ช่วงหยุดยาวทีไรก็เป็นต้องนึกถึงทริปทะเล และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือบิกินี่คู่ใจ แต่ทุกคนรู้มั้ยคะว่า จริงๆ แล้วบิกินี่คืออะไร มีกี่แบบ แล้วเลือกใส่อย่างไรให้ปังสุด วันนี้เราจะมาบอกทริคให้ทุกคนได้รู้และหาซื้อบิกินี่ให้ใส่ออกมามั่นใจแบบเกินร้อยกันไปเลยค่ะ
1.บิกินี่ คืออะไร มีที่มาจากไหน
จริงๆ แล้วบิกินี่ที่เราใส่กันทุกวันนี้มีต้นกำเนิดมานานตั้งแต่ยุคจักรวรรดิโรมันแล้วค่ะ พบหลักฐานจากรูปโมเสกโบราณ มีลักษณะเป็นเสื้อผ้า 2 ชิ้น ที่ผู้หญิงใส่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยสมัยนั้นจะยังไม่ได้เรียกว่าบิกินี่ และเลิกใส่ไปเพราะคนเริ่มมาเคร่งศาสนามากขึ้น จนกระทั้งในยุค 20’s พอมีการแข่งขันว่ายน้ำหญิงโอลิมปิก ชุดว่ายน้ำแบบทูพีซจึงถูกเอามาใช้ และวิวัฒนาการต่อมาจนหน้าตาเหมือนบิกินี่ปัจจุบันที่สุดตอนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยชื่อบิกินี่ได้ตั้งตามชื่อเกาะในแปซิฟิกซึ่งเป็นฐานทัพทดลองนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา สื่อถึงความร้อนแรงของคนใส่นั่นเอง
2.บิกินี่ กับ ทูพีช ต่างกันยังไง
บิกินี่กับทูพีซจริงๆ แล้วคือชุดว่ายน้ำ 2 ชิ้นเหมือนกัน แต่บิกินี่จะเป็นชื่อเรียกที่เจาะจงลักษณะของชุดมากขึ้นค่ะ พอพูดถึงบิกินี่ก็จะนึกถึงภาพชุดที่ท่อนบนปกปิดเฉพาะช่วงหน้าอก และช่วงล่างปิดคลุมใต้สะดือและขอบต้นขาคล้ายกางเกงใน แต่ถ้าพูดชื่อว่าทูพีซ ความหมายจะกว้างกว่า คือเป็นชุดว่ายน้ำแบบไหนก็ได้ที่มี 2 ชิ้น แยกเสื้อและกางเกง ซึ่งก็จะต่างจากบิกินี่ตามที่เราได้อธิบายไว้เลย
3.บิกินี่ มีกี่แบบ
ถ้าสังเกตบิกินี่ที่คนทั่วไปใส่ก็จะเห็นว่ามีหลากหลายแบบมาก สามารถแบ่งประเภทได้จากลักษณะดีไซน์ และวิธีใส่ ทั้งหมด 4 แบบหลักๆ ค่ะ
1) String Bikini
บิกินี่ที่ท่อนบนเป็นบราทรงสามเหลี่ยมปิดพอดีหน้าอก และมีสายบราแบบเดียวกับชุดชั้นใน หรืออาจจะเป็นสายคล้องคอก็ได้ค่ะ ในขณะที่ท่อนล่างจะเป็นกางเกงว่ายน้ำที่ปกปิดครอบคลุมตั้งแต่เอวจนถึงขอบขาหนีบ
2) Bandeaukini
เป็นชุดว่ายน้ำแบบบราเกาะอกที่ไม่มีสายเกี่ยวคล้องช่วงแขน ใส่กับท่อนล่างแบบเดียวกันกับกางเกงในที่ปิดถึงขอบต้นขานั่นเอง
3) Trikini
บิกินี่ประเภทนี้คือชุดที่ท่อนล่างเปิดช่วงสะโพกด้านข้างค่ะ อาจจะเป็นแค่แหวกโชว์ผิวนิดๆ หรือแบบที่ฮิตกันอย่างบิกินี่ที่มีเชือกผูกตรงด้านข้างของสะโพก 2 ฝั่ง ก็จัดเป็น Trikini เช่นกัน
4) Microkini
ใครที่ชอบดูชุดบิกินี่แบบสายฝ. จะเห็นชุดประเภทนี้ได้บ่อยๆ เลยค่ะ นั่นก็คือบิกินี่ที่เว้าหนักๆ ท่อนบนเป็นทรงสามเหลี่ยมที่ปิดคลุมแค่จุก จะเห็นเนินและเต้ามากกว่าบิกินี่แบบอื่นๆ และท่อนล่างเว้าสูง หรือเป็นกางเกงในแบบจีสตริงไปเลยก็มีค่ะ ถือเป็นบิกินี่ที่แซ่บที่สุดแล้ว
