สาวๆ ที่อยากทำศัลยกรรม อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมต้องอ่านด่วน อีกปัจจัยนอกจากการเลือกคลินิก ดูรีวิว ศึกษาวิธีการผ่าตัด หรือเลือกคุณหมอเฉพาะทางที่เก่งๆ ก็ยังมีเรื่องอาหารการกินที่เป็นอีกเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ เพราะส่งผลโดยตรงต่อการผ่าตัดและการฟื้นตัวค่ะ ถึงเลือกคลินิกดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่ควบคุมการกิน ก็ทำให้ผลลัพธ์ออกมาแย่ลงได้ เราเลยจะมาพาสาวๆ ที่เตรียมศัลยกรรมให้ได้รู้จักอาหารที่ควรเลี่ยง พร้อมเหตุผลและคำแนะนำ สำหรับปรับตัวเพื่อให้เข้าห้องผ่าตัดได้อย่างมั่นใจ แผลหายดี ไม่ติดเชื้อ จะมีอะไรบ้างตามไปดูกันเลย
- ปิ้งย่าง ชาบู
สายบุฟเฟต์อาจมีหลั่งน้ำตา แต่ขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะคะว่าปิ้งย่าง ชาบูที่เรากล่าวมา ไม่ได้เจาะจงเฉพาะประเภท All you can eat ค่ะ แต่หมายถึงร้านอาหารที่เสิร์ฟเนื้อสัตว์สดๆ มาให้เราคีบปิ้ง หรือลวกเอง รวมทั้งหมูกระทะด้วยค่ะ เหตุผลที่ไม่ควรกินอาหารประเภทนี้เป็นเพราะเรื่องความสะอาด เพราะเราไม่สามารถรู้ที่มาของเนื้อสัตว์ที่ร้านเอามาเสิร์ฟได้ บางทีร้านอาจจะสไลซ์ทิ้งไว้นาน เก็บไม่ดี พอนำมาวางที่โต๊ะแล้วไม่กินทันที ปล่อยไว้ให้โดนอากาศนานๆ ก็อาจเกิดแบคทีเรียหรือเชื้อโรคระหว่างนั้นได้ ซึ่งถึงแม้ตอนกินจะนำไปผ่านความร้อนแล้วก็ยังไม่น่าวางใจค่ะ เพราะอาจมีชิ้นที่ไม่สุกดีหลงรอดมาได้ ในเวลาปกติร่างกายอาจจะไม่เป็นไรมาก แต่ถ้าเจอแบบนี้ช่วงศัลยกรรมละก็ไม่ดีแน่ ดังนั้นสาวๆ จึงควรงดก่อนล่วงหน้า 1 สัปดาห์และ 2 สัปดาห์หลังทำแล้วค่ะ
- ส้มตำปลาร้าแซ่บๆ นัวๆ
ตัวร้ายจากวงการอาหารที่ทำให้สาวๆ เกิดแผลติดเชื้อได้ก็ส้มตำนี่แหละ ซึ่งความร้ายกาจของส้มตำมาจากปัจจัยถึง 3 ประการด้วยกัน อันดับแรกเลยก็คือใส่ปลาร้าและปูดองค่ะ ด้วยความที่เป็นของหมักดอง ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจะผ่านการต้มแล้วแต่ปลาร้าก็อาจมีสารพิษบางอย่างที่อาจทำให้เกิดการแพ้ได้ค่ะ นอกจากนี้ส้มตำที่กินยังมีความเผ็ดเข้ามาเป็นปัจจัยอันตรายสำหรับคนทำจมูก เพราะทำให้เกิดน้ำมูกเยอะ เสี่ยงสะสมสิ่งสกปรกระหว่างนี้ได้อีกด้วย และข้อสุดท้ายก็เพราะมีวัตถุดิบเป็นของดิบเยอะค่ะ พวกมะละกอ มะกอก หรือผักต่างๆ ที่ไม่ผ่านความร้อนในส้มตำ ถ้าไปเจอชิ้นที่มีสารปนเปื้อนเข้า ก็จะเป็นอันตรายต่อแผลผ่าตัดนั่นเอง
- ผลไม้ดองทุกชนิด
