สาวๆ ที่อยากดูแลตัวเองโดยเฉพาะผิวหน้าและผิวกาย และอยากให้เห็นผลลัพธ์ไวขึ้น อาจเคยคิดอยากขัดผิวทุกวันเพื่อเร่งผลลัพธ์แต่ก็ยังมีคำถามว่าการขัดผิวทุกวันสามารถทำได้หรือไม่ แล้วช่วยให้ผิวดีขึ้นรึเปล่า จะเป็นอันตรายหรือไม่ รวมทั้งตามหาสูตรขัดผิวที่ดีเห็นผลได้จริง เราจะนำทุกข้อควรรู้เกี่ยวกับการขัดผิวมาให้ทำความเข้าใจกัน เพื่อเลือกวิธีขัดผิวให้เหมาะสมกับตัวเองค่ะ
การขัดผิวสามารถทำได้ทุกวันหรือไม่?
การขัดผิวเป็นวิธีที่ทำให้ผิวผลัดเซลล์เก่าที่ตายไปแล้วออกได้อย่างง่ายดายขึ้น ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้สร้างขึ้น โดยหากไม่ได้ขัดผิวเลยอาจส่งผลให้เกิดปัญหาผิว เช่น ผิวหมองคล้ำ หยาบกระด้าง ขาดความกระจ่างใส ดูสุขภาพผิวไม่ดี เซลล์ผิวเก่าไปสะสมอยู่ในรูขุมขน ซึ่งทำให้เกิดเป็นสิวอุดตันได้อีกด้วย แต่การผลัดเซลล์ผิวจะช่วยให้ผิวได้ปรับสภาพ ขจัดสิ่งสกปรกออกไป พร้อมกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ที่แข็งแรง กระจ่างใสกว่าเดิม
โดยปกติสาวๆ ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยกลางคน ผิวหนังจะมีการผลัดเซลล์ 2 – 5 สัปดาห์ต่อครั้ง การขัดผิวจึงควรทำทุกๆ สัปดาห์ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกจนเกินไป และหากอยากขัดผิวทุกวันก็ทำได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับสูตรขัดผิวที่เลือกใช้ ถ้าเป็นสูตรที่มีความอ่อนโยนสูง และเป็นคนมีสภาพผิวปกติ แข็งแรง ไม่ได้มีสิว หรือเป็นผิวแพ้ง่าย ก็สามารถขัดทุกวันได้ค่ะ แนะนำให้ทำเฉพาะกับผิวกายเท่านั้น ซึ่งหากขัดผิวถี่เกินไปหรือเลือกสูตรไม่เหมาะสมก็อาจเกิดอันตรายได้ดังนี้
ผิวหมองคล้ำกว่าเดิม
เนื่องจากผิวบางลงและไวต่อแสงยิ่งขึ้น อาจถูกแสง UV ทำร้ายได้ง่าย
สิวขึ้นจากการติดเชื้อ
การขัดผิวที่มากเกินไปทำให้ต่อมน้ำมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันเพิ่ม ส่งผลให้สิวขึ้นได้ง่าย หรือเกิดอาการสิวเห่อขึ้นได้เช่นกัน
ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ
ปกติการขัดผิวจะทำให้ผิวแห้งขึ้นได้ง่าย หลังขัดผิวทุกครั้งจึงควรบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์
สูตรขัดผิวยอดฮิต
สำหรับคนที่กำลังมองหาสูตรขัดผิวแบบ DIY ทำได้เอง ด้วยส่วนผสมธรรมชาติ แนะนำสูตรที่ขัดแล้วเพิ่มความกระจ่างใส และประโยชน์อื่นๆ ตามความต้องการทั้งหมด 7 สูตรตามด้านล่างนี้เลย
สูตรนี้เหมาะกับคนที่อยากผลัดเซลล์ผิว พร้อมกระตุ้นผิวให้ผลิตเซลล์ใหม่เพื่อเพิ่มความกระจ่างใสเป็นพิเศษ ใช้ได้ผลดีกับคนที่เพิ่งกลับจากทะเล หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งหนักๆ มา โดยสามารถใช้มะขามเปียกคั้นน้ำแยกเม็ดและกากออกมาใช้ได้เลย หรือจะผสมกับส่วนผสมอื่น เพื่อเร่งผลลัพธ์ก็ได้ค่ะ แนะนำเป็นสูตรมะขามเปียก + นมสด + น้ำผึ้ง
