อากาศในประเทศไทยไม่ว่าฤดูไหนก็ร้อนตลอดปีเลยใช่ไหมล่ะคะ ท่ามกลางเปลวแดดที่ร้อนระอุแบบนี้สาว ๆ ก็อยากเลือกใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ช่วยคลายความร้อนอบอ้าวไปได้ ไอเทมที่ใครหลายคนเลือกคงไม่พ้น “เสื้อแขนกุด” ที่ให้ลุคน่ารักสดใสและเซ็กซี่ได้ในเวลาเดียวกัน แถมยังเหมาะกับอากาศร้อนอย่างบ้านเราอีกด้วย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะกล้าใส่เสื้อแขนกุดได้อย่างมั่นใจ วันนี้เลยมี 10 วิธีใส่เสื้อแขนกุดอย่างไรให้มั่นใจ มาฝากทุกคนกันค่ะ
รูปภาพจาก https://pin.it/7FKgxP6
1.กำจัดขนรักแร้
การใส่เสื้อแขนกุดไม่สามารถปกปิดรักแร้ได้ ขนรักแร้อาจเป็นปัญหาชิ้นใหญ่ที่กวนใจสาว ๆ อยู่เป็นประจำ ทำให้บางคนอาจรู้สึกขาดความมั่นใจในการใส่เสื้อแขนกุดไปได้ การกำจัดขนรักแร้จึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้สาว ๆ สามารถใส่เสื้อแขนกุดได้อย่างมั่นใจไร้กังวล วิธีการกำจัดขนรักแร้มีหลายวิธี เช่น การถอนหรือการดึง การโกน การใช้ครีม การแวกซ์ และการเลเซอร์ขน เป็นต้น วิธีเหล่านี้สามารถทำได้ด้วยตัวเองไปจนถึงการกำจัดขนภายใต้ความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
1.1 การโกนขนรักแร้
การโกนขนรักแร้ เป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถทำเองที่บ้านได้อย่างง่ายดาย ประหยัด และรวดเร็ว ทว่าผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดหนังไก่บริเวณรักแร้ เกิดตุ่มแดง ๆ เกิดแผลจากการถูกมีดโกนบาด หรือขนคุดซึ่งเป็นขนที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง ส่งผลให้รู้สึกคันหรือระคายเคืองต่อมา ทั้งนี้ การโกนขนรักแร้เป็นการกำจัดขนส่วนที่งอกออกมาเหนือผิวหนังเท่านั้น ทำให้ขนสามารถขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 1-3 วัน
มีดโกนที่คนทั่วไปใช้กำจักขน มี 2 ประเภท ได้แก่
- มีดโกนทั่วไป อาจทำให้เกิดบาดแผลจากใบมีด ควรใช้ครีมหรือเจลที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อลดการระคายเคืองทาบริเวณรักแร้ ทำให้โกนได้ง่ายขึ้น และลดการเกิดแผล
- มีดโกนไฟฟ้า จะมีโอกาสทำให้เกิดแผลน้อยกว่าการใช้มีดโกนทั่วไป แต่ก็มีราคาที่สูงกว่าและไม่เรียบเท่าการใช้มีดโกนทั่วไป
วิธีการโกนขนรักแร้ควรใช้มีดโกนที่สะอาดและไม่ขึ้นสนิม อาจทาครีมหรือเจลบริเวณรักแร้เพื่อให้ง่ายต่อการโกน จากนั้นค่อย ๆ โกนขนอย่างช้า ๆ เพื่อลดโอกาสในการเกิดแผลจากมีดโกน และพยายามโกนให้ครบทุกทิศทาง เพื่อลดการเกิดขนคุด จากนั้นทำความสะอาดรักแร้ด้วยน้ำหรือสบู่ อย่าลืมจัดเก็บใบมีดให้เรียบร้อยหรือเปลี่ยนใบมีดใหม่ป้องกันการเกิดสนิมบริเวณใบมีด
รูปภาพจาก https://pin.it/4SEp6G6
1.2 การถอน หรือการดึงขนรักแร้
