มือใหม่หัดแต่งหน้า การเริ่มลงรองพื้น เขียนคิ้ว หรือลงบลัชอาจทำกันได้ง่ายๆ แต่จะมาตายเอาตรงจุดสำคัญที่ดึงดูดสายตาสุดอย่างอายแชโดว์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะการแต่งแต้มสีบริเวณนี้เป็นอะไรที่มีรายละเอียดและแต่งยากจริงๆ
สำหรับมือใหม่อย่าเพิ่งท้อไป เพราะเรามีวิธีการทาอายแชโดว์แบบเบสิก ทาง่ายแต่ออกมาปัง แต่งหน้าไม่คล่องก็ทำตามได้แบบมือโปร มีทั้งหมด 7 เทคนิค ตามเทรนด์ฮิตของสาวๆ ในปัจจุบัน สามารถแต่งได้แบบ everyday look ชอบวิธีไหน ถนัดเขียนยังไง ก็เอาไปทำตามกันได้เลย
วิธีที่1
วิธีแรกจะเป็นเทคนิคอายแชโดว์ 3 สี เขียนแบบเป็นปีกไล่ 3 เลเยอร์ โดยอันดับแรกแนะนำให้เลือกสีอายแชโดว์ที่ถูกต้องก่อนค่ะ เพราะพื้นฐานในการเขียนเทคนิคนีให้ดีคือต้องใช้สี 3 แบบด้วยกัน อันแรกคือสีอ่อนอย่างโทนนู้ดที่สามารถเป็นได้ทั้งเบสปรับสีพื้นให้เปลือกตาและเป็นไฮไลต์ได้ในตัว ตามหมายเลข 1 ในภาพตัวอย่าง
ส่วนสีถัดมาให้เลือกสีที่มีความชัด สดใส แล้วแต่ตามสไตล์ที่ชอบ เป็นตัวหลักและเด่นสุดบนเปลือกตาค่ะ เช่น สีส้มอิฐแบบเบอร์ 2 ในภาพ และสีสุดท้ายจะเป็นสีที่มีความเข้มที่สุด ใช้เป็นตัวเฉดดิ้งให้กับเปลือกตา ให้สีโดยรวมไม่ดูลอย อย่างสีน้ำตาลในภาพนั่นเอง แต่หากสาวๆ ซื้ออายแชโดว์แบบที่มาเป็นพาเลตต์ก็จะง่ายขึ้น เพราะส่วนมากจะมีการแมตช์เซตสีที่เหมาะกับใช้ด้วยกันมาให้แล้วค่ะ
- เมื่อได้สีที่ถูกใจให้เลือกลงสีเบอร์อ่อนที่สุดเป็นอันดับแรกให้ทั่วเปลือกตาชั้นใน เกลี่ยเป็นทรงโค้งแบบครึ่งวงกลม
- จากนั้นให้ลงสีเบอร์ 2 ตั้งแต่เปลือกตาชั้นบนไปจนถึงโหนกตาโดยครอบคลุมไปถึงบริเวณหางตา และทำให้ปลายหางตามีเชปคล้ายวิงชี้ขึ้นไป 45 องศานิดๆ
- ลงสีหมายเลข 3 เป็นเส้นปีกชี้ขึ้น 45 องศา ลากตั้งแต่เส้นชั้นตามาจนถึงหางตา ตามภาพตัวอย่าง ขั้นตอนนี้แนะนำให้ใช้แปรงหัวตัดจะทำให้เขียนง่ายขึ้นค่ะ
- ใช้สีอายแชโดว์เบอร์ 1 และเบอร์ 3 ลงที่ด้านใต้ตา โดยลงสีอ่อนบริเวณตั้งแต่หัวตาจนถึงกลางตา และลงสีเข้มกว่าที่ช่วงหางตา เกลี่ยมาถึงกลางตาให้เบลนไปกับสีอ่อนให้มีจุดเชื่อมกัน
วิธีที่ 2
