แจกทริคแต่งตัวยังไงให้ดูผอมสูง
ใครมีปัญหากลุ้มใจเรื่องสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นกันบ้างน้าซึ่งปัญหานี้ก็สร้างความกลุ้มใจให้กับสาวๆเป็นอย่างมาก เพราะจะใส่เสื้อผ้ายังไงก็ดูไม่มั่นใจกับส่วนเกิน จริงๆแล้วก็มีวิธีการเลือกเสื้อผ้าที่สามารถปกปิดส่วนที่สาวๆไม่มั่นใจของร่างกายได้ เพียงแค่เราเข้าใจสัดส่วนที่ถูกต้องและทริกเล็กๆน้อยๆในการเลือกใส่เสื้อผ้าเพียงเท่านี้เราก็จะสามารถมีบุคลิกภาพที่ดีและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราเองได้ การลดสัดส่วนด้วยการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายนั้นจำเป็นจะต้องใช้เวลาประมาณนึงเลยทีเดียวเพื่อติดตามผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลง แต่การเลือกเสื้อผ้าที่ถูกต้องและเหมาะสมกับร่างกายนั้นสามารถทำได้เลยในทันที ก่อนที่เราจะไปดู "แจกทริคแต่งตัวยังไงให้ดูผอมสูง" ก่อนอื่นเรามารู้จักกับรูปร่างของเรากันเลยดีกว่าค่ะ
หุ่นของผู้หญิงเรามีความแตกต่างกันได้นั้นเกิดจากโครงสร้างของเราที่แตกต้างกันด้วยซึ่งหุ่นของสาวๆจะถูกแบ่งออกได้เป็น 6 แบบด้วยกัน จะแตกต่างกันอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลยค่ะ
1.หุ่นทรงนาฬิกาทราย
หุ่นทรงนาฬิกาทรายหรือ(Hourglass) จะมีลักษณะของไหล่และสะโพกที่ผายออกซึ่งมีความกว้างขนาดพอๆกัน และจะมีช่วงเอวที่ค่อนข้างเล็กคอด ลักษณะเหมือนกับนาฬิกาทราย ทำให้เวลาใส่เสื้อผ้าสามารถมองเห็นสัดส่วนที่สวยงามนี้ได้อย่างชัดเจน เป็นหุ่นที่เซ็กซี่ขยี้ใจสุดๆแถมยังเป็นหุ่นในฝันของสาวๆหลายๆคนอีกด้วย
2.หุ่นทรงกระบอก
สำหรับหุ่นทรงกระบอกหรือ(Rectangle)สาวๆเหล่านี้ก็จะมีช่วงไหล่ช่วงเอวและสะโพกที่เท่ากันดูเป็นหุ่นทรงตรงไม่มีช่วงเอวที่ชัดเจนเนื่องจากไม่เห็นส่วนเว้าและส่วนโค้ง
3.หุ่นทรงสามเหลี่ยมคว่ำ
หุ่นถัดมาหุ่นทรงสามเหลี่ยมคว่ำหรือ (Inverted Triangle) หุ่นของสาวๆจะมีช่วงไหล่และแผ่นหลังที่กว้างและมีช่วงของหน้าอกที่ใหญ่ แต่จะมีช่วงเอวและสะโพกที่เล็กคอด เป็นสัดส่วนที่ดูเซ็กซี่ใกล้เคียงกับหุ่นทรงนาฬิกาทรายแต่แตกต่างกันที่ช่วงสะโพก
4.หุ่นทรงลูกแพร
หุ่นทรงลูกแพรหรือ (Pear) สาวๆเหล่านี้จะมีช่วงไหล่ที่เล็กและมีช่วงเอวคอดแต่สะโพกที่ใหญ่ เป็นอีกหนึ่งหุ่นในฝันของสาวๆสายฝอเลยล่ะค่ะใส่เสื้อผ้าก็จะเห็นช่วงเอวและสะโพกที่ชัดเจน
5.หุ่นทรงแอปเปิล
หุ่นทรงแอปเปิลหรือ (Apple) ลักษณะคือมีช่วงไหล่และเอวที่กว้างพอๆกันรวมไปถึงช่วงเอวด้วยแต่จะมีช่วงขาที่เรียงเล็กลง
6.หุ่นทรงกลม
