เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน เทคโนโลยีต่างๆก็ผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและยิ่งแทรกซึมเข้ามาภายในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสถาการณ์ในตอนนี้ที่มีไวรัส โควิด 19 เข้ามาทำให้คนต่างออกไปใช้ชีวิตข้างนอกไม่ได้ ต้องทำงานที่บ้านและมีการจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ซึ่งการจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย และยังส่งผลเสียหลายๆอย่าง
โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องใช้ทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ เช่น อาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง หรืออาจจะมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ปวดคอ ปวดหลัง เป้นต้น อีกทั้งดวงตาของเรายังเป็นอวัยวะที่มีความละเอียดอ่อน ต้องดูแลถนอม ใส่ใจให้เป็นอย่างดี ดังนั้นการดูแลถนอมสายตาให้ถูกวิธีก็เป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆ วันนี้เราจึงมี 10 วิธีถนอมดวงตาและดูแลดวงตาสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศมาฝากกัน ใครที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ห้ามพลาดเลย ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันได้เลย
หากท่านกำลังมีอาการเหล่านี้ ตาพร่า ตามัว ปวดเมื่อยตา ตาแห้ง แสบตา เคืองตา ปวดกระบอกตา ตาสู้แสงไม่ได้ โฟกัสสิ่งต่างๆได้ช้าลง ซึ่งเป็นอาการที่กำลังบ่งบอกได้ว่าอาจจะมีอาการของ Computer Vision Syndrome (CVS) ซึ่งแม้ว่ากลุ่มอาการนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อดวงตาหรือการมองเห็น แต่ก็มักจะก่อให้เกิดความไม่สบายตา ซึ่ง Computer Vision Syndrome (CVS) เป็นกลุ่มอาการทางตาที่เกิดจากการใช้สายตากับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ความรุนแรงของอาการก็จะขึ้นอยู่กับระยะการใช้งานของดวงตาและการจ้องจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะส่งผลต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันได้
ก่อนที่เราจะไปรู้ถึงวิธีถนอมสายตาและดูแลดวงตาของเรา เราจะมารู้ถึงปัจจัยที่ส่งผลให้สายตาเราอาจจะมีปัญหาได้กันก่อน ซึ่งมีดังนี้
- ขณะที่จดจ่อกับการจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือนานๆ ตาเราจะมีการกระพริบตาน้อยลง ส่งผลให้เกิดอาการตาแห้งและอาการระคายเคืองตาขึ้นมาได้
- แสงสว่างของจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือไม่สว่างพอ ทำให้ตาเราต้องมีการเพ่งมากจนเกิดไป อาจจะเกิดอาการตาล้าได้
- ระยะห่างจากหน้าจอถึงสายตาเราก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ตาเรามีปัญหาได้นะ
- แสงสว่างภายในห้องทำงานไม่เพียงพอและไม่เหมาะสมทำให้ตาเราทำงานหนัก
- ระดับของที่นั่งและท่านั่งในการทำงานไม่เหมาะสม อาจจะนั่งจนร่างกายไม่ได้ยืดหยุ่น จนส่งไปถึงอาการปวดเมื่อยร่างกายตามมาได้เช่นกัน
- มีแสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือมาเข้าตาเรามากเกินไป
- ตัวอักษรบนจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือไม่เรียบและคมชัดเท่ากับการอ่านหนังสือ หรือความไม่นิ่งของสัญญาณในคอมพิวเตอร์ ทำให้เราต้องใช้สายตาในการเพ่งมากเป็นพิเศษ ต้องพยายามที่จะโฟกัสทำให้ตาเราอาจจะมีอาการเมื่อยล้าและเคืองตาตามมาได้
- การใช้สายตาในการจ้องจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือนานจนเกินไปและไม่มีการหยุดพักสายตา ก็จะทำให้เกิดอาการตาล้า ตามัวขึ้นมาได้