วิธีนี้เป็นทริคสำหรับคนขี้เกียจลงอายแชโดว์ ต้องการความรวดเร็ว และเหมาะกับมือใหม่สุดๆ เพราะไม่ต้องใช้หลักการเยอะ แค่เลือกสีให้ปัง แต้มๆ เกลี่ยๆ ก็สวยเลย การเลือกสีสามารถอิงจากวีธีแรกได้เลยค่ะ คือมีสีเบส สีหลัก และสีเข้มนั่นเอง โดยให้ทำตามขั้นตอนดังนี้ค่ะ
- ปาดสีอายแชโดว์ทั้ง 3 สีลงที่เปลือกตา โดยให้ลงเรียงจากสีอ่อนไปสีหลักและสีเข้ม ให้มีสัดส่วนของสีอ่อนและสีกลางเท่าๆ กัน แต่สีเข้มให้ปาดลงน้อยที่สุด ไล่ระดับให้สีที่ 2 และ 3 สูงขึ้นมา และปลายหางตาเชิดขึ้นเป็นวิง
- ใช้แปรงเบลนสีทั้ง 3 ให้กลายเป็นเนื้อเดียวกันโดยเหลือเลเยอร์ของสีเอาไว้ ให้วางแปรงไว้ที่หัวตาแล้วลากจากหัวตาไปที่หางตา จากนั้นค่อยๆ เกลี่ยสีให้เป็นตามทรงในภาพ เน้นเกลี่ยบริเวณรอยต่อของแต่ละสีก็เพียงพอแล้วค่ำ ระวังอย่าให้สีผสมกันจนกลายเป็นสีเดียว
- ใช้แปรงแต้มสีอ่อนมาไฮไลต์ด้านล่างตาช่วงหัวมาจนถึง ¾ ของตา
- ใช้แปรงหัวตัดแต้มสีเข้มที่สุด ลากเส้นเฉียงที่ใต้ตาต่อจากสีอ่อน เขียนลงมาเป็นเส้นตรงๆ บางๆ เพิ่มความเก๋ให้กับลุค แต่ใครที่กลัวพลาด อาจปรับจากเส้นเฉียงเป็นเส้นโค้งไปตามทรงตาก็ได้เช่นกันค่ะ
วิธีที่3
ทริคเขียนตา 3 สเต็ปที่มือใหม่ต้องหลงรัก วิธีนี้จะง่ายกว่าวิธีที่ผ่านๆ มา และจะเหมาะกับการแต่งหน้าลุคดิวอี้โกลว์ๆ ด้วยสีกลิตเตอร์ค่ะ ให้สาวๆ เลือกสีที่ 1 เป็นสีเบสเช่นเดิม ส่วนสีที่ 2 เป็นสีหลักของลุค และสีสุดท้ายจะเป็นตัวไฮไลต์ที่มีสีอ่อนกว่าสีหลัก ซึ่งลุคนี้จะมีเพียงสีแรกที่ลงเป็นเบสเท่านั้นที่ควรใช้เป็นเนื้อแบบแมตต์ นอกนั้นให้เลือกเป็นสีแบบมีชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์ได้เลย วิธีทาอายแชโดว์ลุคนี้ให้เน้นการลงเป็นทรงโค้งทั้ง 3 สเต็ป
- ลงสีเบสหรือสี A ตามภาพ เป็นทรงโค้งทั่วทั้งเปลือกตาตั้งแต่หัวถึงหาง ยอดโค้งตรงกลางให้สูงขึ้นไปจนเกือบถึงฐานคิ้ว
- ใช้แปรงลงสีหลักหรือสี B ตามเชปของรูปตาคล้ายวงรี ทั้งในส่วนของเปลือกตาและใต้ตา
- แต้มสี C เพื่อเป็นไฮไลต์เพิ่มมิติให้ดวงตา แบ่งเป็น 3 ส่วนตั้งแต่กลางเปลือกตา หัวตา และใต้ตา ในลักษณะทรงโค้งสูงๆ คล้ายดอกไม้ 3 กลีบตามภาพ
วิธีที่4
