างหนึ่ง จากนั้นด้านอากาศจะแก้มอีกด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง สลับกันไปมาทำประมาณสิบห้าถึงยี่สิบวินาที สามารถทำได้ ตอนเวลาว่าง เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยทำให้ ใบหน้าดูเรียว ยาวมากยิ่งขึ้นค่ะ
ใช้ลิ้นแตะที่เพดานปาก จากนั้นให้ยิ้มในลักษณะที่เห็นฟันจากนั้นเงยหน้าขึ้นและยืดคอขึ้นให้รู้สึกตึงมากที่สุด ทำค้างไว้ประมาณสิบวินาทีทำวันละสิบถึงสิบห้าครั้ง ท่านี้จะช่วยทำให้ ลดเหนียงบริเวณใต้คาง ทำให้คางดู เรียวยาวมากยิ่งขึ้น ดูมีโครงหน้ามากยิ่งขึ้น อ้าปากให้กว้างที่สุดทำค้างไว้ประมาณสิบถึงสิบห้าวินาที ทำวันละสิบครั้ง ท่านี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า และกรอบหน้า จะช่วยทำให้หน้าดูเรียว ดูมีคางมากยิ่งขึ้น
2.นวดบริหารหน้าเพื่อให้หน้าดูเรียว มีคางมากยิ่งขึ้น
การนวดก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้หน้าของสาวๆเรียวเล็กและดูมีคางมากขึ้น เพียงนวดง่ายๆ ด้วยมือเรานี่เองค่ะ ส่วนวิธีทำนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
- วิธีการนวดหน้าบริเวณ หน้าผาก วิธีการนวดหน้าเพื่อบริหารกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากนั้น สามารถทำได้ ตัวใช้นิ้วนางและนิ้วกลาง นวดวนบริเวณหน้าผากเป็นวงกลม หนวดขึ้น จนถึงบริเวณขมับ ทำซ้ำๆแบบนี้สามครั้ง ในครั้งสุดท้ายที่ทำนั้นให้นวดกดจุดบริเวณที่ขมับ จะช่วยผ่อนคลาย แอร์ยังช่วยทำให้หน้าเรียว และ ไม่มีริ้วรอยอีกด้วยค่ะ
- วิธีการนวดหน้าบริเวณแก้มสำหรับคนที่มี เนื้อแก้มเยอะมีความหย่อนคล้อย ในส่วนของการนวดหน้า เพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม ให้ดูเรียวเล็กมากยิ่งขึ้น สามารถทำได้โดยใช้ปลายนิ้วทั้งสองข้างนวดจากมุมในปาก ให้นวดยกผิวขึ้นเป็นมุมกว้าง และค้างไว้ประมาณสี่ถึงห้าวินาที หลังจากนั้นให้นวดลูบลง ทำแบบนี้สามครั้ง ก็จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก และดูมีคางมากยิ่งขึ้นค่ะ
3.วิธีทำให้หน้าเรียวด้วยการอมขวดน้ำ
วิธีนี้จำเป็นต้องมีอุปกรณ์หนึ่งอย่างนั้นก็คือขวดน้ำนั่นเองค่ะ เพียงแค่ขวดน้ำขวดเดียวก็จะช่วยทำให้หน้าสาวๆดูเรียวเล็กมีคางมากยิ่งขึ้นค่ะส่วนวิธีทำนั้นทำได้ง่ายๆ เพียงเริ่มจากใส่น้ำปริมาณ 100มิลลิลิตร ลงไปในขวดน้ำขนาด 600 มิลลิลิตร หลังจากนั้นให้ใช้ริมฝีปากดูดปากของขวดน้ำพร้อมยกขวดขึ้นโดยต้องไม่ใช้ฟันนะคะ ให้ทำท่านี้ค้างไว้สิบวินาที ทำวันละสองถึงสามครั้ง วิธีนี้นั้นจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณรอบปากและโครงหน้าทำให้หน้าดูเรียวเล็กลงและดูมีคางมากข้นนั้นเองค่ะ
4.เลือกทรงผมก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวมากขึ้นได้เหมือนกันนะ
การเลือกทรงผมให้เหมาะกับรูปหน้า ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ควรเลือกทรงผมให้เหมาะกับ โครงสร้างของใบหน้าเรา สังเกตว่าตัวเองนั้นมี รูปทรงของใบหน้าเป็นแบบไหน มีจุดไหนที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ จุดไหนที่ต้องการโชว์ เพื่อให้เห็นความยาวของใบหน้า การเปลี่ยนผมทรงใหม่ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ ใบหน้าดูเรียวยาวมากขึ้นได้ แม้ว่าจะเป็นการสไลด์ผมไล่ระดับลงมาให้ผมปิดด้านข้างของแก้ม ทำให้หน้าดูเรียวยาวมากยิ่งขึ้น หรือการตัดผมหน้าม้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าม้าซีทรูหรือหน้าม้าปกติ ก็สามารถช่วยลดพื้นที่บนใบหน้า ซึ่งทรงผมที่ยกตัวอย่างมานั้น สามารถช่วยอำพราง ใบหน้าที่ดูใหญ่ ทำให้หน้าดูเรียวมากยิ่งขึ้น ทำให้ดูมีคางมากยิ่งขึ้นค่ะ
5.การทำฟิลเลอร์คาง
วิธีนี้เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่กำลังยอดฮิตและมาแรงมากๆเลย นั่นก็คือการทำฟิลเลอร์คาง จะทำให้คางของสาวๆนั้นดูยาวมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องพักฟื้นเลย ซึ่งการทำฟิลเลอร์คางนั้น ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ส่วนจะมีวิธีการและมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