1. สูตรขัดผิวขาวด้วยมะขามเปียก
ส่วนผสม
- มะขามเปียก 1 ก้อน
- นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้เนื้อที่ข้นๆ กำลังดี สามารถปรับสูตรตามขนาดพื้นที่หรือความเข้มข้นได้ตามต้องการ นำมาขัดผิวบริเวณต่างๆ ได้ตั้งแต่แขน ขา ข้อศอก เข่า ข้อพับ รักแร้ โดยให้ขัดวนเป็นวงกลม พอกทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะเหมาะสำหรับขัดผิวสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งค่ะ
2. สูตรกากกาแฟขัดผิวออร่าพุ่ง
สูตรขัดผิวด้วยกากกาแฟเป็นที่นิยมไม่แพ้สูตรมะขามเปียกเลยค่ะ เพราะให้ผลลัพธ์ขาวกระจ่างใสเช่นกัน แต่สูตรนี้จะขาวคนละแบบ เนื่องจากมะขามเปียกเน้นเรื่องการผลัดเซลล์ แต่ตัวกากกาแฟจะช่วยให้ระบบไหลเวียดเลือดสูบฉีดดี และส่งออกซิเจนไปเลี้ยงผิวนั่นเอง นอกจากนี้กากกาแฟยังสามารถขับสารพิษออกจากผิว และลดเซลลูไลท์ได้ดี ทำให้ผิวเรียบเนียนได้อีกด้วย โดยสูตรนี้สามารถนำกากกาแฟเพียวๆ ผสมน้ำเล็กน้อยมาใช้ขัดผิวเลยก็ได้ หรือจะทำตามสูตรด้านล่างเพื่อลดการระคายเคือง ช่วยผลัดเซลล์ผิวและเพิ่มความนุ่มด้วยมะขามเปียกกับขมิ้นก็ได้เช่นกัน
ส่วนผสม
- กากกาแฟ 1 ถ้วยตวง
- ผงขมิ้น ½ ถ้วย
- มะขามเปียก ½ ถ้วย
วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดรวมกันให้เป็นเนื้อละเอียด นำไปใช้ขัดผิวตามจุดที่ต้องการเป็นเวลา 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แนะนำว่าควรเตรียมพื้นที่ในการล้างให้ดีค่ะ เพราะตัวสครับกากกาแฟอาจเลอะพื้นและมีคราบติดได้ง่าย ซึ่งสูตรนี้เป็นสครับที่สามารถขัดผิวได้ทุกวัน แต่ต้องบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นหลังทำทุกครั้งค่ะ
3. สูตรผิวกระจ่างใสด้วยมันฝรั่ง
ใครที่ไม่ได้อยู่วงการขัดผิวแบบ DIY อาจจะงงๆ กับสูตรนี้เล็กน้อยว่าสูตรขัดผิวด้วยมันฝรั่งคืออะไร แล้วมันเอามาใช้กับผิวได้จริงๆ รึเปล่า สูตรนี้จริงๆ แล้วใช้บำรุงผิวได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะในตัวมันฝรั่งเขาจะมีวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวได้ดี ทำให้ผิวมีความแข็งแรงและกระจ่างใสขึ้นได้นั่นเอง
ส่วนผสม
- มันฝรั่ง 1 หัว
วิธีทำ
สามารถนำไปใช้ 2 แบบด้วยกัน คือการขัดผิวโดยมันฝรั่งสด และการคั้นน้ำนำไปบำรุงผิว โดยให้เอามันฝรั่ง 1 ลูกมาฝานเป็นชิ้นๆ นำชิ้นมันฝรั่งที่ฝานแล้วไปขัดผิวบริเวณที่มีความแห้งกร้านได้ในทันที หรือจะเลือกนำมันฝรั่งไปต้มแล้วเอาน้ำที่ได้จากมันฝรั่งมาก็ได้เช่นกัน พักน้ำมันฝรั่งให้หายร้อน แล้วใช้สำลีชุบโปะบนหน้าแทนการมาสก์ผิว หรือจะใส่ขวดสเปรย์ไว้สำหรับฉีดผิวก็ได้เช่นกัน สูตรนี้ถ้าใช้วิธีการขัดผิวแนะนำให้ทำ 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่หากใช้เป็นตัวน้ำมันฝรั่งก็สามารถใช้ทุกวันได้เลยค่ะ
