เมื่อทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ทั้งวัยเรียนและวัยทำงานต่างต้องกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติกันแล้ว พนักงานออฟฟิตก็ต้องกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานประจำ เพื่อนั่งทำงานอย่างหลังคดหลังแข็ง นักเรียนนักศึกษาก็ต้องกลับไปนั่งเรียนที่ห้องเรียน ทำให้เมื่อมีการนั่งทำกิจกรรมต่างๆที่โต๊ะมากเกินไป โหมงานที่ทำมากเกินไปหรือมีท่าทางในการทำงานที่ผิดทั้งการวางมือ ศอก และท่านั่ง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจจะส่งผลให้มีอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือปวดตามกล้ามเนื้อต่างๆ อาการเหล่านี้จึงนำมาสู่โรคที่เรียกว่า “ออฟฟิตซินโดรม” โดยโรคนี้นั้นส่วนมากเกิดขึ้นได้ในวัยทำงาน ซึ่งในปัจจุบันโรคนี้นั้นเป็นโรคที่คนในสมัยนี้เป็นกันได้ง่ายมากๆ เนื่องจากพฤติกรรมการทำงานของคนในสมัยนี้เริ่มเปลี่ยนแปลงไป วันนี้เราจึงมี 10 ท่านอนแก้ปวดหลัง ปวดหัวไหล่ ปวดต้นคอ จากออฟฟิตซินโดมมาฝากกัน ใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ ตามไปดูกันได้เลยค่ะ
แต่ก่อนอื่นก่อนที่เราจะเริ่มไปดูวิธีแก้ปัญหานั้นเราต้องรู้ก่อนว่า ออฟฟิตซินโดรมคืออะไรแล้วสาเหตุต่างๆที่ทำให้เกิดโรคนี้นั้นเกิดได้อย่างไร ออฟฟิตซินโดรมคืออาการที่ปวดเมื่อยตามร่างกายทั้งคอ บ่า ไหล่ สะบัก และบริเวณหลัง ซึ่งถ้าเกิดมีอาการปวดมากสะสมไปเรื่อยๆจะกลายเป็นออฟฟิตซินโดรมที่เป็นอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด รวมถึงการปวดและชาจากอาการอักเสบเนื้อเยื่อและเอ็น โดยอาการเหล่านี้เกิดได้บ่อยในวัยทำงานที่ต้องมีการนั่งทำงานในออฟฟิตและมีการนั่งทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์และมือถือเป็นประจำ
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังปวดไหล่ หรือปวดต้นคอเกิดจากการนั่งผิดท่า ผิดรูปแบบการนั่งหรือลักษณะที่ถูกต้อง การก้มนานหรือเร็วเกินไป การยกของที่หนักเกินตัวหรือความสามารถเรา การยืนหรือการก้มทีนานเกินไป การปวดหลังอาจส่งผลเสียถึงอนาคต โดยออฟฟิตซินโดรมมักเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมๆนานๆมากจนเกินไป เช่นการนั่งก้มหน้านานจนเกินไป นั่งตัวงอ หรือนั่งไขว่ห้างมากเกินไป ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อถูกใช้งานซ้ำๆจนมีการยืดหดและเกร็ง จนส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บ โดยอาจจะเริ่มปวดตึงจากจุดแรกแล้วร้าวลามไปตามจุดต่างๆเพิ่มขึ้นเป็นบริเวณกว้างขึ้นได้ วันนี้เราจึงมี สิบท่า นอนแก้ปวดหลัง สำหรับใคร ที่กำลังเจอปัญหาโรคออฟฟิตซินโดรมนี้เหมือนกัน ลองไปดูท่านอนที่เราแนะนำกัน
10 ท่านอนแก้ปวดหลัง ปวดคอ จากออฟฟิตซินโดรม
- ท่านอนตะแคงขวา
ท่านอนตะแคงขวาสามารถลดการปวดหลังได้เรื่องจากไม่มีการนอนที่ไปกดทับบริเวณหลังเพิ่ม โดยแนะนำให้เอาหมอนมาลองที่ระหว่างขา ท่านี้ทำให้กระดูกสันหลังไม่คดงอ ดูตรงสวยอยู่ตลอดเวลา อยู่ระดับเดียวกับสะโพก ช่วยลดอาการปวดหลังได้ดีมากๆอีกหนึ่งท่า
- ท่านอนหงาย
ท่านอนหงายเป็นอีกถ้านอนหนึ่งที่ นอนแล้วสบายแต่ต้องระวังการนอนทับหลังมากหรือนอนหงายนานจนเกินไปอาจจะทำให้ปวดหลังเพิ่มได้ แนะนำให้นำหมอนหมอนรองใต้หัวเข่า สามารถช่วยให้ลดอาการปวดหลังได้ดี แถมยังนอนสบายและรู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย
- ท่านอนคว่ำ
ท่านี้เป็นการนอนที่สบายมาก ไม่แนะนำสำหรับคนที่กำลังตั้งครรภ์ แต่อาจจะทำให้ปวดคอขึ้นมาได้ต้องระวังให้ดี หรือปวดหลังสำหรับใครที่ไม่สามารถนอนคว่ำได้ โดยวิธีการคือเพียงนอนคว่ำหน้าลง แนะนำให้นำหมอนมารองที่บริเวณท้อง ก็สามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดีแถมยังช่วยผ่อนคลายได้
- ท่านอนตะแคงขวา งอหัวเข่า
ท่านี้เป็นท่านอนอีกหนึ่งท่าที่ลดอาการปวดหลังได้ดี โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเสริม เป็นท่านอน ง่ายๆแค่เพียงนอนตะแคงตามด้านที่เราถนัดและงอหัวเข่าเข้ามา แต่ต้องระวังถ้านอนโดยงอหัวเข่านานจนเกินไปอาจจะส่งผลให้เกิดอาการปวดเข่าแทนได้ แต่สามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดีอีกหนึ่งท่าเลย
