ถึงเวลาบอกลาปัญหาใต้ตาบวมคล้ำได้แล้วจ้าสาว ๆ เราเป็นคนนึงที่เสพติดการดูซีรีส์มาก หรือบางครั้งก็ต้องปั่นงานดึก ๆ เพื่อส่งให้ทันกำหนดจนอดหลับอดนอนอยู่บ่อย ๆ ตื่นมาใบหน้าก็ดูหมองคล้ำ ดูเหนื่อยล้า และไม่สดใสอีกต่อไป จนคนรอบข้างทักว่าใต้ตาหมองคล้ำแข่งกับหมีแพนด้า
ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาทักอีกแล้วค่ะสาว ๆ เพราะวันนี้พวกเราจะไม่ยอมโดนทักว่าเป็นหมีแพนด้าอีกต่อไปแล้วจ้า นอกจากการนอนดึกแล้ว ไม่ว่าสาเหตุของปัญหาใต้ตาบวมคล้ำของสาว ๆ จะเกิดมาจากอะไร วันนี้เรามี 8 วิธีดี ๆ ที่สามารถบอกลาปัญหาใต้ตาบวมคล้ำ ให้ใต้ตาของเรากลับมาดูชุ่มชื้น กระจ่างใส และอ่อนวัยมาให้สาว ๆ ทำตามกันดูด้านล่างนี้เลย
ปัญหาของใต้ตาบวมคล้ำเกิดมาจากสาเหตุอะไร?
1.อายุที่มากขึ้น:
เมื่อเรามีอายุมากขึ้น เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาจะเริ่มอ่อนแอลง หรือเรียกกันว่าผิวบางนั่นเอง อีกทั้งยังทำให้สูญเสียไขมันและคอลลาเจนมากขึ้น ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาดูหมองคล้ำ และถุงไขมันใต้ตาหย่อนตัวลงตามอายุที่มากขึ้นอีกด้วย
2.พักผ่อนไม่เพียงพอ:
การพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นสาเหตุของปัญหาใต้ตาบวมคล้ำที่พบเจอได้บ่อยในหลาย ๆ คน การนอนน้อยทำให้เลือดไม่สามารถสูบฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเลือดไหลเวียนรวมกันอยู่บริเวณรอบดวงตา ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาดูหมองคล้ำขึ้น นอกจากจะทำให้ผิวบริเวณใต้ตาดูหมองคล้ำแล้ว การนอนน้อยยังทำให้สาว ๆ มีถุงไขมันใต้ตาชัดเจนขึ้นอีกด้วยค่ะ ยิ่งถ้าอดใครหลับอดนอนก็จะทำให้ผิวอ่อนแอ ผิวแห้ง และผิวขาดน้ำ ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ใต้ตาบวมคล้ำมากขึ้นไปอีก
3.โรคภูมิแพ้:
คนที่เป็นโรคภูมิแพ้มักจะมีอาการตาแดง ตาบวม และคันตาร่วมด้วย อาจมีหลายครั้งที่เผลอขยี้ตาหรือถูตาแรง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการตาแห้งหรือแพ้อากาศ ล้วนเป็นอาการแพ้ที่เกิดจากการติดเชื้อหรืออักเสบบริเวณดวงตา ทำให้หลอดเลือดบริเวณรอบดวงตาขยายตัว เม็ดสีผิวจึงถูกกระตุ้นให้เพิ่มจำนวนมากเกินไป ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ทำให้ผิวบริเวณใต้ตาดูหมองคล้ำ และมีถุงไขมันใต้ตาเกิดขึ้น
4.โดนแสงแดด:
สาว ๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วเกี่ยวกับแดด การพบเจอแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ หรือตากแดดโดยตรงจะทำให้ผิวของร่างกายบริเวณที่โดนแดดผลิตเมลานินมากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สีผิวบริเวณผิวนั้นเข้มขึ้น รวมถึงใต้ตาหมองคล้ำก็เกิดจากสาเหตุนี้ได้เช่นกันค่ะ
5.พันธุกรรมและโรคบางชนิด:
ความผิดปกติของต่อมไร้ท่ออาจทำให้ไขมันมารวมกันอยู่ที่บริเวณใต้ตามากเกินไป โดยถุงไขมันใต้ตานี้ สามารถสังเกตเห็นได้ชัดตั้งแต่อายุยังน้อย รวมถึงคนที่เป็นโรคหัวใจ โรคไต และความดันเลือดสูง โรคเหล่านี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ถุงไขมันใต้ตาบวม แต่หากสาว ๆ สามารถควบคุมอาการของโรคเหล่านี้ให้อยู่ในระดับปกติได้ ก็จะทำให้อาการใต้ตาบวมคล้ำลดน้อยลงได้ค่ะ
บอกลาปัญหาใต้ตาบวมคล้ำใน 8 วิธี
1.พักผ่อนให้เพียงพอ:
การพักผ่อนให้เพียงพอเป็นวิธีการลดปัญหาใต้ตาบวมคล้ำที่สาวหลายคน ๆ ต้องการได้อย่างตรงจุดเลยค่ะ เราควรปล่อยให้ตัวเองได้มีเวลาพักผ่อนด้วยการนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดใต้ตาบวมคล้ำ วิธีนี้สามารถทำให้ถุงไขมันใต้ตาที่บวมลดลงได้ แถมยังลดใต้ตาหมีแพนด้าลงด้วยนะคะ
2.ประคบเย็น:
วิธีประคบเย็นนี้เราเองก็เชื่อว่าต้องมีสาว ๆ หลายคนที่เคยทำมาก่อนไม่ว่าจะเป็นตอนร้องไห้จนตาบวม หรือนอนดึกจนใต้ตาหมองคล้ำ โดยสิ่งที่นำมาช่วยในการประคบเย็นสามารถหาได้ง่าย ๆ อย่างช้อนแช่เย็น หรือผ้าห่อน้ำแข็งนั่นเอง เพราะการประคบเย็นเป็นตัวช่วยลดอาการบวมและหดหลอดเลือดที่ขยายตัวได้ ซึ่งเมื่อลดอาการบวมลงได้แล้ว ก็จะช่วยลดความหมองคล้ำของใต้ตาได้ด้วยค่ะ
ที่มา: https://www.marieclaire.com/beauty/a9666/beauty-makeup-hacks/
3.มาส์กตาด้วยแตงกวา:
การดูซีรีส์ก็นำพาประโยชน์มาให้เราเหมือนกัน เราเห็นวิธีนี้มาจากซีรีส์หลาย ๆ เรื่องเขานำแตงกวามาหั่นเป็นแว่นแต่เขาไม่ได้เอามาประกอบอาหารค่ะสาว ๆ เพราะเขาเอามาประคบตากันค่ะ ในซีรีส์ไม่ว่าจะเป็นนางเอก เพื่อนนางเอก พระเอก หรือครอบครัวเขาก็ทำกันทั้งนั้น เพราะแตงกวาสามารถช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้าและลดอาการบวมของใต้ตาได้ อีกทั้งน้ำและวิตามินซีสูงในแตงกวาสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับรอบดวงตาของเราได้ ดูซีรีส์จบก็ไปหยิบแตงกวามามาส์กตากันเลยดีกว่าค่ะสาว ๆ ใต้ตาเราจะได้กลับมาสดใส อ่อนวัยเหมือนนางเอกในซีรีส์
ที่มา: https://www.pinterest.com/pin/505388389436170860/
4.ทาครีมกันแดด:
หากสาว ๆ คนไหนที่ไม่ชอบการทาครีมกันแดด หรือคิดว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดเพราะไม่ได้พบเจอแสงแดดหรือตากแดดโดยตรง เราอยากให้สาว ๆ เลือกผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่เหมาะสมกับสภาพผิวและกิจกรรมในชีวิตประจำวันของตัวเอง แล้วเริ่มทาครีมกันแดดตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ อย่าคิดว่าครีมกันแดดเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเลยนะคะ เพราะรังสี UV มีอยู่ทุกที่แม้แต่ในที่ ๆ ไม่มีแดดก็ตาม เพราะแบบนี้การทาครีมกันแดดจึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการปกป้อง ดูแล และรักษาปัญหาใต้ตาบวมคล้ำที่สาว ๆ ต้องการนั่นเอง
ที่มา: https://www.pinterest.com/pin/617767273899458858/
5. ทาสกินแคร์:
สาว ๆ สายสกินแคร์คนไหนที่มีปัญหาใต้ตาบวมคล้ำเหมือนหมีแพนด้า มีถุงไขมันใต้ตา รวมถึงริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์สำหรับรอบดวงตาที่เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตากลับมาดูกระจ่างใส ชุ่มชื้น และอ่อนวัยมากขึ้นเรามี 3 step มาแนะนำให้ค่ะ
step ที่ 1 เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากผิวบริเวณรอบดวงดานั้นบอบบาง และซึมเข้าสู่ผิวได้น้อยกว่าผิวส่วนอื่น
step ที่ 2 เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง เพื่อให้ผิวบริเวณรอบดวงตาได้รับการบำรุงอย่างตรงจุด และเห็นผลได้ดีมากกว่าเดิม
step ที่ 3 เรียงลำดับการใช้สกินแคร์ให้ถูกต้อง โดยเริ่มจากอายครีมก่อนแล้วตามด้วยเซรั่มและครีมบำรุง ซึ่งการทาอายครีมต้องเริ่มจากหัวตา กลางตา ไปจนถึงหางตาตามลำดับ เพื่อไม่ให้ดวงตาเราเกิดริ้วรอยและซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายขึ้นค่ะ