หุ่นทรงกลมหรือ (Circle) สาวๆเจ้าของหุ่นจะมีลักษณะช่วงขาที่เรียวเล็กและช่วงเอวที่สูงขึ้น แต่ช่วงบนของร่างกายเช่นช่วงไหล่และหน้าอกไปจนถึงสะโพกนั้นกว้างพอๆกัน และทั้งหมดนี้ก็เป็นรูปร่างของสาวๆที่แตกต่างกันรูปร่างของเพื่อนๆเป็นลักษณะแบบไหนกันบ้างคะจะเห็นได้ชัดเลยว่าแต่ละรูปทรงนั้นมีจุดเด่นแตกต่างกันคนละจุดเลยทีเดียวซึ่งส่วนที่มากจนเกินไปอาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับเพื่อนๆได้ แต่อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะเพราะเรายังมีวิธีการเลือกเสื้อผ้ายังไงให้ดูผอมและดูสูงขึ้นกันค่ะ
1.การสวมใส่เสื้อผ้าพอดีตัว
การเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้พอดีตัวแบบไม่แน่นจนเกินไปหรือหลวมจนเกินไปนั้นจะเป็นการไม่เน้นสัดส่วนที่เป็นข้อบกพร่องของร่างกายเราได้การใส่เสื้อที่หลวมมากๆหรือ Over size จะทำให้ช่วงตัวของเราดูใหญ่ขึ้น หรือการใส่เสื้อผ้ารัดรูปนั้นก็ไม่ได้ทำให้เราดูตัวเล็กลงแม้แต่น้อยแถมจะยิ่งเน้นสัดส่วนไปกันไปใหญ่นั่นเอง
2.การใส่เสื้อผ้ามีแขน
การสวมใส่เสื้อผ้าที่มีแขนช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่มีต้นแขนใหญ่และ ช่วยอำพรางต้นแขนได้ดีเลยทีเดียว ควรหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่มีแขนสั้นๆหรือเสื้อแขนกุดเพราะจะยิ่งเป็นการเน้นส่วนที่เกินออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน หากต้องใส่เสื้อแขนกุดแล้วก็ควรจะมีเสื้อคลุมแขนยาวพกติดไปด้วย จะเป็นแขนยาวไหมพรมแบบบาง หรือเสื้อคลุมหนานุ่มก็สามารถเลือกใส่ได้ให้เหมาะตามสภาพอากาศ
3.การใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้ม
การสวมใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้มนั้นช่วยพรางสายตาได้เป็นอย่างดี และเสื้อผ้าสีเข้มหรือสีดำนั้นก็เป็นสียอดฮิตที่ทุกๆคนต้องมีติดตู้ไว้เพราะสามารถใส่ได้บ่อยๆอีกด้วย สาวอวบที่อยากดูผอมเพรียวควรใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้มเท่านั้นค่ะ
4.เสื้อผ้าลวดลายเยอะๆ
การใส่เสื้อผ้าที่มีลวดลายเยอะๆไม่ได้เป็นการอำพลางสัดส่วนแต่อย่างใด ยิ่งเป็นการเน้นส่วนที่ต้องการปกปิดให้เห็นชัดมากยิ่งชัดมากขึ้น ถ้าหากสาวๆอยากผอมละก็ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีลวดลายแน่นๆหรือลายโดดเด่นที่ช่วยนำสายตานั่นเองค่ะ
5.การใส่เสื้อคอกว้าง
การใส่เสื้อคอกว้างหรือคอวีนั้นจะช่วยทำให้ช่วงคอดูยาวขึ้นและทำให้ดูผอมเพรียวมากยิ่งขึ้นค่ะหรือจะเพิ่มความเซ็กซี่แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าปาดไหล่ก็เก๋ไปอีกแบบ แอดแนะนำให้ลองใส่เสื้อผ้าหลากหลายแนวเพื่อหาความแปลกใหม่ให้กับตัวเอง
6.การใส่กระโปรง
สาวๆที่ไม่มั่นใจในช่วงขาก็ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะเพราะยังมีทรงกระโปรงที่เหมาะกับทุกรูปร่างอยู่ นั่นก็คือกระโปรงทรงเอนั่นเอง ซึ่งกระโปรงทรงเอ ก็เป็นทรงที่นิยมใส่กันในที่ทำงาน หรือถ้าหากใครต้องไปเที่ยวแต่ต้องใส่กระโปรงก็อย่าลืมหากระโปรงทรงเอสีที่เหมาะกับเสื้อตัวโปรดมาใส่กันดูนะคะ