- ท่านอนตะแคงเอาแขนแนบลำตัว
สำหรับใครที่กำลังนอนแล้วปวดหลัง อาจจะเพราะการนอนผิดท่า หรือผิดรูปแบบ ควรลองเอาแขนแนบลำตัวแล้วนอนตะแคง ก็สามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้บ้างแต่ขึ้นอยู่ว่าเราเกร็งหรือเปล่าด้วยนะ
- ท่าปลาดาว
เท่านี้ทำได้ง่ายๆเพียงแค่นอนหงายหน้า กางแขน และขาออก ท่านี้ช่วย คลายกล้ามเนื้อบริเวณหลังได้เป็นอย่างดี เป็นท่าที่ใครนอนก็จะชอบเพราะให้ความรู้สึกสบายตัวแถมยังผ่อนคลายได้กางแขนขาตามที่เราต้องการ กล้ามเนื้อได้ยืดบ้างหลังจากที่นั่งหดตัวทำงานมาตลอดทั้งวัน ทำให้ลดอาการปวดหลัง ได้ดีมาก
- ท่านอนขดตัว
ท่านี้เพียงนอนขดตัวไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ตามด้านที่เราถนัด อาจจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ยืดหดบ้างสลับกันไป แต่ไม่ควรนอนท่านี้นานจนเกินไปเพราะจะทำให้ยิ่งมีอาการปวดได้ ถึงอย่างไรท่านี้ก็สามารถช่วยลดอาการปวดหลังจากออฟฟิศซินโดรมได้
- ท่านอนหงายมีหมอนรองคอ
ท่านี้เป็นท่านอนหงายที่มีอุปกรณ์คือหมอนรองคอ หมอนรองคอจะช่วยเสริมให้คอเรานั้นไม่ราบกับพื้น ลำตัวเราก็จะไม่ราบกับพื้นจนเกินไปเช่นกัน เพราะถ้าเรานอนราบกับพื้นมากและนานจนเกินไปอาจจะส่งผลให้หลัง คอและหัวไหล่เรานั้นเกิดอาการปวดและอักเสบได้ การนอนด้วยหมอนรองคอจึงสามารถลดอาการปวดของต้นคอและหลังได้
- ท่านอนตะแคงขวา และ หาอะไรมารองช่วงหัวไหล่
ท่านี้เป็นท่าที่ช่วยลดอาการปวดบริเวณหัวไหล่ได้เป็นอย่างดีเนื่องจากจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ได้มีการคลายกล้ามเนื้อบ้าง ทริคเล็กๆก็คือการนำหมอนรองสองใบมารองบริเวณแขนและหัวเข่า เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณศีรษะและหัวไหล่ จะสามารถช่วยให้อาการปวดบรรเทาลงได้
- ท่านอนหงายและงอเข้าขึ้นมา
ท่านี้จะช่วยให้ร่างกายเราได้มีการยืดหดของกล้ามเนื้อได้บ้าง แต่ไม่ควรนอนงอเข่าขึ้นมานานเกินไปอาจจะทำให้มีอาการปวดหัวเข่ามาแทรกได้ ดังนั้นจึงควรนอนในแต่ละท่าในระยะเวลาที่พอดี
การป้องกันตนเองในการลดปัญหาการเกิดออฟฟิตซินโดรมสามารถทำได้ง่ายๆโดยการที่เรานั้นควรปรับเปลี่ยนท่าทางในการทำงานให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมของสถานที่ทำงาน ทั้งโต๊ะ เก้าอี้หรือที่วางแขนพนังพิงต่างๆ ไม่ควรทำงานด้วยอิริยาบถเดิมๆนานเกิน 50 นาทีควรเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆเพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายดูบ้าง ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อลดอาการบาดเจ็บในระหว่างทำงานและสุดท้ายควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนจะทำงานหรือกิจกรรมอะไรที่ต้องค้างเป็นเวลานานเพื่อลดอาการปวดลงได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อาการออฟฟิตซินโดรมนั้นถ้ามีอาการไม่มากก็ไม่อันตรายอย่างที่คิดใช่ไหมคะ แต่ถ้าเราทิ้งไว้ให้อาการนั้นเรื้อรังมากขึ้น อาจจะส่งผลให้ร่างกายเรามีลักษณะที่ผิดเพี้ยนไปได้ เมื่อเรานั้นรู้ถึงว่าออฟฟิตซินโดรมคืออะไร แถมอาการและสาเหตุนั้นมีอะไรแล้วเ ราก็ควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้ามีอาการขึ้นมาแล้วออฟฟิตซินโดรมสามารถรักษาให้หายได้ด้วยตนเอง โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆของการทำงาน อย่างเช่น ปรับเปลี่ยนท่านอน แก้ปวดหลัง ปวดหัวไหล่ ปวดต้นคอ จากออฟฟิตซินโดม เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ยืดหดและร่างกายได้มีการผ่อนคลายดูบ้าง หรือจะนำท่านอนที่เรานำมาให้ความรู้ในวันนี้ไปปรับใช้เพื่อลดอาการปวดหรือทำให้อาการปวดหายไปได้นะคะ แต่ถ้าทุกคนนั้นสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องอยู่แล้วแค่หมั่นออกกำลังกายและดูแลตัวเองให้ดีเท่านี้ก็จะไม่เป็นออฟฟิตซินโดรมแล้วค่ะ หวังว่าทุกคนจะไม่เป็นออฟฟิตซินโดรมกันนะคะ
ที่มา : doctorraksa.com,sukumvithospital.com,praram9.com,nakornthon.com