สไตล์การแต่งตาแบบสาวญี่ปุ่นที่เน้นความน่ารัก ดูเป็นดอลลี่อายเบาๆ ให้ลุคเศร้านิดๆ แต่ดูอ่อนเยาว์ น่าทะนุถนอม เหมาะกับสาวผิวขาวมากๆ เพราะช่วยขับผิวได้ดีค่ะ สำหรับสไตล์นี้แนะนำให้เลือกอายแชโดว์โทนสีอบอุ่นอย่างส้มอิฐและเอิร์ธโทน จะปังที่สุดค่ะ โดยใช้ 3 สี เพื่อทาเป็นเบส สีหลัก และสีไฮไลต์ เพียงเท่านี้ก็สามารถครีเอตลุคญี่ปุ่นคิ้วท์ๆ ได้เลย
- ใช้สีหมายเลข 1 ที่อ่อนที่สุดลงเป็นเบสให้ทั่วเปลือกตา ในลักษณะของเชปทรงโค้งครึ่งวงกลมตามปกติ
- เลือกสีที่เข้มขึ้นมา เกลี่ยทับไปบนชั้นเปลือกตาล่าง
- ใช้สีเดิมวาดเป็นวิงจากรอยพับตา ลงมาถึงขอบใต้ตาตามภาพตัวอย่าง
- ใช้สีไฮไลต์โทนสีทองที่มีชิมเมอร์ละเอียด ลงบริเวณใต้ตาตั้งแต่หัวตาโค้งลงมาต่อกับสีหลักที่ลงไปในขั้นตอนก่อนหน้า
- เกลี่ยให้ส่วนรอยต่อของแต่ละสีเบลนกันสวยงามยิ่งขึ้น
วิธีที่ 5
วิธีนี้เป็นอีกเทคนิคในการแต่งเปลือกตาให้ออกมาดูโกลว์ฉ่ำสไตล์สาวสุขภาพดี โดยมีสีหลักในการใช้ทั้งหมด 3 สีเช่นเดิม คือ สีพื้นเนื้อแมตต์ ไม่จำเป็นต้องเป็นสีนู้ด เลือกโทนสีที่ใกล้เคียงกับสีหลักได้เลย สีหลักที่เข้มขึ้นมาเล็กน้อย แบบมีชิมเมอร์ในเนื้อสี และสีไฮไลต์เนื้อฉ่ำที่มีชิมเมอร์เล่นแสงกระแทกตาเน้นๆ ซึ่งวิธีนี้จะมีการแบ่งส่วนในการลงต่างจากวิธีอื่นเล็กน้อย แต่ในฟินิชออกมาสวยไม่แพ้เทคนิคอื่นๆ แน่นอน
- ลงสีเบสให้ทั่วเปลือกตาเป็นทรงโค้งตามภาพ
- แต้มสีหลักลงเป็นทรงโค้ง 3 จุดแยกกันตามภาพ จุดแรกบริเวณหัวตาโค้งจนถึงกลางตา ถัดมาจุดที่ 2 ให้ลงบริเวณกลางตาโค้งถึงหางตา และจุดสุดท้ายด้านใต้ตา จากตรงกลางถึงหางตา
- ใช้สีชิมเมอร์ไฮไลต์ลงที่ตรงกลางเปลือกตา ระหว่างกึ่งกลางของจุด 1 และ 2 ในขั้นตอนก่อนหน้า แล้วเกลี่ยเบลนให้เข้ากัน
วิธีที่ 6
มาถึงเทคนิคการเขียนอายแชโดว์สำหรับสาวหวาน อยากแต่งลุคธรรมชาติ แกล้งๆ เหมือนไม่แต่ง แต่สวยจึ้งที่สุด แนะนำให้ใช้ 3 สีเหมือนเดิมเลยค่ะ แต่ในลุคนี้จะมีสีหลัก 2 สีด้วยกัน ตามภาพคือสี E ที่อ่อนกว่า และสี H ที่มีเฉดเข้มขึ้นมา นำมาใช้ลงพร้อมกับสีไฮไลต์เพิ่มมิติอย่างสี B ในภาพซึ่งสว่างที่สุดค่ะ ลุคจะออกมาละมุนมากๆ เหมาะกับทาไปทำงานหรือไปเดตแรกสุด
