ปัญหาผมร่วงไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งสาวๆ ที่ไว้ผมยาวต่างก็รู้ดี ตื่นมาตอนเช้าจ้องพื้นทีไร เห็นเส้นผมร่วงกองอยู่เต็มไปหมด ปล่อยไว้นานก็หวั่นใจว่าผมจะยิ่งบางลง ทำทรงอะไรก็ดูไม่สวยถูกมั้ยคะ ยิ่งไปกว่านั้นต้นตอของผมร่วงก็อาจมาจากความผิดปกติของร่างกายได้อีกด้วย ยิ่งหาต้นเหตุได้ไว ก็ยิ่งหาทางรับมือได้เร็ว
วันนี้เราเลยลิสต์สาเหตุที่ทำให้เกิดผมร่วง พร้อมวิธีแก้ไขมากฝากกัน แต่ก่อนอื่นก็ต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของผมและปัจจัยการหลุดร่วงของเส้นผมคร่าวๆ ก่อนค่ะ
รู้จักเส้นผม 101
ผมของเราประกอบด้วย 2 ส่วน คือ รากผม หรือส่วนที่อยู่ใต้หนังศีรษะ และเส้นผมที่งอกยาวออกมา โดยอาการผมร่วงนี้เกิดจากการที่ทั้งรากผมและเส้นผมทำงานผิดปกตินั่นเอง
ปัจจัยการหลุดร่วงของเส้นผม
ผมร่วงมีต้นเหตุทั้งหมด 2 ปัจจัยด้วยกันค่ะ คือ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ซึ่งปัจจัยภายในก็มาจากการทำงานของร่างกายที่ต่างกันไปของแต่ละคน อาจส่งผลตั้งแต่เกิดหรือเปลี่ยนแปลงตามช่วงวัยและสุขภาพ ณ ขณะนั้น ส่วนปัจจัยภายนอก เกิดจากสภาวะแวดล้อมรอบตัว รวมทั้งการใช้ชีวิตและวิธีดูแลเส้นผมของแต่ละคนค่ะ โดยมีสาเหตุหลักๆ 10 ข้อด้วยกัน ตามด้านล่างนี้เลย
สาเหตุที่ 1 กรรมพันธุ์
ผมร่วงเพราะกรรมพันธุ์เป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ ซึ่งถูกถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมผ่านยีนส์เด่น และมักพบในผู้ชายเป็นหลักค่ะ สังเกตได้จากการมีคนในครอบครัว มีอาการเหมือนหรือใกล้เคียงกับที่เราเป็น สาเหตุมาจากร่างกายผลิตเอนไซม์ชนิดที่ทำให้รูขุมขนบริเวณศีรษะเล็กลงขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ผมที่งอกใหม่บางและหลุดร่วงง่ายค่ะ
วิธีแก้
เนื่องจากเป็นปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุมเลยหาวิธีแก้ได้ยาก แต่ก็สามารถใช้วิธีการดูแลรักษาผมให้คงความแข็งแรง เพื่อช่วยรักษาเส้นผมไว้ให้ได้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการทำร้ายผมทุกกรณี หรืออาจปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาต้านกรรมพันธุ์ เลเซอร์กระตุ้นเซลล์รากผม ไปจนถึงการปลูกเส้นผม ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจขึ้นได้ค่ะ
สาเหตุที่ 2 ความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย
ในส่วนของฮอร์โมนผิดปกติจนทำให้เกิดผมร่วงจะมี 2 แบบด้วยกันค่ะ คือ
-ฮอร์โมน dihydrotestorsterone ที่อยู่ในฮอร์โมนเพศชาย อันนี้จะทำให้ผมไม่แข็งแรง งอกออกมาไม่ทันไรก็จะร่วงหลุดไป
-ไทรอยด์ฮอร์โมน ที่มีหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย รวมทั้งไขมัน และเกี่ยวเนื่องกับการสร้างไขมันบนศีรษะด้วย เมื่อการผลิตไขมันน้อยจะทำให้ผมแห้งเกินไปจนขาดหลุดร่วง หรือถ้าไขมันมากไปก็จะอุดตันและทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน
วิธีแก้
