ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิง การแต่งหน้าเป็นอะไรที่ต้องทำเป็นประจำ จนวันที่หยุดแต่งขึ้นมาทำเอาขาดความมั่นใจ เพราะจะเริ่มรู้สึกว่าหน้าโล้น สดยิ่งกว่าปลาในตลาด และจะไม่พร้อมสุดๆ แต่ในช่วง Work from Home แบบนี้ จะให้ลุกขึ้นมาแต่งหน้าก็กระไรอยู่ ซึ่งบางครั้งก็ดันมีประชุมด่วน ต้องเปิดกล้องบ้าง หรือออกไปรับกล่องพัสดุกับ Messenger แบบเขินๆ แวบไปซื้อข้าวกลางวันก็อายแม่ค้า ใครเป็นแบบนี้อยู่เรามีเคล็ดลับมาฝากกันค่ะ บอกทริคหน้าสดยังไงให้ยังรอด เตรียมจดลิสต์ไว้แล้วไปทำตามกัน
1.หน้าไม่แต่งแต่คิ้วต้องแน่น
วิธีแก้ปัญหาอยากเปลือยหน้าสดแต่กลัวดูโล้นจนคนรอบข้างตกใจของสาวๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีคิ้วค่ะ เพราะคิ้วจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ใบหน้าของเราดูสมส่วนมากขึ้น เหมือนคำพูดที่ว่า “คิ้วคือมงกุฏของใบหน้า” และจะสังเกตเห็นได้ว่าดาราในละครหรือซีรีส์ ที่บางทีแค่เปลี่ยนทรงเขียนคิ้ว ก็ทำให้หน้าเปลี่ยน รับบทคนละคาแรคเตอร์ได้เลย กับคนทั่วไปก็เช่นกันค่ะ การไม่เขียนคิ้วและเขียนก็สร้างความต่างมากทีเดียว
เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าช่วงนี้เริ่มขี้เกียจ ไม่อยากแต่งหน้า แต่ยังอยากดูดีแม้หน้าสด แนะนำให้สักคิ้วเลยค่ะ เพราะเป็นเหมือนการเขียนคิ้วแบบถาวร หน้าก็จะดูมีมิติขึ้นมาอีกระดับ โดยควรเลือกสีคิ้วที่เป็นเฉดใกล้เคียงกับสีผม หรือเข้มกว่าเล็กน้อย และเลือกทรงที่ดูเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้คนจับโป๊ะได้นั่นเอง
2.ปากอมชมพูจากภายในไม่ง้อลิป
ถ้าคิ้วคือมงกุฏของใบหน้า ริมฝีปากก็เป็นสายสะพาย เพราะมีความสำคัญไม่ต่างกัน ซึ่งสิ่งที่ทำให้หลายคนกลัวการเปลือยหน้าสดเป็นอันดับต้นๆ ก็เพราะดูเหมือนป่วย หน้าซีดเซียวแบบคนไม่มีเรี่ยวแรง และปากเองก็เป็นอวัยวะที่ส่งผลอย่างมากเช่นกัน ถ้าเป็นคนปากซีดโดยธรรมชาติ พอไม่แต่งหน้าก็จะทำให้ดูไม่สดใสได้ แต่ถ้าริมฝีปากมีสีชมพูระเรื่อ ชุ่มชื้น อิ่มน้ำอยู่เป็นปกติ การหน้าสดก็จะไม่เป็นปัญหาเลยค่ะ
วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้มีริมฝีปากดูสดใสก็คือ การสครับปากและทาลิปบาล์มนั่นเอง โดยให้สครับสัปดาห์ละครั้ง และทาลิปบาล์มทุกวัน สลับกับมาสก์ริมฝีปาก เมื่อทำเป็นประจำปากก็จะดูสุขภาพดี แบบไม่ง้อลิปก็รอด ตื่นมาสวยเลยมีอยู่จริง
3.ผิวกระจ่างใสคือคีย์สำคัญในการหน้าสด