7.การใส่เสื้อเข้าในกางเกง
สำหรับสาวๆที่ไม่มีช่วงเอวที่ชัดเจนนั้นสามารถแก้ไขได้โดยการใส่เสื้อเข้าไปในกางเกงค่ะจะเป็นการเน้นให้เห็นช่วงเอวที่ชัดเป็นส่วนเว้าส่วนโค้งมากขึ้น และถ้าหากมีเข็มขัดด้วยแล้วก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความดูดีและดูเพรียวมากขึ้นไปอีก
8.การใส่มินิเดรส
มาเอาใจสาวๆสายหวานกันบ้าง บอกเลยว่าความอวบไม่ใช่อุปสรรคของการแต่งตัวแต่อย่างใดการใส่มินิเดรสสั้นขึ้นเหนือเข่าและมีแขนเสื้อช่วยทำให้หุ่นของเราดูผอมลงและเดรสยังช่วยเพิ่มความน่ารักให้กับสาวๆมากเลยทีเดียว
9.เสื้อครอป
เสื้อครอปเป็นทรงเสื้อยอดฮิตของสาวๆทุกเพศทุกวัยเลยก็ว่าได้ การใส่เสื้อครอปเป็นการโชว์ช่วงเอวซึ่งจะทำให้ช่วงตัวดูยาวขึ้น
10.การใส่เสื้อผ้าคุมโทน
การเลือกใส่เสื้อผ้าคุมโทนให้อยู่ในโทนสีเดียวกันนอกจากจะทำให้ดูมีศิลปะในการแต่งตัวแล้วยังเป็นการอำพรางหุ่นอีกหนึ่งวิธีที่ดีมากเลยทีเดียว และตรงกันข้ามถ้าหากเราเลือกใส่เสื้อผ้าที่โทนสีโดดเด่นซึ่งตัดกันอย่างชัดเจน ก็จะเป็นการเน้นในส่วนที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับเราได้เช่นกันค่ะ
และนี่ก็เป็นเทคนิคหรือทริกเล็กๆน้อยๆที่ช่วยสร้างความมั่นใจบนเรือนร่างให้กับสาวๆได้ ความจริงแล้วไม่ว่าเราจะมีรูปร่างแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด ข้อนี้ก็เป็นเพียงปัจจัยภายนอกเท่านั้นและปัญหาเหล่านี้ก็สามารถแก้ไขได้ในทันทียังมีอีกหลากหลายวีธีที่สาวๆสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเองได้ และสาวๆคนไหนที่กำลังกันมาดูแลตัวเองแอดก็ขอเป็นกำลังใจให้สาวๆ สดใสในทุกๆวันเลยค่ะ ก่อนจากกันไปวันนี้แอดมีทริกการออกกำลังกายดีๆมาฝากสาวๆค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดีต่อตัวเรา และหุ่นที่ปังแบบฉุดไม่อยู่นั่นเอง
เทคนิคการออกกำลังกายฉบับมือใหม่
การออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายด้านอธิเช่น ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง, ผิวพรรณสดใส, ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน, สร้างความคล่องตัว, ช่วยชะลอวัย และที่ทำสำคัญช่วยให้หลับสบายนั่นเอง (สำหรับใครที่ประสบปัญหานอนไม่หลับแนะนำให้ออกกำลังกายดูนะคะเพื่อเป็นการลดปัญหาการนอนไม่หลับและเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้ยานั่นเองค่ะ) เรามาดูท่าออกกำลังกายกันดีกว่าค่ะ
ว่ามีท่าไหนบ้างที่จะช่วยลดส่วนเกินที่เราไม่ต้องการได้ สำหรับใครที่มีปัญหาไม่มั่นใจในสัดส่วนห้ามพลาดเทคนิคเหล่านี้เด็ดขาดค่ะ
ท่าที่1 ท่าลดหน้าท้อง
- วิธีที่1 การออกกำลังกายสำหรับท่านี้นั้นแสนจะง่ายดาย
