เตรียมตัวเข้าสู่หน้าฝนกันแล้ว วันหยุดนี้ไปเที่ยวไหนดีน้า….อยากไปเที่ยวในสักที่แต่คิดไม่ออกว่าจะไปไหนดี อยากไปใช้เวลาร่วมกับครอบครัว พักผ่อนหย่อนคลายจากการทำงาน แต่ติดตรงที่ว่าฤดูนี้กลายเป็นฤดูฝนน่ะสิ ฝนตกบ่อยแถมยังทำให้การเดินทางลำบากขึ้นอีกด้วย เชื่อว่าใครหลายคนคงมีความคิดที่ว่าอยากจะพับเก็บแพลนหรือทริปที่จะไปเที่ยวกับเพื่อนๆหรือครอบครัวแน่ๆ
เนื่องจากอาจจะไม่ชอบหรือคิดว่าฝนต้องเป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวแน่นอน แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้วประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับการไปเที่ยวในหน้าฝนมากๆเลยนะ ยิ่งโดยเฉพาะสถานที่ที่เป็นสถานที่ธรรมชาตินี่ต้องบรรยากาศดีมากๆเลย วันนี้เราจึงนำ14 ที่เที่ยวสำหรับหน้าฝน เที่ยวไหนดี เดินทางสบาย 2565 มาฝากใครที่กำลังมีความคิดว่าอยากไปเที่ยวแต่คิดไม่ออกว่าไปที่ไหนดีมาฝากกัน ถ้าอยากรู้แล้วเราลองไปดูเพื่อนำมาจัดทริปเที่ยวกันได้เลย
สถานที่ที่ 1 เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
เขาค้อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับใครหลายๆครอบครัว เพราะนอกจากจะเดินทางได้ง่ายแล้วยังเป็นสถานที่ที่สามารถท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาลอีกด้วย ไม่ว่าจะหน้าร้อน หน้าฝน หน้าหนาว เข้าค้อนั้นถึงแม้ว่าจะฤดูไหนก็มีอากาศเย็นตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี เพียง 18-25 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง ยิ่งถ้าได้ลองไปเที่ยวในช่วงหน้าฝน จะยิ่งเห็นทะเลหมอกสวยงามมากๆ จึงทำให้เขาค้อกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปในช่วงหน้าฝนสุดๆ อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอีกด้วยนะ อาทิเช่น วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว พระตำหนักเขาค้อ กังหันลมเขาค้อ แก่งบางระจัน เป็นต้น ต้องลองไปสักครั้งดูแล้วนะ
สถานที่ที่ 2 อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.ชัยภูมิ
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้านั้นตั้งอยู่ในจังหวัดชัยภูมิ โดยตั้งครอบคลุมพื้นที่รอยต่อของสองจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก โดยที่นี่นั้นมีอากาศที่เย็นสบายตลอดปี ยิ่งเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว ต่างมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวที่นี่เป็นอย่างมาก ที่นี่มีที่เที่ยวทั้งเชิงประวัติศาสตร์และเชิงธรรมชาติ โดยมีที่เที่ยวเช่น ลานหินปุ่ม ผาชูธง หรือ ลานหินแตก จะเต็มไปด้วยความเขียวชะอุ่มของมอสสีเขียวสดตัดกับแนวพื้นหิน ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่แนะนำว่าควรไปเที่ยว
สถานที่ที่ 3 ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะถือได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่สวยงามและสามารถไปท่องเที่ยวได้ทุกฤดู โดยในแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป ถ้ามาเที่ยวที่ดอยอินทนนท์ในช่วงที่เป็นหน้าฝน จะทำให้มีนักท่องเที่ยวมาน้อย สามารถสูดบรรยากาศได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งได้รับความสวยงามของผืนป่าหน้าฝนที่จะมีพื้นที่เขียวขจี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่เป็นปลายฝนต้นหนาวยิ่งไม่ควรพลาด ต้องไปเที่ยวกันหน่อยแล้ว