การไม่แต่งหน้าเท่ากับการโชว์ผิวที่แท้จริง ถ้าผิวไม่ดีแต่แรกก็ยากที่จะมั่นใจ โดยเฉพาะผิวหน้าที่ขาดการดูแล สามารถเกิดปัญหาได้มากมาย ตั้งแต่ความคล้ำ ผิวแห้ง หน้าลอกเป็นขุย ริ้วรอย จุดด่างดำ สิว รวมทั้งรูขุมขนกว้างได้อีกด้วย หากไม่หาทางแก้ไขก็ยิ่งขาดความมั่นใจในการเผยผิวค่ะ
ดังนั้นสาวๆ จึงควรเริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลผิว เริ่มต้นง่ายๆ ที่การทาครีมกันแดดและบำรุงด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ เพราะปัญหาผิวหลักๆ ล้วนมาจากการถูกแสงอาทิตย์ทำร้าย ถ้าสาวๆ ทากันแดดเป็นประจำก็จะช่วยปกป้องผิวได้ดีในระยะยาว นอกจากนี้ในครีมกันแดดบางรุ่นยังผสมเบสหรือมีเพิ่มเฉดความขาวและความชุ่มชื้นให้ผิวได้ ถ้าทาก่อนออกจากบ้าน จะลดความสดได้ระดับนึงเลย แนะนำให้ทาคู่กับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ด้วยนะคะ อย่างน้อยตอนเช้าถ้าไม่อยากทา ก็ควรทาตอนกลางคืนก่อนนอน เพื่อช่วยบำรุงผิว ไม่ให้ขาดน้ำ แห้งเสีย และเสียสมดุลค่ะ
4.สีผมเสริมออร่า ไม่แต่งหน้าก็ยังปัง
ใครย้อมผมเฉดสีสว่างหรือเม็ดสีชัดอย่าง สีทอง แดง ส้ม จะเข้าใจข้อนี้เป็นอย่างดี เพราะสีผมมีส่วนสำคัญในการทำให้หน้าสดดูซีดเซียวกว่าเดิมได้ค่ะ ยิ่งสีสดจัดหรือสีอ่อน สว่างมากๆ พอมาอยู่กับผิวแล้วจะดูดสีสันบนหน้าออกไป ทำให้ผิวหน้ายิ่งดูสดและซีดขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นใครที่ขี้เกียจแต่งหน้า อยากหน้าสดแบบปังๆ เลือกทำสีผมโทนเข้มจะช่วยได้ค่ะ และยังเป็นสีที่ดูธรรมชาติเข้ากับสาวเอเชียอยู่แล้วด้วยนั่นเอง
ไม่เพียงเท่านั้น หากสาวๆ ดูแลให้ผมสวย เงางาม เปล่งประกาย และจัดทรงง่าย ไม่ชี้ฟู ก็จะยิ่งทำให้ดูเนี้ยบขึ้น เวลาคนมองมาก็จะโฟกัสที่ผมสวยๆ มากกว่าโฟกัสความสดของใบหน้าได้เลย
5.ให้ฟันขาวๆ ช่วยปรับลุค
อีกปัจจัยที่ทำให้สาวๆ ต้องแต่งหน้าทุกวันก็คือเพื่อช่วยเสริมบุคลิกภาพ จนกลายเป็นความเชื่อว่าถ้าอยากดูดีต้องแต่งหน้า ซึ่งในความเป็นจริงอาจไม่ถูกต้องเสมอไปค่ะ เพราะเราสามารถเพิ่มความมั่นใจในส่วนอื่นๆ เพื่อเสริมบุคลิกภาพได้เช่นกัน สำหรับสาวไทยแนะนำเป็นรอยยิ้มเลย เพราะทุกครั้งที่เราแสดงสีหน้าต่างๆ จะสามารถดึงความสนใจจากคนรอบข้างได้ การยิ้มจึงเป็นเหมือนการสร้างความประทับใจนอกเหนือจากหน้าตา ในวันที่ไม่แต่งหน้าก็มีวิธีนี้แหละที่ช่วยให้สาวๆ ดูดีขึ้น
แต่จะยิ้มให้สวย มั่นใจ เรื่องฟันเลยเป็นสิ่งที่ต้องดูแล หากใครมีฟันเหลือง ขอให้แก้ไขด่วนค่ะ จะเลือกใช้ยาสีฟันสูตรไวท์เทนนิ่ง ควบคู่การลดกาแฟ ชา หรือตัดสินใจไปฟอกฟันขาวเลยก็ช่วยได้ดีทีเดียว