4. สูตรผิวนุ่มไล่สิวด้วยดินสอพอง
ดินสอพองเป็นสิ่งที่คนโบราณใช้ขัดและพอกผิวมาเนิ่นนาน สาวๆ ยุคใหม่อาจยังไม่เคยลอง ก็อยากแนะนำให้เปิดใจดู เพราะผลลัพธ์ปังมากจริงๆ โดยเฉพาะกับคนที่เป็นสิว ผิวแพ้ง่าย หรือมีความหมองคล้ำ เพราะตัวดินสอพองเขาจะมีคุณสมบัติในการปรับสมดุลให้ผิว โดยเฉพาะช่วงที่อยู่ในภาวะอ่อนแอ โดนทำร้ายจากสิ่งแวดล้อมมาหนักหน่วง หรือช่วงที่ขาดการดูแล วิธีใช้ที่แนะนำคือการผสมดินสอพองกับน้ำมะนาวเพื่อขัดผิวค่ะ
ส่วนผสม
- ดินสอพอง 7 – 8 เม็ด
- น้ำมะนาว ½ ลูก
วิธีทำ
ผสมดินสอพองกับน้ำมะนาวให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำมาขัดที่ผิวตามต้องการประมาณ 1 – 2 นาที สามารถใช้เปลือกมะนาวขัดบริเวณผิวแห้งกร้าน เช่น ข้อศอก หัวเข่า ได้ พอขัดเสร็จแล้วให้พอกผิวทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้จะเหมาะกับทำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง แต่ถ้าใครอยากทำทุกวันก็สามารถทำได้ แต่แนะนำว่าให้ใช้ดินสอพองอย่างเดียว ผสมกับน้ำเปล่าโดยไม่ต้องใช้น้ำมะนาว เพื่อลดการระคายเคืองค่ะ
5. สูตรผิวเนียนกระจ่างใสด้วยข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตเป็นส่วนผสมที่นำมาใช้ได้ดีกับการขัดผิว เพราะมีผิวสัมผัสขรุขระ ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและทำให้ผิวผลัดเซลล์ได้ดี ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้น แต่การใช้ข้าวโอ๊ตเพียวๆ อาจเสี่ยงทำร้ายผิว เลยควรผสมกับมะเขือเทศและน้ำผึ้งเพื่อช่วยบำรุงความชุ่มชื้นเพิ่มเติมและได้สรรพคุณเรื่องความกระจ่างใสร่วมด้วยนั่นเอง
ส่วนผสม
- ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
- มะเขือเทศ 2 ลูก
- น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำข้าวโอ๊ต น้ำผึ้ง และมะเขือเทศบดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เอาส่วนผสมที่ได้ไปขัดผิวตามต้องการ และทิ้งไว้ให้ซึมสู่ผิวประมาณ 10 – 15 นาที แล้วล้างออก เหมาะกับทำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งค่ะ
6. สูตรผิวนุ่มน่ากอดด้วยมะละกอ
ในมะละกอมีสารเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งช่วยทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ดูเปล่งปลั่งอิ่มน้ำ สูตรนี้จะยิ่งเห็นผลได้ดีถ้าใช้ร่วมกับส่วนผสมเพิ่มความกระจ่างใสอย่างโยเกิร์ต และสามารถใช้ได้กับผิวทุกส่วน ตั้งแต่ผิวหน้า แขน ขา รักแร้ ก็ได้เช่นกันค่ะ
ส่วนผสม
- มะละกอ 1 ชิ้น
- โยเกิร์ต ½ ถ้วย
วิธีทำ