เมื่อเรารู้ถึงปัจจัยที่จะทำให้ตาเราเกิดปัญหาจากการจ้องจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือกันไปแล้ว ต่อมาเราจะมาดู 10 วิธีถนอมดวงตาและดูแลดวงตาของเรากันดีกว่า ซึ่งมีวิธีการดังนี้
1.ปรับท่านั่งและปรับระดับสายตาในการจ้องจอให้ถูกต้องเหมาะสม หากระยะห่างจากจอภาพและดวงตาไม่สัมพันธ์กันจะทำให้ปวดตาได้ แก้ไขได้โดยจะต้องให้จุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ควรห่างจากตาของเราประมาณ 20 – 28 นิ้ว ปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม ไม่สว่างจ้าจนเกินไป แป้นพิมพ์ควรวางอยู่ต่ำกว่าหน้าจอ ข้อมือและแขนต้องมีการขนานไปกับพื้น ไม่เอื้อมไปด้านหน้า ข้อศอกต้องตั้งฉากด้วย อีกทั้งปรับระดับเก้าอี้และปรับท่านั่งของตัวเอง ฝ่าเท้าวางราบพื้น เข่าตั้งฉากกับพื้น อาจจะหาเก้าอี้ที่มีที่วางศอกเพื่อลดอาการปวดเมื่อยได้
สุดท้ายคือเอกสารหรือสิ่งที่ต้องพิมพ์ควรอยู่ในระยะเดียวกับจอ โดยเราต้องไม่ขยับศีรษะหรือปรับเปลี่ยนโฟกัสมากจนเกินไป จะช่วยลดอาการตาพร่ามัวและอาการปวดตา ระคายเคืองตาลงได้
2.กระพริบตาถี่ๆ เมื่อมีการจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มากจนเกินไป ตาของเราจะมีการกระพริบตาที่น้อยลง ทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ เราจึงต้องพยายามที่จะกระพริบตาให้ถี่ขึ้นเพื่อให้ตามีน้ำตามาเคลือบดวงตาของเราหรือหยอดน้ำตาเทียงเพื่อช่วยให้มีน้ำตา โดยควรทำในทุกๆ 1 ชั่วโมงหรือทุกๆ 10 วินาทีควรกระพริบตาให้ได้ 1-2 ครั้ง ก็จะสามารถช่วยไม่ทำให้ตาแห้ง ลดอาการอ่อนล้าของดวงตาได้มากขึ้น หรือหากมีการสวมใส่คอนแทคเลนส์ก็สามารถนำน้ำตาเทียมมาหยอดเพื่อให้ตาไม่แห้งได้เช่นกัน
3.หยุดพักหรือเปลี่ยนตารางการทำงานใหม่ให้มีช่วงเวลาที่สายตาเราได้ผ่อนคลายบ้าง ควรหยุดพักสายตาครั้งละ 15 นาทีทุกๆ 2 ชั่วโมง หรืออาจจะหยุดพักบ่อยๆแต่ใช้เวลาน้อยๆก็ได้เช่นกัน เช่น พักสายตาทุก 30 นาที โดยหลับตาหรือมองไปไกลๆ สัก 5-10 นาที การพักสายตาต้องไม่เพ่งอะไรอีก เบนสายตาออกจากหน้าจอ คลายดวงตาเราให้ผ่อนคลายลงหรือหาต้นไม้สวยๆมาวางบนโต๊ะ เวลามองสีเขียวจะรู้สึกสดชื่น และยังเป็นการพักสายตาได้เช่นกัน แล้วจึงเริ่มทำงานต่อไปได้ เท่านี้ก็จะช่วยให้สายตาคลายความเมื่อยล้าจากการจ้องเพ่งคอมพิวเตอร์ได้
4.ปรับแสงสว่างจากภายนอก ภายในห้อง หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ให้พอดีและเหมาะสมต่อการใช้งาน ลดแสงสะท้อนที่มารบกวนดวงตา ควรปิดม่านหน้าต่าง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีแสงแดดหรือแสงสว่างจากภายนอกส่องกระทบกับจอคอมพิวเตอร์ บวกกับแสงภายในห้องที่สงว่างมากเกินไปก็จะทำให้มีแสงมาสะท้อนที่จอคอมพิวเตอร์เข้ามาที่ดวงตาเรา ทำให้รู้สึกไม่สบายตาได้ หรืออาจจะหาแผ่นกรองแสงที่เป็นแผ่นกันแสงสะท้อนมาติกที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ปรับความสว่างของหน้าจอและความแตกต่างของสีระหว่างพื้นจอกับตัวอักษรให้มองเห็นได้คมชัด เหมาะสมและสบายตาที่สุด เท่านี้ก็จะช่วยถนอมดวงตาเราในระหว่างการทำงานได้
5.ปรับค่าความละเอียดของหน้าจอ (Screen Resolution) ให้มีความพอดีกับขนาดของหน้าจอ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ปรับขนาดตัวอักษรและความเข้าให้เหมาะสม ใช้ขนาดตัวอักษรที่ใหญ่พอดี ความเข้มก็ปรับให้มากขึ้น โดยเราสามารถอ่านได้จากระยะห่าง 3 เท่า ของระยะที่เรานั่งทำงาน ทำให้ภาพและตัวอักษรไม่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง อาจจะช่วยถนอมสายตาได้อีกวิธีโดยการใช้จอคอมพิวเตอร์แบบแบน (LCD) จึงจะถนอมสายตาของเราได้ดีกว่าแบบเก่า (CRT) เท่านี้ก็จะช่วยดูแลดวงตาเราไม่ใหเกิดปัญหาตามมาได้อีกด้วย