6.เสื้อผ้ามีส่วน หลอกตาได้ ไม่แคร์เมคอัพ
ปัจจุบันเทรนด์การเลือกสีประจำตัว หรือ Personal Color ฮิตมาก โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและเกาหลี เพราะสีเสื้อผ้าที่ตัดกับสีผิวจะช่วยให้ออร่าจับขึ้นได้ คล้ายการแต่งหน้าแต่เปลี่ยนเป็นแต่งตัวแทน และยังใช้หลักการเดียวกับการเลือกสีผมเลยค่ะ แต่สีเสื้อผ้าจะสามารถเลือกได้หลายโทนสีมากกว่า เพราะแต่ละคนมีสีที่แมตช์กับตัวเองเยอะมาก โดยจะวัดจาก Undertone ของผิว ใครที่อยากเลือกให้เหมาะสามารถทำเลือกสีที่เหมาะมาใช้ในการแต่งตัวได้เลย
เบื้องต้นถ้าเป็น Warm Undertone จะเหมาะกับสีโทนอบอุ่น อย่างส้ม เหลือง เอิร์ธโทน
ส่วนคนที่มีผิวเป็น Cool Undertone จะเหมาะกับสีโทนเย็น เช่น น้ำเงิน ม่วง สามารถดูว่าว่าเราเป็นคนผิว Undertone แบบไหนได้จากเส้นเลือดที่ข้อมือค่ะ ถ้าเส้นเลือดสีเขียวเป็น Warm Tone แต่ถ้าสีออกม่วง น้ำเงิน จะเป็น Cool Tone แต่หากอยากได้ความละเอียดกว่านี้ต้องไปเช็ก Personal Color Test ค่ะ
7.ดื่มน้ำอัปผิวฉ่ำ
การดื่มน้ำส่งผลกับผิวโดยตรง จะหน้าสดแบบสวยหรือพังก็มาจากการดื่มน้ำเช่นกัน ถ้าอยากให้เห็นผลลัพธ์กับผิวหน้าได้ดี ควรดื่มน้ำวันละ 2 – 3 ลิตรขึ้นไปค่ะ เพราะน้ำจะช่วยขับของเสียในร่างกาย เป็นการดีท็อกซ์ผิวไปในตัว นอกจากนี้ยังช่วยเติมความชุ่มชื้นไปหล่อเลี้ยงผิวให้ดูสุขภาพดีอีกด้วย แบบนี้ไม่มีรองพื้นก็ยังสวย แนะนำให้ดื่มตลอดวันเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นค่ะ
8.อาหารดีมีชัยกว่าครึ่ง
ผิวที่ดีก็มาจากการได้รับสารอาหารที่ดี นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมแล้ว การเติมสารอาหารที่ดูแลผิวได้ดีโดยเฉพาะ ก็มีส่วนช่วยให้ผิวสวยกว่าเดิม ซึ่งเป็นอาหาร 5 ประเภทดังต่อไปนี้
วิตามินซี
ในผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้ม มะนาว ฝรั่ง ช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูผิวที่เสีย พร้อมกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และความกระจ่างใสให้แก่ผิว
เบต้าแคโรทีน
พบได้ในผลไม้สีเหลือง เช่น ฟักทอง แครอท มะละกอ เป็นสารที่ช่วยป้องกันผิวจากยูวีได้ดี ลดโอกาสเกิดผิวไหม้ คล้ำเสีย
คอลลาเจน
คอลลาเจนในอาหารประเภทข้อต่อ กระดูก โดยเฉพาะในปลาทะเล ช่วยให้ผิวปรับโครงสร้าง เพิ่มความแข็งแรง ยืดหยุ่นขึ้นได้ สภาพผิวโดยรวมดีขึ้น ดูเรียบเนียน สุขภาพดี
สารต้านอนุมูลอิสระ