สถานที่ที่ 4 ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
ขึ้นชื่อว่าถ้ามาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถ้ามาไม่ถึงปายก็แสดงว่าไม่ได้มาแม่ฮ่องสอน กว่าจะถึงที่ปายได้นั้นต้องฝ่าฟันร้อยพันโค้งกว่าจะถึงที่หมาย แต่ถือว่าเป็นพันโค้งที่คุ้มค่ามากๆ ไม่เสียดายเวลาแน่นอน ยิ่งในช่วงหน้าฝน แม้การเดินทางอาจจะค่อนข้างยากลำบาก แต่การได้มานั่งชมบรรยากาศดีๆ ด้วยขุนเขาสูง อากาศดี ทะเลหมอก ที่โอบกอดเมืองเล็กๆนี้ การได้มานั่งชิลที่นี่ถือว่าคุ้มค่ามากๆ แล้วทุกคนจะประทับใจอย่างแน่นอน
สถานที่ที่ 5 ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ
ถ้ามาเที่ยวที่นี่นั้นทุกคนจะได้สัมผัสกับทุ่งดอกกระเจียวและทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติ ที่มีสีชมพูสดใส ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวสดชวนผ่อนคลายสบายตา ซึ่งที่นี่มีทั้งหมด 3 ทุ่งด้วยกัน โดยที่นี่ตั้งอยู่ที่อำเภอเทพสถิต เราสามารถเข้ารับชมได้ในทุกๆปี ปีไหนที่มีฝนมาก ดอกกระเจียวก็จะยิ่งเบ่งบานเต็มไปหมด อีกทั้งที่นี่จะมีรถรางของทางอุทยาน คอยบริการรับส่งนักท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ภายในอุทยานฯ
สถานที่ที่ 6 คุ้งบางกระเช้า จ.สมุทรปราการ
คุ้งบางกะเจ้า คือ พื้นที่ส่วนหนึ่งที่เป็นบริเวณโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสถานที่ที่มีพื้นที่สีเขียวมากมาย จนนิตยสาร Time ได้ยกให้พื้นที่บางกระเจ้าเป็น The best Urban Oasis of Asia หรือที่เรียกว่า เป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยกิจกรรมของที่นี่ส่วนมากจะเป็นการปั่นจักรยานลัดเลาะเพื่อชมบรรยากาศดีๆ แต่เมื่อเรียกได้ว่าเป็นปอดกลางเมืองของเอเชีย การไปเที่ยวในหน้าฝนก็จะยิ่งทำให้บรรยากาศที่นี่ดีมากๆตามไปด้วย
สถานที่ที่ 7 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นสถานที่ที่เหมาะสมอย่างมากกับการไปสูดอากาศบริสุทธิ์ แถมยังใกล้กรุงเทพมหานครมากๆอีกด้วย โดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก เป็นผืนป่าเสียส่วนใหญ่ ทำให้เหมาะกับการไปเที่ยวในช่วงหน้าฝน เพราะจะทำให้ป่ามีความชุ่มชื้น เขียวขจีสวย อีกทั้งยังมีน้ำตกไว้สำหรับนั่งชิลเพื่อชมธรรมชาติอีกด้วย
สถานที่ที่ 8 เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เขื่อนรัชชประภาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับฉายาว่าเป็น กุ้ยหลินเมืองไทย ที่มาพร้อมความสวยงามสไตล์มัลดีฟส์ สามารถเดินทางไปได้ตลอดทั้งปี ได้ไปพักผ่อนด้วยการนอนแพ ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศจะดีมากๆ แต่ถ้าไปในช่วงที่เป็นฤดูฝน จะยิ่งสวยงามมากยิ่งขึ้นทั้งทะเลหมอก น้ำสีฟ้าใส และอากาศที่เย็นสบาย ต้องลองไปสัมผัสอากาศดูสักครั้งแล้ว
สถานที่ที่ 9 ป่าฮาลาบาลา Amazon ยะลา
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครอบคลุมทั้งสองจังหวัดได้แก่ จังหวัดยะลา และ จังหวัดนราธิวาส จุดเด่นของที่นี่นั้นเป็นเจ้านกเงือก ที่มีจำนวน 10 ชนิดด้วยกัน ถือว่าเป็นผืนป่าดิบชื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของคาบสมุทรมลายู ซึ่งที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ยิ่งไปเที่ยวในหน้าฝนต้องยิ่งชุ่มชื้น ป่าเขียวขจี บรรยากาศดีมากแน่นอน กิจกรรมที่นิยมคือ การล่องเรือชมธรรมชาติ โดยต้องมีเจ้าหน้าที่ หรือ ผู้ชำนาญในพื้นที่นำทาง ต้องลองไปสัมผัสกันดู