ให้บดมะละกอผสมกับโยเกิร์ตจนเนื้อเนียนละเอียดเข้ากัน นำไปพอกผิวทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นนวดขัดเบาๆ เป็นวงกลม กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว แล้วล้างออก เป็นสูตรที่สามาระทำได้ทุกวัน เพราะเนื้อสครับค่อนข้างเนียนละเอียด และเน้นการบำรุงมากกว่าผลัดเซลล์ผิวจึงไม่เป็นอันตรายค่ะ
7. สูตรขจัดแบคทีเรีย เพิ่มความเปล่งประกายด้วยน้ำมันมะกอก
สูตรนี้จะเน้นเรื่องปรับสภาพผิวให้สุขภาพดีเปล่งปลั่ง โดยใช้น้ำมันมะกอกซึ่งมีสรรพคุณเรื่องความชุ่มชื้น ร่วมกับเกลือทะเลที่ช่วยลดแบคทีเรีย ผลัดเซลล์ผิว กำจัดสิ่งสกปรก เพื่อให้เลือดไหลเวียน ส่งออกซิเจนไปเลี้ยงผิวได้ดีค่ะ แต่เป็นสูตรที่เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวแข็งแรงนิดนึง คนที่แพ้ง่าย ผิวระคายเคืองอยู่ ไม่ควรใช้สูตรนี้ขัดผิว
ส่วนผสม
- น้ำมันมะกอก 30 CC
- เกลือทะเล 1 กำมือ
วิธีทำ
นำน้ำมันมะกอกคลุกกับเกลือทะเล แล้วใช้ขัดผิวบริเวณที่ต้องการ สามารถทิ้งไว้หลังขัดผิวประมาณ 5 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด หลังทำสูตรนี้แนะนำให้บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตามทันที เพราะเป็นสูตรที่ช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้ครีมที่ทาซึมเข้าได้ดียิ่งขึ้น
ขัดผิวบ่อยแค่ไหนถึงจะดี?
การขัดผิวที่เหมาะสมควรขัดประมาณสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง สำหรับสูตรขัดผิวทั่วๆ ไป เพราะเป็นระยะเวลาที่ผิวต้องการผลัดเซลล์พอดี หากขัดสัปดาห์ละครั้งจะช่วยให้การผลัดเซลล์มีประสิทธิภาพขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้ทันดีอีกด้วยค่ะ แต่สำหรับสูตรขัดผิวบางแบบก็เหมาะกับการนำมาขัดผิวทุกวันได้ แต่หากไม่จำเป็นก็แนะนำว่าขัดเพียงสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้วค่ะ
ขัดผิวทุกวันทำให้ขาวขึ้นจริงไหม?
แม้ว่าสูตรขัดผิวบางแบบจะสามารถใช้ขัดผิวได้ทุกวัน แต่การขัดทุกวันไม่ได้ช่วยเรื่องความกระจ่างใส หรือความขาวที่เพิ่มขั้นมากกว่าการขัดเพียงสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งค่ะ การขัดทุกวันจะเน้นเรื่องขจัดสิ่งสกปรกและทำความสะอาดผิวได้เท่านั้น แต่หากอยากขัดผิวให้ขาว แนะนำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แล้วขัดอย่างต่อเนื่องในความถี่เท่านี้ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีโดยไม่ทำร้ายผิวนั่นเอง
ขัดผิวทุกวัน อันตรายไหม สรุป
การขัดผิวสามารถทำได้ทุกวันถ้าเลือกสูตรที่เหมาะสม แต่ในทางที่ดีเพื่อป้องกันผิวโดนทำร้าย ควรขัดผิวในความถี่ประมาณ
1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์จะดีที่สุด
อ้างอิง
https://www.vogue.co.th/beauty/bodyscrubrecipe
https://alanidaa.com/scrub-everyday-dangerous-or-not/
https://www.sanook.com/women/164135/
https://www.chillpainai.com/scoop/11903/