คุณก็เป็นหนึ่งในคนที่พบเจอปัญหากวนใจไม่กล้าสู้หน้าใครเหมือนกันใช่ไหม เพราะร่องรอยของฝ้า กระ และจุดด่างดำ ทำให้ผิวไม่สม่ำเสมอ ทำเอาเราหมดความมั่นใจได้ง่าย ๆ ถึงแม้ปัญหาเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องน่าอาย และมีหลาย ๆ คนที่ยอมรับปัญหาและเสริมเสน่ห์ในแง่บวกไปกับมัน แต่สำหรับกลุ่มคนที่อยากรักษา คุณมาถูกทางแล้ว เราได้ตามหาวิธีรับมือกับปัญหาเหล่านี้มาตลอดทั้งวิธีการธรรมชาติ และนวัตกรรมพิเศษจากเทคนิคทางการแพทย์ แถมยังยากต่อการปกปิดไม่ว่าจะใช้สกินแคร์ หรือแต่งหน้ากลบคอลซีลเลอร์มากแค่ไหน ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำที่เป็นอยู่ก็ไม่หายขาดไปสักที
ฝ้า กระ จุดด่างดำคืออะไร?
1.) จุดด่างดำ (Hyperpigmentation)
คือภาวะที่ผิวหนังบางจุดมีสีเข้มขึ้นกว่าสีของผิวหนังปกติ ที่เกิดจากร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป มีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจุดด่างดำมีทั้งหมด 2 ชนิด ได้แก่ ฝ้า และกระ
2.) ฝ้า (Melasma)
มีลักษณะเป็นรอยปื้นสีน้ำตาล บางครั้งมีสีออกดำอมฟ้า หรือสีแดง ที่เกิดจากเซลล์เมลาโนไซต์ในผิวกำพร้าผลิตเม็ดสีออกมามากเกินไป มีขนาดและรูปทรงที่ไม่ตายตัว อาจพบการขยายวงกว้างบริเวณโหนกแก้มได้มากกว่าส่วนอื่นบนใบหน้า ซึ่งฝ้ามีทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่ ฝ้าตื้น ฝ้าลึก และฝ้าผสม ในบางครั้งเราอาจพบกระซึ่งเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลกระจายอยู่ร่วมกับฝ้าอีกด้วย
3.) กระ (Freckle)
มีลักษณะเป็นจุดสีดำ พบบริเวณผิวหน้า ลำคอ หรือบริเวณหน้าอก ที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดสีเมลานิน มีขนาดเล็กกว่าฝ้า และมีรูปทรงที่ชัดเจนกว่า ซึ่งกระมีทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ กระตื้น กระลึก กระเนื้อ และกระแดด
ฝ้า กระ และจุดด่างดำเกิดขึ้นได้ยังไง
1.) สีผิว
ส่วนมากคนที่มีสีผิวขาวจะมีโอกาสเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้มากกว่าคนที่มีสีผิวเข้ม เนื่องจากคนผิวขาวมีสารเมลานินในผิวน้อยกว่า เมื่อพบเจอแสงแดดมีโอกาสที่ร่างกายจะผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้นมากกว่า จึงทำให้เกิดจุดด่างดำเป็นฝ้า กระขึ้นมาตามบริเวณผิวหนังนั่นเอง
2.) แสงแดด
เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ และผิวหมองคล้ำได้ง่ายมาก ถึงแม้แสงแดดจะมีประโยชน์ ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวสร้างวิตามินดีแก่ร่างกาย แต่เมื่อไหร่ที่เราพบเจอแสงแดดมากเกินไปจะกลายเป็นให้โทษทันที เพราะรังสี UV มาพร้อมกับแสงแดดเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องเจออยู่ทุกวัน ทั้งทำลายความแข็งแรงของผิว และเกิดการกระตุ้นเมลาโนไซด์ทำให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเพิ่มขึ้น
3.) พันธุกรรม
ถ้าคนในครอบครัวของคุณเป็นฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ โอกาสที่บุตรหลาน รวมถึงตัวคุณเองจะเป็นด้วยนั้นมีมากถึง 50% และในคนกลุ่มนี้เมื่อรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำให้หายแล้ว ก็ยังมีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้