6.เมื่อทำการพักสายตาแล้ว อาจจะใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆมาวางบนเปลือกตา และหลับตาสัก 2-3 นาที เพื่อให้ดวงตาได้มีความผ่อนคลาย ถ้าสามารถทำการปิดไฟพักสายตาได้ก็จะดีมาก ตาของเราเมื่อถูกความเย็นของน้ำก็จะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ตาก็จะล้าน้อยลงเพราะได้ทำการพัก หากจ้องจอมานานแล้วลองหยุดพักแล้วใช้วิธีนี้จะสามารถช่วยได้
7.ควรทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์และหน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นประจำ เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไปฝุ่นจะสามารถจับตัวกันบนหน้าจอคอมได้ หน้าจอก็จะเกิดความสกปรก เท่านั้นยังไม่พอ ฝุ่นจะทำให้หน้าจอเกิดการสะท้อนแสงมากระทบที่ดวงตาเราได้ ดังนั้นเวลาใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ควรเช็ดทำความสะอาดจอเป็นประจำ เพื่อลดการสะท้อนแสงเข้ามาที่ตา ที่ทำให้เกิดการระคายเคือง และแสบตาได้
8.รับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของวิตามินเอเป็นประจำและพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีการทำงานที่ต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เนย ผักใบเขียว แครอทหรือไข่ ซึ่งวิตามินเอจะมีสารที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตา หากอยากให้ดวงตาของเราอยู่กับเราไปนานๆการดูแลดวงตาด้วยวิธีนี้ก็ควรปฏิบัติตามเป็นอย่างยิ่ง เพียงเท่านี้ดวงตาก็จะอยู่กับเราไปได้นานๆ แถมยังช่วยให้ตาหวานได้อีกด้วย พยายามหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอก็จะช่วยถนอมสายตาของเราได้อีกทางหนึ่ง
9.หาแว่นตากรองแสงหน้าจอมาสวมขณะที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ารสวมแว่นตากรองแสง เป็นการช่วยปกป้องและถนอมดวงตาได้อีกทาง โดยเฉพาะเลนส์แว่นที่เคลือบด้วยวัสดุที่สามารถกรองแสงหน้าจอได้ โดยนำมาตัดเป็นแว่นสำหรับคนสายตาสั้น-สายตายาวได้เช่นกัน จะช่วยทำให้มองหน้าจอได้ชัดขึ้นไม่ต้องทำการเพ่งมาก หรือใช้เลนส์สีเขียวอ่อนเพื่อช่วยทำให้รู้สึกสบายตาได้เช่นกัน อีกทั้งยังช่วยลดแสงสะท้อนของหน้าจอที่มากระทบตาได้อีกด้วย เราก้จะไม่แสบตาและไม่มีปัญหาอื่นๆตามมา
10.ออกไปข้างนอกบ้านบ้างและทำการตรวจสายตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง การออกไปข้างนอกบ้านจะช่วยลดความเครียดลงได้ ปรับเปลี่ยนสถานที่เพราะการอยู่ที่เดิมเป็นเวลานานสายตาอาจจะชินกับแสงระดับเดิมๆและอาจจะมีการเครียดโดยที่ไม่รู้ตัว การออกไปช้างนอกก็จะช่วยผ่อนคลายได้ อีกทั้งการตรวจสายตาประจำปีก็จะช่วยในการตรวจหาปัญหาอื่นๆที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยตนเอง หากเกิดอะไรขึ้นมาก็จะสามารถรักษาได้ทันท่วงที
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 วิธีถนอมดวงตาและดูแลดวงตาของเราจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ดวงตาของเราเป็นสิ่งที่มีความละเอียดอ่อนมากๆและยังเป็นอวัยวะที่สำคัญมากเช่นกัน หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นจะทำการรักษาได้ยากและส่งผลกระทบอื่นๆตามมาอีกมากมายเลย ดังนั้นเราควรดูแลดวงตาของเราให้ดีที่สุดเพื่อให้ดวงตายังอยู่กับเราและใช้งานได้นานๆ หรือหากมีเวลาก็สามารถทำการบริหารดวงตาควบคู่ไปด้วยกับวิธีการถนอมดวงตาเพื่อให้ดวงตาของเราได้ขยับบ้างนะคะ เพียงเท่านี้ก็สามารถดูแลรักษาดวงตาของเราได้เป็นอย่างดีแล้วค่ะ
อ้างอิง