ในผักผลไม้สีแดง เช่น ทับทิม มะเขือเทศ ตระกูลเบอร์รี จะมีสารชนิดนี้อยู่ ซึ่งมีหน้าที่ป้องกันผิวจากรังสียูวี ลดการอักเสบ ทำให้ผิวไม่แพ้ง่าย รวมทั้งสู้แดดซึ่งเป็นต้นตอความหมองคล้ำ ริ้วรอย และจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี
ไอโซฟลาโวนในถั่วเหลือง
โปรตีนที่มีส่วนในการสร้างไฟโตรเอสโตรเจนที่เป็นฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้สาวๆ มีผิวกระจ่างใส เรียบเนียน ดูสุขภาพดีขึ้น
หรือใครจะเลือกเป็นวิตามิน อาหารผิวแบบเม็ด เพื่อเร่งผลลัพธ์ก็ได้เช่นกันค่ะ แต่ควรเลือกให้ดี แบรนด์เชื่อถือได้ ปลอดภัยในการกิน
9.พักผ่อนอย่าได้ขาด
การพักผ่อนช่วยแก้และป้องกันปัญหาผิวหน้าได้มากมาย ตั้งแต่ลดริ้วรอย ลดใต้ตาดำ และยังช่วยให้ผิวดูสดใสจากการพักผ่อนเต็มอิ่มได้ ใครที่นอนหลับเพียงพอเป็นประจำ ตื่นเช้าหน้าสดมาจะรับรู้ได้เลยว่าผิวเต่งตึงกระชับและสดชื่นกว่าวันที่อดนอน โดยเฉพาะในระยะยาว ดังนั้นสาวๆ ควรนอนให้ได้ 8 – 10 ชั่วโมงต่อวัน และจะยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้านอนก่อน 4 ทุ่ม เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายหลังฮอร์โมนออกมาเพื่อฟื้นฟูผิวนั่นเอง ถึงจะทำยากแต่ถ้าทำเป็นนิสัยได้แล้ว รับรองว่าส่งผลดีต่อผิวหน้าแน่นอน หน้าสดแบบสดใสมีอยู่จริง
10.ออกกำลังกายให้ผิวสุขภาพดี
การออกกำลังกายมีประโยชน์นอกจากกับร่างกายโดยตรงแล้ว ก็ส่งผลกับผิวได้ด้วยเช่นกันค่ะ เพราะเป็นเหมือนการรักษาระบบไหลเวียนเลือดให้ทำงานได้ดี ซึ่งพอเลือดไหลเวียนดีแล้วเขาก็จะส่งออกซิเจนมาเลี้ยงผิวได้มากขึ้น ผิวจะดูสุขภาพดี เปล่งปลั่งมากขึ้น ใครที่ไม่เคยออกเลยก็อยากให้ลองเริ่มตั้งแต่วันนี้ โดยวิธีออกที่เห็นผลกับผิวมากที่สุด แนะนำเป็นการคาร์ดิโอค่ะ เนื่องจากช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้สูบฉีดเลือดได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบอื่นๆ นั่นเอง แต่ต้องออกให้ถึง 30 - 45 นาทีขึ้นไปต่อครั้งค่ะ
สรุป
เคล็ดลับที่เรานำมาฝากกัน แม้จะเป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ แต่หากได้ลองทำ 10 ข้อร่วมกัน รับรองว่าหน้าสดได้แบบไม่เขินเลย นอกจากทำตามทริคแล้ว ก็อย่าลืมพกความมั่นใจไปเพิ่ม ถ้าเราเชื่อว่าสวย คนอื่นๆ ที่มองมาก็จะเชื่อตามค่ะ
อ้างอิง
https://today.line.me/th/v2/article/aK3kao
https://www.gangbeauty.com/topic/119228
https://women.trueid.net/detail/QGwDazBlAKwy
https://www.sanook.com/women/156587/