สวัสดีค่ะสาวๆ ที่รักในการดูแลตัวเองคงจะรู้จัก โบท็อกกันอยู่บ้างใช่ไหมคะ หลายคนอาจจะเคยมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่ฉีดโบท็อกกันมาบ้างแล้ว แต่ไม่ทราบว่าที่จริงแล้วโบท็อกนั้นดียังไง ? ฉีดแล้วเจ็บไหม? โบท็อกช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง? หรือควรเตรียมตัวยังไงก่อนการฉีดและหลังการฉีด วันนี้เราเลยนำความรู้เกี่ยวกับโบท็อกมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ ว่าโบท็อกดียังไง ? ก่อนฉีดโบท็อกควรรู้อะไรบ้าง ? ไปอ่านกันเลย
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักโบท็อกกันก่อนว่า โบท็อกคืออะไร ?
โบท็อก คือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum toxin type A) ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โดยเมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว และช่วยลดริ้วรอยได้ ในวงการเสริมความงาม โบท็อก (Botox) จึงเป็นนวัตกรรมที่นิยมใช้สำหรับลดริ้วรอย ยกกระชับหน้า และลำคอ รวมถึงการลดขนาดของกล้ามเนื้อในบริเวณต่างๆ เช่น น่องและกราม การฉีดโบท็อกถือเป็นวิธีเสริมความงามในอันดัยต้นๆที่มาแรง และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงกว้าง อาจเพราะการฉีดโบท็อกถือเป็นวิธีที่จะช่วยตอบโจทย์ของสาวๆที่รักสวยรักงามได้แบบทันใจ เห็นผลภายใน 3-7 วัน
โบท็อกดีอย่างไร ?
โบท็อกดีอย่างไรอาจเป็นคำถามที่หลายคนอยากจะถาม จิงๆแล้วข้อดีของโบท็อกนั้นมีหลายอย่าง เพราะการฉีดโบท็อก Botulinum toxin A มีคุณสมบัติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- การลดขนาดของกล้ามเนื้อให้เล็กลง เช่น ลดขนาดกรามให้ใบหน้าดูเรียวเล็กขึ้น , ลดขนาดน่องให้ขาเรียวยาวสวย , ลดขนาดปีกจมูกให้เล็กลงเห็นสันแกนจมูกชัดเจนขึ้น เป็นต้น
- โบท็อกช่วยคลายขนาดกล้ามเนื้อที่หดตัวให้ดูเรียบตึงขึ้น เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว หรือ ผิวหนังบริเวณคอ มือ ที่เหี่ยวย่น โบท็อกซ์ช่วยให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียน และทำให้หน้าดูเด็กขึ้น
- สามารถลิฟท์กรอบหน้า เพื่อยกกระชับใบหน้า ไม่ให้หย่อนคล้อย และช่วยทำให้กรอบหน้าชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- การฉีดโบท็อกใต้วงแขน รักแร้ จะช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง อีกทั้งยังระงับกลิ่นกายได้อีกด้วย
- ช่วยรักษาโรคไมเกรนเรื้อรัง ระงับอาการปวดให้น้อยลง และทำให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย
- ช่วยรักษาอาการตากระตุก โดยทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานชั่วขณะลดอาการตากระตุกได้
- สามารถเห็นผลได้อย่างเร็ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของการฉีดด้วย มีทั้งเห็นผลแทบจะทันทีจนถึงเป็นเดือนกว่าถึงจะเห็นผล นอกจากนี้โบท็อกยังมีใบรับรองจากองค์การอาหารและยา ทำให้สบายใจในเรื่องของมีความปลอดภัย ไม่ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษก่อนเข้ารับการฉีด เมื่อฉีดเสร็จสามารถทำกิจกรรมตามปกติได้ในทันที สามารถเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง และมีผลข้างเคียงน้อย