4.วิธีเลือกบิกินี่
บิกินี่มีวิธีเลือกแบบเดียวกับเวลาเลือกเสื้อผ้าหรือบราทั่วไปเลยค่ะ โดยยึดจากหุ่นและสัดส่วนต่างๆ ที่กังวล หลักๆ ก็จะมีเรื่องไซซ์หน้าอกค่ะ ถ้าเป็นสาวอกใหญ่จะเหมาะกับท่อนบนทรงครึ่งวงกลม หรือแบบเปลือกหอย เพราะจะดูไม่โป๊เกินไป แต่ถ้าหน้าอกเล็กแนะนำให้เลือกประเภทที่มีระบายเพื่อหลอกสายตาให้เราดูมีน้ำมีนวลขึ้น ส่วนใครที่มีไหล่กว้างควรใส่บิกินี่ที่มีสายคล้องคอ เป็นเส้นนำสายตาไม่ให้โฟกัสที่ความกว้างของไหล่นั่นเอง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความมั่นใจด้วยนะคะ ถ้าชื่นชอบที่จะใส่ จะเป็นบิกินี่สไตล์ไหนก็ปังแน่นอน และที่สำคัญเลยต้องเช็กทุกครั้งว่าบิกินี่ที่เราจะซื้อ มีซับในที่ใช้งานได้จริง รวมทั้งถ้ามีฟองน้ำแบบถอดเปลี่ยนได้มาให้ก็จะเซฟที่สุดค่ะ
5.ใส่บิกินี่ต้องใส่กางเกงในไหม
เป็นคำถามที่มือใหม่หลายคนน่าจะสงสัย คำตอบก็คือ ไม่ต้องใส่ค่ะ เพราะปกติบิกินี่ก็จะมีซับมาให้หนึ่งชั้น ใส่ว่ายน้ำไม่เห็นสัดส่วน แต่ก็ต้องดูแลกำจัดขนบริเวณนี้ให้ดี ไม่งั้นอาจมีโผล่มาทักทายได้ ซึ่งใครที่กังวลว่าบิกินี่ที่ซื้อมาบางเกินไปจนไม่มั่นใจที่จะใส่ลงน้ำ ก็สามารถเลือกใส่เป็นกางเกงซับในได้ ลักษณะคล้ายกางเกงในแต่ตัวเล็กและบางกว่า มีให้ซื้อในตามแอปสำหรับช้อปปิ้งทั่วไปเลยค่ะ หรือถ้ากลัวเข้าวิน เห็นโหนกชัด จะหยิบแผ่นอนามัยบางๆ มาใส่รองไว้ก็ได้ ซึ่งก็เป็นวิธีที่เหมาะกับสาวๆ ที่อยากใส่ถ่ายรูปเท่านั้น ไม่ควรแปะลงเล่นน้ำจริงค่ะ
6.บิกินี่ ควรใส่บราแบบไหน
ข้อนี้คำตอบก็จะคล้ายข้อก่อนหน้าค่ะ เพราะบิกินี่ออกแบบมาให้ใส่ลงว่ายน้ำได้เลยโดยไม่ต้องใส่บราอยู่แล้ว เนื่องจากมีซับในและฟองน้ำเสริมให้ แต่สำหรับหลายๆ คนที่คำนึงถึงความมั่นใจ อยากใส่บราเพิ่มก็สามารถทำได้ โดยควรเลือกเป็นซิลิโคนแปะจุกแบบกันน้ำ มาแปะไว้ก่อนสวมบิกินี่ เพื่อเซฟกันจุกโผล่เท่านั้นก็เพียงพอค่ะ แต่ถ้าเป็นสาวอกเล็ก อยากเสริมทรงให้สวยขึ้นก็เลือกเป็นบราปีกนก (แบบทรงกลม) มาใส่ดันอกให้ชิดขึ้นได้เช่นกัน แต่จะใส่ได้กับบิกินี่บางทรงเท่านั้นค่ะ
7.ใส่บิกินี่ยังไงให้สวย
จะใส่บิกินี่ให้สวยได้ก็ต้องมีการดูแลตัวเองเพิ่มเติมค่ะ เพราะชุดเผยผิวค่อนข้างเยอะ จุดที่ปกติไม่เคยใส่ใจก็ต้องมาสนใจด่วน อันดับแรกเลยก็คือเรื่องขน ไม่ว่าจะเป็นขนหน้าแข้ง รักแร้ หรือขอบบิกินี่เองที่ต้องกำจัด เพื่อความมั่นใจในการโพสท่าถ่ายรูปต่างๆ และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือความเรียบเนียนกระจ่างใสของผิว อาจจะต้องเน้นบำรุงด้วยครีมหรือมีการสครับสักหน่อย 1 – 2 อาทิตย์ก่อนใส่ ก็จะพอช่วยได้ค่ะ