ข้อนี้ก็จะคล้ายกันกับข้อแรกนะคะ เพราะฮอร์โมนเองก็อยู่เหนือการควบคุมของเรา บางคนอาจจะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วกลับมาหายเองได้ แต่ถ้านานเกินไปแล้ว แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหายาหรือแนวทางการรักษาที่สามารถสร้างสมดุลของฮอร์โมนได้ค่ะ
สาเหตุที่ 3 อาการเครียดสะสม
เชื่อว่านี่อาจเป็นสาเหตุอาการผมร่วงของใครหลายคน โดยเฉพาะชาวออฟฟิศ ด้วยงานที่เครียดหรือปัญหาการเงิน ต่างก็ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันรวมถึงการทำงานของหนังศีรษะผิดปกติ จนเกิดอาการผมร่วงนั่นเองค่ะ
วิธีแก้
ถึงแม้จะเป็นปัจจัยภายในแต่ก็เป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วคราว ถ้าใครมั่นใจว่าผมร่วงเพราะสาเหตุนี้ ก็สามารถหาวิธีคลายความกังวลเพื่อให้การทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกายกลับสู่สภาวะปกติค่ะ
สาเหตุที่ 4 ดูแลรักษาเส้นผมแบบผิดๆ
การดูแลเส้นผมของสาวๆ เองก็ส่งผลต่อความแข็งแรงของเส้นผมนะคะ เริ่มตั้งแต่เบสิคอย่างการสระผมด้วยน้ำอุ่นบ่อยเกินไปจนทำให้หนังศีรษะแห้ง หรือชอบหวีผมทั้งที่ยังเปียกอยู่ ไปจนเช็ดผมแรงๆ ก็ทำให้ผมอ่อนแอและหลุดร่วงลงได้ แม้แต่การมัดผมเองถ้ามัดแน่นเกินไป ใช้ยางคุณภาพไม่ดี อันนี้ก็มีผลต่อผมเหมือนกันค่ะ
วิธีแก้
ปรับพฤติกรรมใหม่ ดูแลผมของเราอย่างอ่อนโยนถะนุถนอมมากขึ้น ซึ่งทุกคนก็ต่างรู้ดีอยู่แล้ว เพียงแค่อาจละเลยและหลงลืมไปบ้างบางที ต่อไปนี้จะทำอะไรกับผมก็นึกไว้เสมอ เบาได้เบาค่ะ
สาเหตุที่ 5 โดนความร้อนและสารเคมีจากการเข้าร้านทำผม
สาเหตุฮอตฮิตที่ทำร้ายผมหลายๆ คนมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตัด ดัด ทำสี ยืดผม ต่างส่งผลโดยตรงได้ทั้งนั้นหากทำต่อเนื่องโดยไม่พักผม หรือทำอย่างผิดวิธีค่ะ
วิธีแก้
ถ้าแก้ที่ปลายเหตุก็แนะนำให้ทำทรีตเมนต์หรือเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนผสมของเคราตินมาใช้ ส่วนใครที่ผมยังแข็งแรงดีอยู่และอยากดูแลทุกเส้นให้อยู่ไปนานๆ ก็ต้องคิดหน้าคิดหลังทุกครั้งก่อนเข้าร้านทำผมนะคะ เลือกร้านที่ใช้น้ำยายืดหรืออุปกรณ์ดีๆ เป็นออร์แกนิกได้ยิ่งปัง และหลังทำผมแต่ละครั้ง อย่าลืมเว้นระยะให้ผมได้พักด้วยค่ะ
สาเหตุที่ 6 ผลกระทบจากการใช้ชีวิตประจำวัน
อธิบายให้เข้าใจง่ายก็คือเรื่องอาหารการกินของเรานั่นแหละค่ะ อย่างใครที่ชอบอาหารรสจัด หรือดื่มแอลกอฮอล์ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสทำให้ความดันโลหิตสูง เกิดการหดตัวของเส้นเลือด ทำให้ไม่สามารถส่งขึ้นไปเลี้ยงเส้นผมได้นั่นเองค่ะ
วิธีแก้
ลดอาหารที่ส่งผลต่อสุขภาพ โดยเฉพาะระบบไหลเวียนเลือดค่ะ และไม่ควรทานอาหารที่จำเจ แต่แบ่งทานให้ครบทุกประเภท ถ้าอยากบำรุงเพิ่มเติมก็เลือกเป็นจำพวกที่มีโปรตีนสูงอย่างไข่ไก่ นมถั่วเหลือง ธัญพืช หรือถั่วได้เช่นกัน
สาเหตุที่ 7 ผลข้างเคียงจากการใช้ยา