ภาพที่ 4 บำรุงรอบดวงตาด้วยการทาอายครีม
6. เลเซอร์ใต้ตา:
การเลเซอร์ใต้ตาเป็นวิธีลดถุงใต้ตาด้วยการยิงคลื่นความถี่เข้าบริเวณรอบดวงตาด้วยเทคนิคทางการแพทย์ ช่วยรักษารอยคล้ำใต้ตา เพิ่มความกระจ่างใสใต้ตา สำหรับคนที่มีปัญหาใต้ตาหมองคล้ำจากเม็ดสีผิวที่เยอะเกิน ซึ่งการเลเซอร์กลุ่มรักษาเม็ดสีหรือเส้นเลือดอย่าง IPL, Q switched และ Nd-yag laser ช่วยทำลายเม็ดสีผิวบริเวณใต้ตาที่หมองคล้ำ ส่วนเลเซอร์กลุ่ม Ulthera และ HIFU กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้นค่ะ
7. เมโสเทราปี:
เมโสเทราปี (Mesotherapy) เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ใช้วิธีการฉีดวิตามินและสารสกัดต่าง ๆ ลงในไขมันใต้ตา โดยเราจะเห็นได้ชัดจากการกระตุ้นให้เกิดการสลายไขมัน การแตกและการตายของเซลล์ระหว่างเซลล์ไขมัน สาว ๆ สามารถใช้วิธีนี้เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาบวมคล้ำ และฟื้นฟูผิวใต้ตาได้อย่างตรงจุด ในการฟื้นฟูบำรุงผิวบริเวณใต้ตาให้มีความชุ่มชื้นมากขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณรอบดวงตา ลดความหมองคล้ำ ดูสดใส และกระชับขึ้น
8.ฟิลเลอร์ใต้ตา:
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกหนึ่งเทคนิคทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาบวมคล้ำได้อย่างตรงจุด ฟิลเลอร์ใต้ตาคือการฉีดสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปเติมเต็มบริเวณใต้ตาเพื่อแก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตา ถุงไขมันใต้ตา ริ้วรอยบริเวณรอบตา และร่องตาลึก ซึ่งฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้รับการรับรองจากอย. ประเทศไทย มี 2 กลุ่ม คือ
- กลุ่มฟิลเลอร์เนื้อละเอียด นิยมใช้ฉีดผิวเก็บลายละเอียดหลังจากฉีดฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เพราะเป็นเนื้อเจลบางเบา อยู่ได้นานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
- กลุ่มฟิลเลอร์เนื้อแข็ง นิยมฉีดบริเวณผิวร่องตาลึก เพราะเป็นเนื้อเจลคงตัว อยู่ได้นานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาดูตื้นขึ้น ดูสดใส ผิวหน้าไม่โทรม อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังเป็นวิธีที่เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีคุณสมบัติอุ้มน้ำและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ปราศจากริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกบริเวณใต้ตาให้ตื้นขึ้น เรียบเนียนและอิ่มสวยได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างด้วยค่ะ
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหาใต้ตาบวมคล้ำอยู่ เราขอแนะนำให้ศึกษาสาเหตุที่มาของปัญหาก่อน เพื่อที่สาว ๆ จะได้นำวิธีการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและเหมาะสมกับตัวเองไปปฏิบัติใช้ เพราะไม่ว่าสาเหตุของปัญหาใต้ตาบวมคล้ำของสาว ๆ จะเกิดมาจากอะไร เพียงแค่ลองทำตามวิธีที่เราแนะนำไปก็สามารถบอกลาปัญหาใต้ตาบวมคล้ำได้เลยค่ะ ในส่วนของวิธีแก้ปัญหาใต้ตาบวมคล้ำด้วยเทคนิคทางการแพทย์ รวมถึงถ้าหากลองทำวิธีต่าง ๆ แล้วยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เราแนะนำให้สาว ๆ ปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะกับสาว ๆ มากที่สุด