8.ใส่บิกินี่ ขนโผล่แก้ยังไง
ด้วยความที่ขอบบิกินี่ค่อนข้างชิดขาหนีบมาก บางสไตล์อาจเว้าสูงเลยก็มี ทำให้การดูแลขนบริเวณจุดซ่อนเร้นสำคัญมากค่ะ ซึ่งจริงๆ ถ้ากังวลว่าขนจะแพลมออกมา สาวๆ ก็สามารถเลือกใส่ชุดแบบที่ปิดคลุมขาออกมาเยอะหน่อย หรือเล็มขนช่วงที่ใกล้ขอบออก แต่วิธีที่คนส่วนมากทำก็คือเลือกกำจัดขนบริเวณขอบบิกินี่ค่ะ ซึ่งมีทั้งการโกน แว๊กซ์ หรือเลเซอร์นั่นเอง
9.กำจัดขนบิกินี่ด้วยวิธีไหนดี
การกำจัดขนก่อนใส่บิกินี่ที่ทำให้มั่นใจที่สุดที่เราอยากแนะนำก็คือการแว๊กซ์ค่ะ เพราะจะต่างจากการโกนตรงที่เขาสามารถดึงขนหลุดออกถึงราก ทำให้ผิวเนียน ไม่เป็นตอ ขนที่ขึ้นใหม่ก็จะอ่อนนุ่มและงอกช้ากว่าด้วย แถมเห็นผลทันที สามารถแว็กซ์วันนี้แล้วพร้อมใส่บิกินี่ได้เลย ส่วนอีกวิธีก็จะเป็นการเลเซอร์ค่ะ วิธีนี้จะเหมาะกับทำระยะยาว สำหรับใครที่ชอบใส่บิกินี่บ่อยๆ เพราะเมื่อทำไปหลายคอร์สแล้วขนจะหลุดออกไปจนเกลี้ยง และช่วยเรื่องความเนียน ไม่เป็นหนังไก่ ซึ่งใครที่อยากเลเซอร์ก็อาจต้องใช้ความอดทนนิด เพราะต้องทำหลายครั้งกว่าที่ขนจะหลุดออกเองทั้งหมด
10.แนะนำบิกินี่ร้านดังที่ควรโดน
ร้านบิกินี่เดี๋ยวนี้มีให้เลือกเยอะมาก แต่สำหรับสาวๆ ที่อยากมีติดตู้ไว้ เราก็ขอแนะนำ 5 ร้านดังใน IG ที่ดาราฮิตใส่ มาให้เลือกช้อปตามกันเลยค่ะ รับรองว่าปังแน่นอน
1) Waterandothers
บิกินี่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสดใส ทั้งสีพื้น และลายปรินท์กราฟิกและดอกไม้ต่างๆ เต็มเติมซัมเมอร์ให้สาวๆ ได้แบบเต็มร้อย
2) Aprilpoolday
ร้านนี้จะเป็นชุดว่ายน้ำสไตล์ย้อนยุค เน้นความสดใสน่ารักๆ และไม่โป๊ค่ะ เหมาะกับสาวเอเชียโดยเฉพาะ วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ก็ใส่ได้เลย
3) Cotedsoleil
บิกินี่ที่เน้นความเรียบหรู เหมาะกับใส่ได้ทุกทริป สายมินิมอลเกาหลีๆ ชอบความละมุน ต้องมาตำจากร้านนี้เลยค่ะ
4) Swimsaic
ใครชอบลายปรินท์กราฟิกสวยๆ สไตล์ทรอปิคอลหน่อยแนะนำร้านนี้เลยค่ะ ทรงเขาก็สวยมีให้เลือกหลายสไตล์มาก สายแฟถูกใจแน่นอน
5) Bewish_Anana
ร้านชุดว่ายน้ำสไตล์คลาสสิกที่ใส่สวยทุกยุค เป็นทรงที่ไม่โป๊มากแต่ซ่อนความแซ่บในตัว ที่สำคัญคือเขามีผ้าและสีให้เลือกหลายแบบมาก
สรุป
ทั้งหมดก็เป็นทริคเบสิกในการใส่บิกินี่ให้ปังค่ะ รู้เขารู้เรา ใส่ร้อยครั้งก็ฮอตร้อยครั้ง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน ให้ได้เอาเทคนิคของเราไปใช้และแซ่บกันทั้งทริปไปเลยนะคะ
ที่มา Wiki, looksgud, today.line.me, ladyissue, women.trueid.net, mangozero