การถอนหรือการดึงขนรักแร้ เป็นการใช้แหนบ ปากคีบ หรือเครื่องกำจัดขนอื่น ๆ เพื่อจับเอารากขนบริเวณรักแร้ที่ไม่ต้องการแล้วกำจัดออก วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ และประหยัด การถอนขนอาจทำให้รู้สึกเจ็บและกินเวลานานจากการถอนหรือดึงขนออกทีละเส้น อีกทั้งอาจทำให้เกิดตุ่มแดง ๆ ขึ้นชั่วคราวก็ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าการโกน เนื่องจากเป็นการกำจัดขนออกไปทั้งเส้น ขนที่ขึ้นใหม่จึงเกิดช้ากว่า ใช้ระยะเวลาประมาณ 3-8 สัปดาห์ ทั้งนี้การถอนหรือการดึงขนบ่อย ๆ อาจทำลายรูขุมขนได้
วิธีถอนขนรักแร้ควรทำความสะอาดเครื่องมืดที่ใช้ถอนก่อนทุกครั้ง นำผ้าชุบน้ำอุ่นมาประคบบริเวณรักแร้ช่วยให้ถอนได้ง่ายขึ้น และควรทำบริเวณหน้ากระจกทำให้ง่ายต่อการถอนขนบริเวณรักแร้ ก่อนจะถอนขนควรดึงหนังรักแร้ให้ตึงแล้วถอนขนบริเวณใกล้กับผิวหนังจะทำให้ถอนได้ง่ายขึ้นและเลี่ยงการทำให้เกิดขนคุด
1.3 การใช้ครีมกำจัดขน
รูปภาพจาก https://pin.it/2TapRDo
การใช้ครีมกำจัดขนรักแร้เป็นครีมที่ใช้ทาบริเวณที่ต้องการกำจัดขน สารในครีมจะทำให้ขนอ่อนตัวลงและง่ายต่อการเช็ดหรือล้างออก ขนจะขึ้นใหม่ 2-3 วัน หรืออาจนานกว่านั้น การใช้ครีมกำจัดขนเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว ทั้งนี้ สารเคมีในครีมอาจะส่งลให้เกิดกลิ่นฉุนหรือเกิดอาการแพ้ในบางรายได้
ในการใช้ครีมกำจัดขนซึ่งเป็นสารเคมี ควรตรวจสอบก่อนใช้ว่ามีอาการแพ้หรือไม่ หากมีอาการแพ้ไม่ควรฝืนใช้ต่อไป และลองหาวิธีกำจัดขนโดยวิธีอื่นมาแทน อ่านข้อควรปฏิบัติและคำปนะนำของครีมกำจัดขนแต่ละผลิตภัณฑ์ว่ามีวิธีอย่างไร ต้องใช้มากหรือน้อยเท่าใดให้เหมาะสม ต้องทาทิ้งไว้นานเท่าใดจึงจะได้ผล ควรล้างหรือเช็ดครีมออกตามคำแนะนำที่กำหนดเพื่อไม่ทำให้เกิดแผลจากการใช้ครีมกำจัดขน เช่น อาการแสบ อาการแพ้ เป็นต้น
1.4 การแวกซ์ขนรักแร้
การแวกซ์ขนรักแร้เป็นวิธีการกำจัดขนด้วยการถอนที่ถึงรากถึงโคนขนผ่านการดึงอย่างเร็ว สามารถกำจัดขนได้ทีละมาก ๆ ทำให้การกำจัดขนโดยวิธีนี้รวดเร็วกว่าการถอนและทำให้เรียบเนียนอีกด้วย ขนจะขึ้นใหม่ภายใน 3-6 สัปดาห์ ทว่า การแวกซ์ขนรักแร้ซึ่งเป็นพื้นที่ผิวบอบบางอาจทำให้เกิดตุ่ม รอยแดง ขนคุด หรือการอักเสบที่ผิวหนังชั่วคราวได้ แต่ถ้าหากแวกซ์ขนรักแร้และบำรุงได้ถูกวิธีแล้วจะช่วยให้เจ็บน้อยลงและทำให้การกำจัดขนนี้มีประสิทธิภาพ
ก่อนใช้แวกซ์กำจัดขนควรตรวจสอบดูก่อนว่าผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือไม่ และทดสอบว่าจนเองมีอาการแพ้แวกซ์กำจัดขนหรือไม่ โดยลองทดสอบสอบริเวณข้อพับ ท้องแขน ข้อมือ หรือหลัง ฯลฯ หากมีอาการแพ้ควรหยุดใช้ และหากเป็นบริเวณที่บอบบางอาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง เป็นต้น ในการแวกซ์ต้องแปะหรือทาให้แวกซ์ติดอยู่กับผิว จากนั้นดึงแวกซ์ออกอย่างรวดเร็วภายในครั้งเดียว ทำเช่นนี้ซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าขนที่ต้องการกำจัดจะลดน้อยลง ไม่ควรแวกซ์ที่เดิมซ้ำ ๆ กันหลายครั้งเนื่องจาก อาจะทำให้บริเวณดังกล่าวระคายเคืองขึ้นได้