ของดองเป็นอาหารอีกประเภทที่ต้องระวัง เพราะผ่านกระบวนการเก็บรักษาค่ะ มีผลตั้งแต่การเลือกภาชนะในการดอง อาหารบางอย่างมีการดองในปี๊บที่อาจพบสิ่งปนเปื้อนได้ และยังต้องใส่สารเคมีบางชนิดในการดองเข้าไป ตรงนี้มีส่วนส่งผลให้เกิดการแพ้และไม่ดีกับแผลหลังศัลยกรรมค่ะ นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องความไม่สดใหม่ของอาหาร ระยะเวลาที่ใช้ดองนานๆ บางอย่างเป็นเดือนหรือหลายเดือน อันนี้ก็เสี่ยงสะสมเชื้อโรค หรือสิ่งเจือปนระหว่างนั้นได้ เพราะงั้นสาวๆ จึงควรเลี่ยงแผงผลไม้ดองไปยาวๆ อย่างน้อยก็จนกว่าแผลจะหายดีค่ะ
- เหล้า เบียร์
เหล้า เบียร์ วอดก้า โซจู หรืออะไรก็ตามที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องงดทุกชนิดค่ะ เพราะในแอลกอฮอล์จะมีสารที่ไปกระตุ้นการสูบฉีดของเลือดในร่างกาย ส่งผลกระทบกับการผ่าตัดศัลยกรรม อาจทำให้เลือดไหลไม่หยุด เสี่ยงแผลอักเสบและติดเชื้อได้ นอกจากนี้ยังไปยับยั้งการเกิดเซลล์ใหม่ในร่างกายที่จะไปช่วยสร้างเนื้อเยื่อ แอลกอฮอล์จึงทำให้แผลหายช้าด้วยนั่นเอง เราจึงแนะนำให้เลี่ยงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด และ 1 เดือนหลังผ่าตัดค่ะ ซึ่งก็ต้องดูให้ดีว่าแผลหายสนิทแล้วจริงๆ นะคะ ถ้าครบเดือนแล้วแผลยังไม่หาย ก็ยังไม่ควรกินค่ะ
- ซีฟู๊ด
อาหารทะเลก็ไม่ควรกินเช่นกันค่ะ เพราะเสี่ยงต่อการบวมของแผลได้ ซึ่งอาหารทะเลที่มีความเสี่ยงก็จะเป็นพวกหมึก กุ้ง กั้ง ปู หรือหอย ในส่วนของปลาถ้าเป็นปลาทั่วไปก็ยังกินได้อยู่ค่ะ เหตุผลก็เพราะซีฟู๊ดเป็นของแสลงที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ เช่น บางคนแพ้อาหารที่ใช้เลี้ยงกุ้งอีกที หรือมีบางครั้งที่สัตว์ทะเลที่เรากินอาจไปได้รับสารอาหารที่เป็นพิษมา ทำให้เราเกิดการแพ้ได้ค่ะ ถึงแม้ปกติจะไม่ใช่คนที่แพ้อาหารทะเล ก็อาจจะมาเจออาการเอาระหว่างที่ผ่าตัดศัลยกรรมได้ เพราะฉะนั้นจึงควรเลี่ยงไปก่อนอย่างน้อย 7 วันนั่นเอง
- ซูชิ ซาชิมิ
ของดิบที่ฮิตในหมู่สาวๆ ก็หนีไม่พ้นซูชิ ซาชิมิต่างๆ ใช่มั้ยคะ แต่บอกเลยว่าช่วงก่อนและหลังผ่าตัดไม่สามารถกินได้ค่ะ เพราะของดิบประเภทนี้เสี่ยงต่อการสะสมพยาธิ ถ้าหากเข้าสู่ร่างกายช่วงที่อ่อนแอพอดี ก็จะทำให้ติดเชื้อได้ง่ายนั่นเอง และในซูชิบางชนิดยังมีการนำปลาไปหมักด้วยค่ะ สาวๆ ก็มีโอกาสได้รับเชื้อสองต่อเลย อาการบวมเกิดขึ้นง่ายมาก เท่านั้นไม่พอ ซาชิมิเองก็เป็นอาหารทะเลด้วย จึงมีความเป็นได้ที่จะเกิดอาการแพ้ เพราะงั้นให้งดไว้จะปลอดภัยที่สุดค่ะ
- น้ำอัดลม