สถานที่ที่ 10 ที่เที่ยวทุ่งนา อำเภอปัว จ.น่าน
ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดน่าน ต้องเป็นเมืองแห่งขุนเขา และทุ่งนาสีเขียว ใครที่หลงใหลและชื่นชอบในทุ่งนาสีเขียว บอกเลยว่าห้ามพลาด ถ้ายิ่งไปเที่ยวในช่วงหน้าฝน มองไปทางไหนก็มีแต่บรรยากาศดีๆและความเขียวขจีแน่นอน นอกจากนี้ที่น่าน ยังมีที่พักกลางทุ่งนา ได้นอนชิลมองวิวทุ่งนาสวยๆ มีคาเฟ่ต์ที่ไว้ถ่ายรูปเก๋ๆ มีร้านกาแฟกลางทุ่งนา นอกจากนี้ยังมีวัดสวยๆให้ได้เที่ยวอีกด้วย
สถานที่ที่ 11 น้ำตกไทรโยคน้อย และแพริมน้ำแคว จ.กาญจนบุรี
ใครที่ชื่นชอบในการไปเที่ยวน้ำตกต้องที่นี่เลย น้ำตกไทรโยคน้อย นับว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี มีความธรรมชาติแบบอลังการและสวยงาม มาพักผ่อนด้วยการนอนแพริมน้ำ มีลำธารและน้ำตกเล็กๆให้ความเย็นและความร่มรื่นได้ตลอดฤดูกาล
สถานที่ที่ 12 ล่องแก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี
ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบสายผจญภัยต้องที่นี่เลย ล่องแก่งหินเพิง ยิ่งพอมาถึงหน้าฝนทีไรก็ยิ่งต้องนึกถึงกิจกรรมล่องแก่งอย่างแน่นอน หนึ่งในสถานที่ทำกิจกรรมล่องแก่งที่โด่งดังในเมืองไทยก็คงหนีไม่พ้น แก่งหินเพิง แก่งหินเพิงจัดเป็นแก่งในระดับ 3-5 และยังมีไฮไลต์อยู่ที่ "แก่งสไลเดอร์" ที่ได้รับความนิยมสูง พอหน้าฝนก็จะเป็นช่วงที่คึกคักเป็นอย่างมากเลย
สถานที่ที่ 13 เขาช่องลม จ.นครนายก
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คประจำจังหวัดนครนายกเลยทีเดียว ช่วงที่ได้รับความนิยมในการมาท่องเที่ยวที่เขาช่องลมนั่นก็คือ หน้าฝนนั่นเอง เพราะมีความสวยงามที่สุด ลักษณะของเขาช่องลมที่เป็นช่องเนินเขา อีกทั้งยังมีลำธารไหลผ่าน บวกกับมีทุ่งหญ้าที่เขียวชอุ่ม ให้ความเป็นธรรมชาติ บรรยากาศที่ร่มรื่น มีความสวยงาม อีกทั้งยังมีในส่วนของน้ำตกช่องลมให้เดินไปชมความสวยงามกันด้วย ห้ามพลาดกันเลยล่ะ
สถานที่ที่ 14 ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส จ.ระยอง
มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการไปหน้าฝนสถานที่สุดท้ายกันแล้ว ที่คือทุ่งโปรงทอง เป็นแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ มีพลังที่บริสุทธิ์สุดๆในการปกคลุมไว้อยู่ เมื่อเข้าไปด้านในจะพบเจอ สะพานไม้อันใหญ่ทอดยาวกลางป่าอันสมบูรณ์ ท่ามกลางบรรยากาศแสนสบาย บวกกับการชมวิวสวยๆตลอดทางที่เดินไป ถ้าไปเที่ยวในช่วงเช้าจะได้เห็นวิวทุ่งโปรงทองต้องแสงแดดอ่อนๆยามเช้าสว่างไสว แต่ถ้าไปช่วงบ่ายหรือเย็นอาจจะให้ความร่มรื่น มีธรรมชาติป่าชายเลนที่ผ่านเกณฑ์ประเมินมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่นี่จึงเหมาะสมอย่างมากกับการมาเที่ยวในหน้าฝนนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 14 ที่เที่ยวสำหรับหน้าฝน เที่ยวไหนดี เดินทางสบาย 2565 ที่เราได้นำมาให้ทุกคนได้ดูกันในวันนี้ แต่ละสถานที่นั้นก็มีความสวยงามและมีจุที่น่าสนใจและดึงดูดแตกต่างกันออกไป ส่วนกิจกรรมที่สามารถทำได้ก็แตกต่างกันออกไปเช่นกัน ทุกคนสามารถเลือกสถานที่ท่องเที่ยวในหน้าฝนนี้ได้จากความชอบของตัวเอง เพื่อไปพักผ่อนหย่อนคลายและปล่อยตัวปล่อยใจไปกับธรรมชาติที่สวยงามในไทยได้นะคะ ถ้าพร้อมแล้วไปเที่ยวกันดีกว่า