รูปภาพจาก : https://pin.it/7gHJMzq
1.5 การเลเซอร์ขนรักแร้
การเลเซอร์ขนรักแร้เป็นการกำจัดขนบริเวณรักแร้กึ่งถาวร หรือให้ผลลัพธ์ในการกำจัดขนรักแร้ที่ยาวนานกว่า โดยการยิงเลเซอร์ไปตามเส้นขนเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขน วิธีนี้มีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ทั้งนี้อาจมีผลข้างเคียงทำให้ผิวแดงหรืออักเสบขึ้นได้ จึงเป็นวิธีที่ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ
การเลเซอร์กำจัดขนมีหลายวิธี ในวันนี้จะยกตัวอย่างเลเซอร์ที่เหมาะกับการเลเซอร์รักแร้มีดังนี้
Long pulse ND YAG เป็นตัวที่นิยมมากในไทย เนื่องจากสามารถทำลายรากขนได้โดยไม่ทำลายผิวหนัง จับเส้นขนได้ดี เลเซอร์ตัวนี้เข้มข้นสูงในการทำลายรากขน ความร้อนจะทำให้ขนร่วงและลดการเกิดของเส้นขนได้ แต่ราคาอาจสูงและค่อนข้างเจ็บ ทว่าก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีตั้งแต่ครั้งแรก โดยเฉพาะบริเวณเฉพาะจุดอย่างรักแร้
IPL Laser เป็นอีกตัวหนึ่งที่นิยมใช้มากในไทยเพราะมีราคาที่ไม่สูงมากนัก เลเซอร์จะยิงลำแสงสเปกตรัมในหลายช่วงคลื่นเพื่อทำให้เซลล์เม็ดสีเปลี่ยนช่วงคลื่นเป็นความร้อนไปทำลายรากขนและเส้นขน เลเซอร์ตัวนี้มีการกระจายเป็นวงกว้างผิวหนังรอบ ๆ อาจรู้สึกเจ็บหรือได้ผลกระทบอื่นไปด้วย อาจเหมาะกับคนผิวค่อยข้างขาว เนื่องจากคนผิวเข้มอาจถูกเบิร์นได้ ทว่าเลเซอร์ตัวนี้ก็เหมาะกับการเลเซอร์บริเวณรักแร้ด้วยเช่นกัน
อ่านบทความเพิ่มเติม : [แนะนำ] เลเซอร์ขนรักแร้ ก่อนทำควรรู้อะไรบ้าง ให้ได้ผลจริงและคุ้มค่า
รูปภาพจาก https://pin.it/1JVRaWK
2. ฉีดโบท็อกรักแร้
นอกจากปัญหาขนรักแร้ที่ทำให้มั่นใจในการใส่เสื้อแขนกุดแล้ว ปัญหาเหงื่อออกบริเวณรักแร้ กลิ่นตัวแรง ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้สาว ๆ ส่วนใหญ่ขาดความมั่นใจในการใส่เสื้อแขนกุด ทั้งนี้ทั้งนั้นปัญหานี้ย่อมมีทางแก้ไข ด้วยการฉีดโบท็อกซ์รักแร้
โบท็อกซ์รักแร้ เป็นการฉีดสารโบทูลินัมทอกซิน (Botulinum toxin type A) เข้าไปบริเวณรักแร้ เพื่อให้สารไปยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อที่ออกมามากกว่าปกติ รวมไปถึงต่อมกลิ่นบริเวณใต้วงแขน ให้ทำงานลดน้อยลง ส่งผลให้สามารถลดเหงื่อและกลิ่นกายใต้รักแร้ได้ตั้งแต่ 1-3 วันแรกที่ฉีดโบท็อกซ์รักแร้ และโบท็อกซ์จะสลายตัวประมาณ 3-4 เดือนหลังจากฉีด