ในน้ำอัดลมมีโซเดียมค่อนข้างมากค่ะ ซึ่งอย่างที่รู้ๆ กันว่าโซเดียมทำให้เกิดอาการบวมได้ง่าย สาวๆ ที่ศัลยกรรมมาแล้วก็คงไม่อยากให้แผลส่วนที่ทำมาเกิดอาการบวมถูกมั้ยคะ ป้องกันได้ด้วยการงดเครื่องดื่มประเภทนี้ค่ะ แต่ถ้าใครติดดื่มน้ำอัดลม เราแนะนำให้ลองเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้ทดแทนไปก่อน นอกจากจะเลี่ยงอาการบวมแล้ว ยังมีวิตามินซีเยอะ ทำให้แผลผ่าตัดหายไวขึ้นได้อีกด้วย
- อาหารแปรรูป และเครื่องปรุงที่โซเดียมสูง
ข้อนี้จะคล้ายๆ กันกับเหตุผลที่ห้ามดื่มน้ำอัดลมค่ะ ก็คือเรื่องโซเดียมในอาหารแปรรูปนั่นเอง อย่างอาหารกึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอก ขนมซอง ซอส เต้าเจี้ยว และเครื่องปรุงบางชนิด นอกจากนี้ยังนับรวมอาหารที่มีรสเค็มจัดด้วยนะคะ อย่างน้ำปลาเอง ใส่มากก็ไม่ดีเช่นกัน จะทำให้แผลบวม และหายยากได้ค่ะ ช่วงพักตัวหลังศัลยกรรมถ้าทำอาหารกินเองได้จะดีมากเลย เพราะเราสามารถควบคุมวัตถุดิบและเครื่องปรุง รวมถึงความสะอาดได้ด้วยตัวเองค่ะ
- อาหารเสริมทุกชนิด
อาหารเสริมอย่าง วิตามิน สมุนไพร น้ำมันตับปลา พวกนี้ล้วนมีผลกับการแข็งตัวของเลือดค่ะ ซึ่งทำให้แผลหายช้า เลือดไหลไม่หยุด แล้วยังเกิดเป็นการบวมได้นั่นเอง ดังนั้นจึงไม่ควรกินทั้งก่อนและหลังทำศัลยกรรมนะคะ แต่ถ้าบางคนกินตามคำสั่งแพทย์ อันนี้ก็ต้องปรึกษาเป็นเคสบายเคสอีกทีค่ะ
- หน่อไม้ดิบและหน่อไม้ดอง
หน่อไม้ยังนับรวมเป็นหนึ่งในอาหารแสลง เพราะมีสารพิษในตัวเองค่ะ โดยเฉพาะในหน่อไม้ดิบที่พบไซยาไนด์อยู่ ถึงแม้ปริมาณจะไม่ได้มากและสามารถหายไปได้เมื่อผ่านความร้อน แต่ถ้ากินเข้าไปเยอะเกิน ก็จะส่งผลต่อแผลผ่าตัดได้ค่ะ ซึ่งถ้าใครจะเปลี่ยนไปกินหน่อไม้ดอง เราก็ยังคงไม่แนะนำนะคะ เพราะของหมักดองเองก็ยังมีสารเคมีเป็นส่วนประกอบ แถมภาชนะที่ใช้ดองอย่างปี๊บ ก็อาจพบการปนเปื้อนได้ค่ะ
สรุป
นอกจาก 10 อาหารที่เราลิสต์มา ก็ยังมีหลายคนที่มีความเชื่อว่าห้ามกินไข่ไก่ ไก่หรือถั่วบ้างล่ะ ก็ต้องออกมาแก้ความเข้าใจผิดค่ะ เพราะอย่างไข่ไก่หรือไก่เอง เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อซึ่งส่งผลให้แผลหายเร็วได้ด้วย จึงสามารถกินได้ปกติ แต่ก็ต้องควบคุมปริมาณให้เหมาะสม และนอกจากการควบคุมอาหารบางชนิดแล้ว ถ้าอยากให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วโดยไม่มีอาการแพ้ บวม หรือติดเชื้อ ก็ควรเลือกกินพวกผลไม้ที่มีฤทธิ์ลดบวม อย่างน้ำใบบัวบก น้ำมะพร้าวและน้ำฟักทองค่ะ และจะยิ่งดีไปอีกถ้าสาวๆ เติมวิตามินซี (แต่ต้องมาจากผลไม้สดเท่านั้นนะคะ) พวกส้ม ฝรั่ง ผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ เพราะวิตามินซีก็ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สมานแผล ได้เช่นกันค่ะ