6 ยี่ห้อโบท็อกที่ได้รับความนิยมในไทย และผ่านการรับรองในไทย
Nabota
Nabota เป็น Botox เกรดพรีเมี่ยมจากประเทศเกาหลี ขึ้นชื่อในเรื่องของความบริสุทธิ์ และฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ที่ไวมาก นิยมใช้ในการลดเลือนริ้วรอย และการปรับรูปหน้า นอกจากนี้Nabota แบรนด์โบท็อกซ์นำเข้าจากประเทศเกาหลีตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA ซึ่งตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ผลลัพธ์อยู่ได้ค่อนข้างนาน 4 - 6 เดือน
Botulax
Botulax อีกหนึ่ง Botox ที่ยอดฮิตจากประเทศเกาหลี โด่งเด่นในเรื่องของคุณสมบัติที่ออกฤทธิ์ไว เป็นโบท็อกที่พัฒนามาจากยี่ห้อ Allergan ของอเมริกา
ทำให้เห็นผลลัพธ์หลังการฉีดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดริ้วรอยทำให้หน้าดูเป็นธรรมชาติไม่ตึงจนเกินไป ราคาถูก นิยมใช้ในการลดเลือนริ้วรอย และการกระชับใบหน้าให้ดูเรียวเล็ก และ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
Aestox
Aestox เป็น Botox จากประเทศเกาหลี ที่ได้รับการรับรองจากอย.ในประเทศไทย มีค่าความบริสุทธิ์สูงมาก ผลลัพธ์ที่ได้จึงทำให้ใบหน้าดูมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้หน้าดูแข็งตึงจนเกินไป และอยู่ได้นาน 4 - 6 เดือน
Allergan
Allergen โบท็อกซ์ยี่ห้อนี้คือ Botox แบบดั้งเดิม เป็นBotoxตัวแรกที่มีการคิดค้นขึ้นมา และเป็น Botox สัญชาติอเมริกา ที่มีการพัฒนามาอย่างยาวนาน โดยมีงานวิจัยที่หลากหลาย และได้รับการยอมรับในระดับโลก Allergenถือเป็น Botox ที่มีคุณภาพสูงที่สุด และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย และยังเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA ผลลัพธ์หลังจากการฉีดเป็นที่แม่นยำ แต่อาจมีราคาสูงกว่าตัวอื่นๆ และสามารถอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน
Dysport
Dysport คือ Botox มาจากประเทศอังกฤษ มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของการออกฤทธิ์แบบกระจายตัวเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังมีตัวโครงสร้างของสารที่มีโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์ของอเมริกา ทำให้สามารถกระจายตัวได้ดีกว่า เหมาะกับการนำมาฉีดลิฟต์หน้า เพื่อทำให้หน้ากระชับด้วยเทคนิค DermaLift และช่วยเรื่องร้ิวรอยได้ดี รวมถึงการฉีดเพื่อลดต้นแขน กระชับน่อง และสามารถฉีดที่บริเวณรักแร้เพื่อแก้ปัญหาเหงื่อรวมถึงปัญหากลิ่นตัวได้ด้วย และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
Xeomin
Xeominเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อโบท็อก ที่ได้รับการรับรองในไทย Xeomin เป็น Botox จากประเทศเยอรมนี ที่ขึ้นชื่อเรื่องความบริสุทธิ์สูง เพราะโบท็อกซ์แบบ Pure Toxin ที่ไม่มีการปนเปื้อนของโปรตีนในตัวยา เวลาฉีดแล้วจะไม่รู้สึกว่าตึงจนเกินไป มักถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาการดื้อยาจากการฉีด Botox ที่ไม่ได้คุณภาพนั่นเอง
ก่อนฉีดโบท็อกควรรู้อะไรบ้าง ?