4.) การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ส่วนมากจะพบการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายในกลุ่มคนตั้งครรภ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างรุนแรง สามารถพบปัญหาฝ้า กระ ได้ถึง 90% รวมถึงกลุ่มคนในวัยหมดประจำเดือนด้วย เพราะฮอร์โมนจะทำให้การทำงานของเซลล์ที่สร้างเม็ดสีผิดปกติ ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้าหรือแขน
5.) เครื่องสำอาง
การใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำหอม สี หรือแอลกอฮอลล์ มักเป็นสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง รอยดำคล้ำ ทำให้ผิวบอบบางและไวต่อแสง เมื่อโดนแสงแดดก็จะเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ง่ายขึ้นไปอีก
6.) ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด
ในกลุ่มของคนที่ทานยาคุมกำเนิด จะทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาคุมกำเนิด กระตุ้นให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ทานยากันชักบางชนิด อาจเกิดผื่นดำคล้ายรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำที่บริเวณใบหน้า
7.) ขาดวิตามิน
คนไหนที่มีฝ้า กระ และจุดด่างดำ อาจจะเป็นผลมาจากการทำงานของตับผิดปกติเนื่องจากดื่มแอลกอฮอล์เกินความต้องการของร่างกาย หรือขาดวิตามินบี12 การขาดวิตามินชนิดนี้จะทำให้ร่างกายแปรปรวน ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้
8.) รอยแผลเป็นจากสิว
สิวอักเสบหรือสิวอุดตันที่หายแล้วก็เป็นอีกหนึ่งตัวปัญหา ที่ชอบทิ้งร่องรอยเอาไว้ต่างหน้า ทำให้สารที่ชักนำการอักเสบของสิวเป็นตัวการที่ทำให้เม็ดสีเลานินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดรอยดำนั่นเอง
5 ทริครักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ
ทริคที่ 1 หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดฝ้า กระ
ใครที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนผิวบอบบาง ควรหลีกเลี่ยงการพบเจอแสงแดดโดยตรงเพราะแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า กระ หรือถ้าเป็นคนที่ชอบอาบแดด ก็ควรพกไอเทมแว่นกันแดด หมวก แมสก์ และร่ม เอาไว้สวมใส่ก็สามารถช่วยป้องกันการพบเจอแสงแดดโดยตรงได้ในระดับนึง รวมถึงยาบางชนิดที่มีฮอร์โมนเป็นส่วนประกอบอย่างยาคุมกำเนิด ที่มีส่วนทำให้เกิดฝ้า กระได้
ภาพที่ 1 ใส่หมวกป้องกันแดด
ทริคที่ 2 ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
ขอแนะนำให้ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอในทุกวัน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30+ ขึ้นไป และค่า PA สูง ๆ เพราะรังสี UV ในแสงแดดและสื่ออิเล็กทรอนิกส์บางชนิด เป็นตัวการสำคัญในการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ง่าย ๆ เนื่องจากรังสี UV เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเลี่ยงพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นทริคที่สำคัญที่จะมาช่วยปกป้องผิวของเราให้กระจ่างใส และเรียบเนียนสม่ำเสมอ ช่วยให้รอยฝ้าเลือดสีจางลงได้ด้วย เพราะฝ้าเลือดมักจะเข้มเมื่อเจอความร้อนนั่นเอง
ภาพที่ 2 ทาครีมกันแดด
ทริคที่ 3 มาส์กหน้าด้วยสมุนไพร