- ลงสีหลักที่มีเฉดอ่อนกว่า (สี E) ที่บริเวณเปลือกตาให้ทั่ว
- ลงสีไฮไลต์ (สี B) บริเวณเปลือกตาด้านบน เชื่อมตั้งแต่เส้นชั้นตา ทับสี E และเกลี่ยมาจนถึงโหนกตา
- เลือกสีที่มีความเข้มที่สุด (สี H) ขีดทาที่ใต้ตาให้ชิดขอบตาที่สุด แทนการกรีดอายไลเนอร์ แนะนำให้ใช้แปรงหัวตัด หรือแปรงหัวพู่กันเบอร์เล็กลากเป็นเส้นคมๆ ตั้งแต่หัวตาถึงหางตาได้เลย
วิธีที่ 7
วิธีสุดท้ายเพิ่มความแอดวานซ์ขึ้นมาจากวิธีที่ผ่านมาทั้งหมด เหมาะกับคนที่อยากได้เลเยอร์มิติของสีที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งถึงแม้จะดูซับซ้อนแต่ความจริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ เพราะเป็นเพียงการเติมชั้นเข้าไปเท่านั้น แต่ก็แนะนำว่าควรมีประสบการณ์จากวิธีอื่นๆ มาก่อนค่อยมาลองเทคนิคนี้ เนื่องจากต้องใช้การควบคุมน้ำหนักมือตอนเกลี่ยสีอายแชโดว์เล็กน้อยค่ะ สีที่ใช้จะประกอบด้วยสีเบส 1 ชั้น สีหลัก 2 สี และสีไฮไลต์เพิ่มมิติ สำหรับสไตล์นี้ให้เลือกไฮไลต์สีขาวค่ะ
- นำสีเบสหรือสีเบอร์ 1 ในภาพ ลงตั้งเป็นทรงโค้งตั้งแต่หัวถึงหางตาและให้สูงขึ้นไปที่โหนกตา ห่างจากฐานคิ้วประมาณ 1.5 เซนติเมตร
- บิวด์สีหลักอันแรกหรือเบอร์ 2 ทับไปเป็นทรงโค้ง โดยให้กินบริเวณไปถึงชั้นตาด้านบนประมาณ ¾ ของพื้นที่
- ใช้สีหลักอีกอันหรือเบอร์ 3 ลงทับบนเปลือกตาชั้นแรก
- ใช้สีไฮไลต์เบอร์ 4 ลงเป็นเส้นบางๆ ระหว่างเลเยอร์ที่ 1 และ 2 จากนั้นใช้ลากเส้นโค้งที่ใต้ตาตามภาพ
- เกลี่ยเบลนสีระหว่างเลเยอร์ให้ดูต่อเนื่องกันด้วยความเบามือ ระวังไม่ให้สีไปรวมกัน เพราะจะทำให้ดูตาช้ำได้ค่ะ
สรุป
7 วิธีเขียนอายแชโดว์สำหรับมือใหม่ ถึงอ่านแล้วจะดูเข้าใจง่าย แต่หากขาดการฝึกฝนจริง ไม่มีการซ้อมก่อนทาไปข้างนอก ก็อาจทำให้ออกมาไม่เป๊ะได้ในครั้งแรกค่ะ แนะนำให้ลองทำบ่อยๆ หลายๆ วิธี เพื่อค้นพบเทคนิคที่ถนัดและเหมาะกับตัวเอง จะให้ง่ายที่สุดก็ยึดสีแบบเดียวกับในตัวอย่างไปก่อน พอเริ่มเซียนแล้วจะเปลี่ยนสีหรือปรับเทคนิคตามใจชอบได้เลย
อ้างอิง
https://www.wongnai.com/beauty-tips/makeup-eyes
https://www.sanook.com/women/57641/