ก่อนการฉีดโบท็อกเราควรศึกษาหาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโบท็อกให้ดีและละเอียด เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนที่จะทำ วันนี้เราเลยมีเกร็ดความรู้ก่อนฉีดโบท็อกควรรู้อะไรบ้าง
1.ก่อนฉีดโบท๊อกควรรู้ว่า โบท็อกสามารถทำให้ริ้วรอยหายไปได้แค่ชั่วคราว
หลายคนอาจคิดว่าฉีดโบท็อกแล้วน่าเราจะตึงไปตลอดการ ไม่ใช่นะคะ การฉีดโบท็อกนั้นสามารถทำให้ริ้วรอยของเราหายไปได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ขึ้นอยู่กับคนและกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันที่ส่งผลให้โบท็อกมีอายุหรือระยะเวลาการอยู่ที่ไม่เท่ากัน โดยเฉลี่ยแล้วโบท็อกจะอยู่ได้ 4-6 เดือน แต่สำหรับคนที่ออกกำลังกายหนัก หรือคนที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกเยอะ ก็อาจทำให้ระยะเวลาการอยู่ของโบท็อกนั้นสั้นลง
2.ก่อนฉีดโบท๊อกควรรู้ว่า การฉีดโบท็อกนั้น เจ็บอยู่เหมือนกันนะ
สำหรับสาวๆหรือเพื่อนๆคนไหนที่กลัวเจ็บ บอกเลยว่าการฉีดโบท็อกนั้น เจ็บอยู่เหมือนกันนะ แต่อาจเป็นความเจ็บที่สาวหลายๆคนนั้นทนได้ เพราะบางคลินิกเค้าก็จะมีการทายาชา หรือประคบเย็นก่อนการฉีดเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด แต่อย่ากังวลไปเลยเพราะมันเป็นความเจ็บแค่เพียงแปบเดียวเท่านั้น
3.ก่อนฉีดโบท๊อกควรรู้ว่า จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ก่อนการฉีดโบท็อกนั้นสาวๆควรหยุดการทานยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ และงดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลได้ยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ รวมถึงงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการฉีด 24 ชั่วโมง และควรแจ้งให้แพทย์ผู้ฉีดทราบถึงปัญหา และสิ่งที่ต้องการอย่างชัดเจนก่อนฉีด เนื่องจากแต่ละคนก็มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางท่านชอบให้ตึงมาก ๆ แต่บางท่านอาจชอบให้ดูเป็นธรรมชาติ ก็ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบเพื่อผลลัพท์ที่ตรงใจมากที่สุด
4.สิ่งที่ห้ามทำหลังฉีดโบท๊อกมีอะไรบ้าง
หลังการฉีดโบท็อกมีสิ่งที่ห้ามทำ เช่น ห้ามนอนราบ 3-4 ชม.และห้ามแกะเกานวดบริเวณที่ฉีด รวมทั้งงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น โบท็อกจะปลิวไปบริเวณที่ไม่ต้องการเยอะขึ้น ให้หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและห้ามทำกิจกรรมที่จะทำให้หน้าแดง เช่น การเข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด และห้ามเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เพราะกิจกรรมเหล่านี้อาจทำให้เกิดการฟกช้ำบริเวณที่ฉีดได้ นอกจากนี้ยังห้ามทานอาหารหมักดอง เช่น ผักดอง ผลไม้ดอง ปลาร้า อาหารสุกๆดิบๆ เช่น อาหารทะเล เนื้อที่ปรุงกึ่งสุกกึ่งดิบ รวมถึงห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วง 2 อาทิตย์หลังฉีดโบท๊อก
5.ก่อนฉีดโบท็อกควรรู้ว่า การฉีดโบท็อกไม่ได้ทำให้ริ้วรอยหายไปได้จริง
โบท็อก หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum toxin type A) เป็นแบคทีเรียที่ใช้กันในแวดวงความสวยความงาม เพื่อลดความหย่อนคล้อยและลดเลือนริ้วรอยบนผิวหนัง เราสามารถฉีดโบท็อกเพื่อแก้ไขปัญหาได้หลายอย่าง เช่น เพื่อลดขนาดกราม ลดรอยย่นบนใบหน้า ยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาเหงื่ออกเยอะเกินไป ไปจนถึงปัญหาไมเกรน แต่การฉีดโบท็อกนั้นไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าของเราหายไปได้ตลอดกาล แต่การฉีดโบท็อกนั้นเป็นการช่วยหยุดการเคลื่อนไหวเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่หดตัวเท่านั้นทำให้หลังการฉีดโบท็อก จะไม่มีรอยย่นที่เกิดขึ้นจากการขยับตัวของกล้ามเนื้อเลย จึงให้หน้าของเราตึงสวยไร้ริ้วรอย
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับข้อมูลที่เรานำมาฝากเพื่อนๆในวันนี้ โบท็อกดียังไง ? ก่อนฉีดโบท็อกควรรู้อะไรบ้าง ? หวังว่าเพื่อนๆคงได้ข้อมูลที่ต้องการกันอยู่บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ การฉีกโบท็อกนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว แถมยังมีข้อดีหลายอย่าง และยังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับสาวๆที่รักสวยรักงาม แต่อย่างไรก็ตาทสาวๆหรือเพื่อนๆคนไหนที่สนใจอยากจะไปฉีดโบท็อก ก็อย่าลืมศึกษาหาความรู้ให้ดีอย่างละเอียด และอย่าลืมเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ตัวยาของแท้ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลังการฉีด รวมถึงได้ผลลัพท์ที่ตรงใจสาวๆกันแบบสุดๆ ด้วย