ทริคดี ๆ สำหรับคนที่ชอบมาส์กหน้า คุณสามารถใช้สมุนไพรในการมาส์กหน้าจากหัวไชเท้า ว่านหางจระเข้ แตงกวา ไข่ขาว ขมิ้นชัน หอมแดง ใบบัวบก และแครอทได้ หรือเลือกใช้กรดผลไม้ หรือที่เรียกกันว่า AHA จากมะลอกอสุก มะขามเปียก น้ำมะนาวหรือเลม่อน เพราะสมุนไพรและกรดผลไม้เหล่านี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไปและกระตุ้นให้สร้างเซลล์ผิวใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดเม็ดสีเมลานินออกไปได้ด้วยยับยั้งการเกิดฝ้า กระได้ดี ทำให้ฝ้า กระค่อย ๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัดและไม่เป็นอันตรายต่อผิวหน้า ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดจุดด่างดำที่แก้ยากได้อีกด้วย เราแนะนำให้ทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ 2-6 เดือน คุณจะสามารถเห็นที่เปลี่ยนแปลงไปได้จริง
ภาพที่ 3 มาส์กหน้าด้วยไข่ขาว
ทริคที่ 4 ทำทรีทเมนต์ผิวหน้า
การทำทรีทเมนต์เป็นทริคความเสริมงามในการดูแล รักษา หรือบำรุงผิวหน้า มีทั้งการใช้เครื่องพ่นละอองน้ำ การนวดหน้า และการมาส์กหน้า ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของเราว่าต้องการดูแลผิวหน้าแบบไหน เพราะทริคนี้สามารถช่วยกระตุ้นผิวให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยเสริมให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นมาก ๆ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ในส่วนของริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำก็จะค่อย ๆ จางลงไปอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้การทำทรีทเมนต์ยังเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่า ซ่อมแซมผิว และสามารถทำได้เองที่บ้านง่าย ๆ หรือรับการดูแลอย่างถูกต้องที่คลินิกเสริมความงาม
ภาพที่ 4 ทำทรีทเมนต์ผิวหน้า
ทริคที่ 5 เลเซอร์กระ
การรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำด้วยเลเซอร์เป็นอีกหนึ่งทริคที่นิยมมาก ๆ เพราะนอกจากความสะดวกสบาย เห็นผลเร็วแล้วยังเป็นนวัตกรรมพิเศษจากเทคนิคทางการแพทย์ที่รักษาปัญหาได้อย่างปลอดภัยและได้รับการรับรองอีกด้วย การเลเซอร์กระ ฝ้าเป็นการยิงคลื่นแสงด้วยความยาวคลื่นลงไปถึงชั้นผิวด้านในและทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีด้วยความร้อน สามารถเลือกบริเวณที่ต้องการเลเซอร์เองได้ ช่วยปรับสภาพและรักษาความผิดปกติของสีผิว ช่วยให้ผิวผลัดเซลล์ได้ง่ายขึ้น เป็นทริคที่รักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำให้จางลงได้ เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงการพบเจอแสงแดดหลังเลเซอร์กระ ฝ้าประมาณ 1 สัปดาห์เนื่องจากอาจทำให้ผิวไวต่อแสง
เป็นอย่างไรกันบางคะทุกคนใครที่อยากมีผิวหน้าที่เรียบเนียน ผิวสม่ำเสมอ ดูกระจ่างใส จริง ๆ แล้วทริคในการดูแลรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำมีหลายวิธีมาก ๆ เลยนะคะเพียงแต่วันนี้เราได้คัดสรรและรวบรวม 5 ทริคในการดูแลรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ ที่ทั้งปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมาแชร์ต่อให้กับทุกคน ทั้งนี้ 5 ทริคก็ขึ้นอยู่กับความสะดวก ระยะเวลา และงบประมาณของแต่ละคน เพื่อการดูแลรักษาปัญหาได้อย่างตรงจุด และเพิ่มความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ในส่วนของทริคการดูแลด้วยเทคนิคทางการแพทย์ เราแนะนำให้เข้ารับการปรึกษาขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญก่อน หากใครที่สนใจ หรือชื่นชอบทริคไหน สามารถนำทริคนั้นไปลองทำตามกันดูได้เลยนะคะ