ยารักษาโรคหลายชนิดก็มีผลข้างเคียงทำให้ผมร่วงค่ะ อย่างที่คุ้นเคยกันเลยจะมียารักษาสิว ยาคุม ยาแก้ปวด ยาลดความดัน ยาต้านโรคซึมเศร้า รวมทั้งการทำเคมีบำบัด ซึ่งก็แล้วแต่ประเภท ยี่ห้อ และระยะเวลาในในการกินด้วยค่ะ
วิธีแก้
ใครที่ผมร่วงจากสาเหตุนี้ก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เมื่อหยุดยาหลังจากที่รักษาโรคหายดีแล้ว เส้นผมก็จะค่อยๆ กลับมาเป็นสภาพปกติค่ะ
สาเหตุที่ 8 เกิดจากอาการแพ้
คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง ประโยคนี้ไม่ไกลไปกว่าความจริง ซึ่งผมร่วงจากการแพ้ก็เกิดได้กับทุกสรรพสิ่งเลยค่ะ แต่ที่พบบ่อยๆ จะมาจากสิ่งเร้าที่สัมผัสกับเส้นผมโดยตรงอย่างแพ้น้ำ หรือแพ้แชมพูและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม
วิธีแก้
เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อเส้นผม และควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้จริง หรือถ้าใครแพ้น้ำก็ควรเปลี่ยนจากใช้น้ำประปาในการสระผม ไปเป็นน้ำขวด หรือติดตั้งตัวกรองเพิ่มค่ะ
สาเหตุที่ 9 อาการร่วมที่เกิดขึ้นพร้อมกับโรคบางชนิด
เคยได้ยินเขาพูดกันว่า เป็นโรคเดียวเหมือนได้โรคเพิ่ม มาเข้าใจก็วันนี้ เพราะบางทีที่ผมร่วงหนักๆ ก็มาในรูปแบบของอาการบ่งชี้โรคบางชนิด ไม่ว่าจะเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคตับ โรคไต ไทรอยด์ ซิฟิลิส หรือแม้แต่คนที่ติดโควิดบางรายก็มีอาการผมร่วงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ที่สาวโสดและคุณแม่มือใหม่อาจยังไม่รู้ก็คือ ตอนมีเบบี๋โดยเฉพาะช่วงหลังคลอด จะส่งผลให้ผมร่วงได้ด้วยค่ะ
วิธีแก้
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโรคนะคะ บางโรคถ้ารักษาหายแล้ว อาการผมร่วงก็จะหายตาม แต่บางโรคที่เป็นโรคเรื้อรังก็อาจจะต้องยอมรับและอยู่ร่วมกับสภาวะนี้ไปค่ะ ถึงผมจะร่วงแต่ถ้าใจเรายังเริ่ด ก็ไม่มีอะไรมาหยุดความมั่นใจได้ค่ะ
สาเหตุที่ 10 อายุที่มากขึ้นส่งผลต่อการผลิตเส้นผม
เมื่ออายุมากขึ้นการทำงานของร่างกายรวมทั้งฮอร์โมนต่างๆ ก็ลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการผมร่วงค่ะ โดยสามารถเริ่มได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไปได้เลย
วิธีแก้
แก้ได้ค่อนข้างยากนะคะ อาจจะเน้นเป็นวิธีบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและอยู่ไปกับเรานานขึ้น โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ลดผมขาดร่วงได้ค่ะ
สรุป
เป็นยังไงบ้างคะสำหรับ 10 สาเหตุผมร่วงที่เราลิสต์มาให้ เห็นแล้วใช่มั้ยคะ ว่าอาการผมร่วงพบได้จากหลายปัจจัยมาก บางอย่างก็เป็นที่ตัวเราเองหรือบางอย่างก็เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุไหน เชื่อว่าสาวๆ คงได้ความรู้และคำแนะนำไปไม่มากก็น้อย ใครที่ลองทำตามแล้วเวิร์ค เราดีใจด้วยมากๆ เลย แต่ถ้าใครลองวิธีเหล่านี้แล้วก็ยังไม่หาย ควรต้องไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุได้ตรงจุด และได้วิธีรักษาแบบมีประสิทธิภาพต่อไปค่ะ