โดยเริ่มจาก การนอนราบกับพื้น และค่อยๆยกขาขึ้นเล็กน้อย และเริ่มตีขาไปจากทางซ้ายและไล่ไปทางขวา แบ่งความเร็วให้เป็นจังหวะที่สม่ำเสมอและเท่าๆกัน
จากนั้นนับแบ่งออกเป็นเซ็ทๆ โดยแบ่งออกเป็น 6 เซ็ท เซ็ทละ 10 ครั้ง ท่านี่ช่วยให้หน้าท้องลดเร็ว และมีช่วงขาที่เรียวยาวมากขึ้นอีกด้วย
- วิธีที่2 เป็นการออกกำลังกายในท่านั่ง
ซึ่งท่านี้จะมีลักษณะคล้ายกับตัวV โดยให้มือทั้ง2 ข้างแนบราบไปกับพื้นเยื้องไปด้านหลังเล็กน้อย จากนั้นให้เหยียดขาตรงไปด้านหน้า พร้อมกับการเอนตัวไปด้านหลัง ให้ทำสลับไปมาอย่างนี้เรื่อยๆเป็นจังหวะช้าๆที่เท่ากัน โดยแบ่งออกเป็น 5 เซ็ทและเซ็ทละ 20 ครั้ง ท่านี้ค่อยข้างเกร็งช่วงท้องมากช่วยทำให้หน้าท้องกระชับได้ไวขึ้น
ท่าที่ 2 ท่าลดต้นแขน
- วิธีที่ 1 ท่ากระชับต้นแขนจนกด้านหลัง
ท่านี้เริ่มต้นด้วยการ ยืนตรงและประสานมือทั้ง2 ข้างไปด้านหลัง และใช้อุปกรณ์ง่ายๆแทนดัมเบลนั่นก็คือขวดน้ำใส่น้ำไว้ประมาณครึ่งขวด พร้อมยกดัมเบลขึ้นเหนือท้ายทอย ให้เลยศีรษะช่วงศอกจะอยู่บริเวณหลังหูพอดี ท่านี้ช่วยกระชับไขมันส่วนเกินที่ต้นแขนให้มีความตึงกระชับและเป็นกล้ามเนื้อมากยิ้งขึ้นหากทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
- วิธีที่ 2 ท่ากระชับต้นแขนจากด้านหน้า
ฃท่านี้ยังคงใช้ดัมเบลขวดน้ำเช่นเดิม โดยวิธีการคือแยกเท้าทั้งสองข้างออกจากกัน ให้ขนานกับหัวไหล่หยิบดัมเบลขวดน้ำขึ้นมาในระดับอก และค่อยๆปล่อยแขนลงตามธรรมชาติให้ศอกทั้งสองข้างแนบข้างลำตัว และหันฝ่ามือทั้ง2ข้างเข้าหาลำตัวในลักษณะของการจับด้ามของ สูดหายใจเข้าลึกๆและยกดัมเบลขวดน้ำขึ้นจนสุด จากนั้นบิดข้อมือเล็กน้อยให้ฝ่ามือหันเข้าหาหัวไหล่ การยกดัมเบลขวดน้ำขึ้นแต่ละครั้งนั้นให้ยกเฉพาะปลายแขน แต่ต้นแขนไม่ขยับ พร้อมกับค่อยๆผ่อนลมหายใจออก
ท่าที่ 3 ท่าออกกำลังกายปั้นก้น
ท่า Glute bridge ท่านี้เหมาะและปลอดภัยสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกายและเป็นท่าที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อสะโพกได้เป็นอย่างดี ช่วยสร้างกล้ามเนื้อขาด้านใน และกล้ามเนื้อกลางลำตัว
วิธีการก็คือ
- ให้นอนหงายและนอนราบลงไปกับพื้น ให้งอเข่าเล็กน้อย และวางเท้าตั้งบนพื้น
- ออกแรงเกร็งสะโพกและช่วงหน้าท้อง ออกแรงกดเท้าทิ้งน้ำหนักลงไปที่พื้น ให้นอนราบขนานเป็นเส้นตรงกับพื้น ในลักษณะเส้นตรง จากช่วงไหล่ไปถึงเข่า
- ทำท่านี้ค้างไว้ประมาณ 5 นาทีและค่อยๆผ่อนกำลังลง
- ทำซ้ำ และแบ่งออกเป็นชุดๆ โดยให้ทำซ้ำ 3 ชุด / ชุดละ 15 ครั้ง
และทั้งหมดนี้ก็จะเป็นทริกการออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับสาวๆได้อย่าลืมไปลองทำตามกันดูเป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีนั่นเองค่ะ