การฉีดฟิลเลอร์คางนั้นสามารถแก้ปัญหาคางสั้นคางตัดคางถอยหรือคางเบี้ยวนั่นเองค่ะ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถปรับรูปหน้าและเสริมให้คางดูเรียวสวยมากยิ่งขึ้น ซึ่งในแต่ละเคสนั้นในการฉีดฟิลเลอร์คาง แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าแต่ละเคสเหมาะกับการใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนและใช้ปริมาณเท่าไหร่ และจำเป็นต้องฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อจะได้เทคนิคที่ถูกต้อง และเห็นผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ฟิลเลอร์คางนั้นคือการฉีดสารเติมเต็ม ประเภทไฮยารูรอนิคแอซิดเข้าไป บริเวณคางเพื่อเสริมคาง ให้ดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น และจะช่วยทำให้หน้าเรียววีเชฟมากยิ่งขึ้น โดยหลังทำฟิลเลอร์คางนั้นสามารถเห็นผลได้ทันที ไม่มีอาการบวมช้ำเหมือนการผ่าตัด ฟิลเลอร์นั้นสามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติ
ซึ่งฟิลเลอร์คางนั้น เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัดเสริมคาง และคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น และเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการ เสริมคางให้ยาวมาก ฟิลเลอร์คางจะไม่อันตราย หากฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตัวฟิลเลอร์นั้นจะสามารถสลายไปเองได้โดยไม่มีสารตกค้างและไม่เป็นอันตรายนั่นเองค่ะ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีอาการบวมช้ำ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที เหมาะกับคนที่อยากต้องการหน้าเรียวแบบเร่งด่วน
- รูปทรงฟิลเลอร์นั้นหากสั้นเกินไปสามารถเพิ่มเติมได้ หรือถ้าหากยาวเกินไปนั้นสามารถสลายบางส่วนออกได้ในทันที ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
- รูปทรงของฟิลเลอร์นั้นจะเป็นธรรมชาติมากๆ ขึ้นกับเทคนิคการฉีดที่ใช่ และฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง
- ระยะเวลาของฟิลเลอร์นั้นการเสริมฟิลเลอร์คางนั้นจะอยู่ได้แค่หนึ่งถึงสองปีต่อการฉีดหนึ่งครั้ง จึงจำเป็นที่จะต้องกลับมาฉีดซ้ำ หากฟิลเลอร์สลายไปนั่นเองค่ะ
- หากฉีดฟิลเลอร์ข้างในเนื้อคางชั้นที่ตื้นเกินไป ถึงแม้จะเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน แต่เมื่อเวลาผ่านไปนั้นอาจจะส่งผลทำให้เนื้อข้างผิดรูปได้ แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคที่ถูกต้องนั้นปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นค่ะ
วิธีการเลือกฟิลเลอร์ที่จะมาฉีดบริเวณคาง
ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง มีเนื้อแน่นไม่ฟู เพื่อให้สามารถปั้นเป็นทรงที่สวยได้ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ครั้งนั้นจะเป็นการฉีดเพื่อเสริมกระดูกไม่ใช่การเติมเนื้อ ดังนั้นควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูงนั่นเองค่ะ
ข้อแนะนำก่อนการฉีดฟิลเลอร์คาง
- ควรศึกษาข้อมูลที่จำเป็น รวมถึงเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงการ สังเกตฟิลเลอร์แท้ เพื่อความปลอดภัย
- ควรศึกษายาและวิตามินบางชนิด ที่ควรงดก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ยาและวิตามินบางชนิดที่คนงดก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ยกตัวอย่างเช่น แอสไพริน และวิตามินอี
- งดการ ผลัดเซลล์ผิวหรือการดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
- แจ้งให้แพทย์ทราบเมื่อมีโรคประจำตัวหรือมียาที่ทาน เป็นประจำ
ข้อควรปฏิบัติหลังจากการฉีดฟิลเลอร์คาง
- หลีกเลี่ยงการแกะและเกา ในจุดที่ ฉีดฟิลเลอร์
- มันอยู่ในบริเวณที่มีอากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อยสี่สิบแปดชั่วโมง เช่นการออกกำลังกายหนักตากแดด ว่ายน้ำ หรือซาวน่า
- งดการขยับผิวในจุดที่ ทำการฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะช่วงสามวันแรก เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
- หากมีอาการบวมแดง หรือเขียวช้ำนั้น ไม่ควรไปแตะ หากมี อาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดได้ ซึ่งอาการบวมแดงนั้น จะสามารถหายได้เป็นปกติ ภายในเวลาสองถึงสามวัน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับบทความ ที่เรานำมาให้ทุกคนได้อ่านในวันนี้ อยากมีใบหน้าที่เรียวนั้นสามารถทำไดหลายวิธีเลยใช่ไหมล่ะคะ ที่สำคัญควรดื่มน้ำออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะได้เห็นผลชัดเจนนั่นเอง และอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้หน้าเรียวยาวที่อยากแนะนำคือการฉีดฟิลเลอร์คางนั่นเอง ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย หากใช้ฟิลเลอร์แท้และทำการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยังไงหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