เมื่อหมดปัญหาเหงื่อออกมากเกินกว่าปกติและกลิ่นเหงื่อไม่มากวนใจแล้ว สามารถเพิ่มความมั่นใจให้สาว ๆ มีความกล้าที่จะใส่แขนกุดในวันสบาย ๆ โดยไม่มีอะไรมากวนใจหรือลดทอนความมั่นใจได้อีก
3. ออกกำลังกายแขน
หากเรามีความมั่นใจกับใต้วงแขนแล้ว แต่ยังรู้นึกไม่มั่นใจกับแขนที่ไม่ฟิตของตัวเองนั้นอาจเริ่มด้นด้วยการออกกำลังกายแขนที่ได้ครบทุกส่วน ให้สามารถมีความมั่นใจในการใส่แขนกุดมากขึ้น และยังทำให้ดูสุขภาพดีได้อีกด้วย
ท่าที่ 1 : Standing One Arm Overhead Dumbbell Triceps Extension
รูปภาพจาก https://pin.it/6DvHk33
ท่าที่ 2 : Dumbbell Bicep Curls
รูปภาพจาก https://pin.it/7tjSDGq
ท่าที่ 3 : Triceps Kickback
ท่าที่ 4 : Seated Dumbbell Shoulder Press
รูปภาพจาก https://pin.it/2imh7Pn
ท่าที่ 5 : Push Up
4. เสริมสร้างความมั่นใจ
วิธีที่สำคัญที่สุดที่ช่วยให้สาว ๆ สามารถใส่เสื้อแขนกุดได้อย่างมั่นใจ นั่นคือการเสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง เราต้องเรียนรู้ว่าคนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความชื่นชอบ สไตล์การแต่งตัว ลักษณะนิสัย หรือแม้กระทั่งรูปร่างก็มีลักษณะแตกต่างกันออกไป หากตัวเราต้องการใส่เสื้อแขนกุดออกไปข้างนอก อาจเผชิญกับสายตาของคนรอบข้างที่อาจมองเราแปลก ๆ หรือคำพูดที่ลดทอนกำลังใจ เช่น "แขนใหญ่ขนาดนี้กล้าใส่เสื้อแขนกุดได้ยังไง" "รักแร้ไม่สวยเลย" ฯลฯ หากเราเก็บสายตาหรือคำพูดเหล่านี้มาใส่ใจ จะเป็นการลดทอนกำลังใจให้เราไม่กล้าที่จะเลือกใส่เสื้อผ้าตามใจเราได้ เพราะฉะนั้นร่างกายเป็นของเรา จงเลือกเสื้อผ้าตามที่ตนเองอยากใส่ ร่างกายเราเป็นสิทธิ์ของตนเองที่จะสามารถใส่เสื้อผ้าได้ตามที่เราอยากใส่ ไม่จำเป็นต้องสนใจสายตาหรือคำพูดของใคร และหมั่นให้กำลังใจตัวเองหน้ากระจกเสมอว่าตนเองนั้น "สวยในแบบของตนเอง" สนุกสนานกับการแต่งกายในแต่ละวัน เสริมสร้างความมั่นใจกับตัวเอง
รูปภาพจาก https://pin.it/6jFRPT9
สรุป
จาก 5 วิธีที่ได้ยกตัวอย่างมาให้สาว ๆ ได้อ่านในวันนี้เป็นต้วอย่างที่จะช่วยให้สาว ๆ สามารถใส่เสื้อแขนกุดได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล การดูแลร่างกายตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สาว ๆ สามารถเลือกใส่เสื้อผ้าได้อย่างหลากหลายและแต่งตัวแบบมั่นใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการดูแลสภาพจิตใจให้รักตัวเองและเห็นความสวยของตัวเองไม่ว่าจะแต่งตัวแบบใดโดยไม่เอาคำพูดไม่ดีของคนอื่นมาฝส่ใจนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะฉะนั้น my body my choice มีความสุขในการแต่งตัวกันค่ะสาว ๆ เปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อแขนกุดมาใส่อย่างมั่นใจกันค่ะ
แหล่งที่มา
https://www.nestle.co.th/th/nhw/3e/exercise/exercise-upper-arms