ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มาเยือนผิวหน้าของสาวๆ เมื่อไหร่ ก็คงต้องนอนเรามือก่ายหน้าผากกันเลย เพราะปัญหาเหล่านี้ดูแลรักษายากมาก และสาวๆ อีกหลายๆ คนเมื่อมีปัญหาเหล่านี้ก็บั่นทอนความมั่นใจในตัวเองไปเลย แต่อยากจะบอกทุกคนว่า เราอย่าไปกลัวมันค่ะ พูดกับฝ้ากับกระบนหน้าของเราว่า นกจะไม่ยอมเป็นเหยื่อของพี่ตาอีกแล้ว แล้วตามมาดูวิธีป้องกัน และรักษาปัญหาเหล่านี้ยังไงให้เห็นผลกันดีกว่าจ้า
ฝ้า คืออะไร
สาวๆอาจจะสงสัยกันว่าฝ้าที่มาอยู่บนใบหน้าของเรา มันคืออะไรกันแน่ สำหรับฝ้า คือ ปื้นที่เกิดขึ้นบนผิวหน้า อาจจะมีความเข้มและขนาดแตกต่างกันออกไปจ้า ซึ่งความเข้มของฝ้ามีตั้งแต่สีน้ำตาลไปจนสีดำเข้มเลยนะทุกคน ผ้าทำให้ผิวหน้าของเราบริเวณที่เกิดฝ้าไม่เรียบเนียน สีผิวดูไม่สม่ำเสมอ จนทำให้หลายๆคนที่มีฝ้าเสียความมั่นใจไปได้ง่ายนั่นเอง
ฝ้า เกิดจากอะไร
หลายๆคนอาจจะรู้กันอยู่แล้วว่าฝ้าเกิดจากแสงแดด แต่ที่จริงแล้วแล้วพวกเธอรู้ไหมว่าสาเหตุของการเกิดฝ้ามีหลากหลายมากเลย เช่น
แสงแดด
แสงแดดจะก่อให้เกิดฝ้าที่เรามักเรียกกันว่าฝ้าแดดนั่นเองจ้า มีผลมาจากการสัมผัสรังสียูวี ไม่ว่าจะยูวีเอ ยูวีบีก็ทำให้เกิดฝ้าได้ เนื่องจากรังสีเหล่านี้มีความเข้มข้นสูง ทำให้ทำลายผิวของเราได้ลึก และยังไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวของเราคล้ำเสีย หน้าหมองคล้ำ และเป็นฝ้าแดดนั่นเอง
ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล
สำหรับฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย เกิดจากระบบเลือด หรือฮอร์โมนของเราที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างผิดปกติ ซึ่งมักจะเกิดในผู้ที่ทานยาคุม ผู้ที่มีการตั้งครรภ์ หรือผู้ที่เข้าสู่วัยใกล้หมดประจำเดือนนั่นเองจ้าสาวๆ ซึ่งปัญหาฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลนี้อาจจะส่งผลไปจนสู่ทำให้เกิดสิวฮอร์โมนมาคู่กับฝ้าเลยนะ เอาจริงมือก่ายหน้าผาดแล้วเนี่ย
พันธุกรรม
ต้องบอกเลยว่าร่างกายที่ผลิตเม็ดสีมากเกิดความจำเป็นสามารถส่งผ่านทางพันธุกรรมได้อีกด้วยนะจ้ะสาวๆ ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดฝ้าได้ง่าย พวกเธอกลับบ้านไปลองเช็คแม่ เช็คยาย ของเรากันดูนะ ว่ามีใครเป็นฝ้าที่ดูเยอะเป็นพิเศษแม้ไม่ได้ออกแดดหรือเปล่า เพราะอาจจะส่งผ่านพันธุกรรมก็ได้ นอกจากจะทางพันธุกรรมแล้ว คนที่เริ่มมีอายุเพิ่มขึ้นก็สามารถมีฝ้าได้ง่ายขึ้นอีกด้วย และฝ้าพันธุกรรมนี้พบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชายอีกด้วยนะ
ยาบางชนิด
ยาบางชนิด เช่น ยาคุม จะส่งผลให้เป็นปัจจัยการกระตุ้นให้เกิดเม็ดสีส่วนเกินได้ง่าย จนส่งผลกระทบให้เกิดฝ้าได้ง่ายนั่นเอง หรือยากันชัก ซึ่งพบว่าผู้ที่ใช้ยาชนิดนี้มักมีฝ้าขึ้นที่บริเวณกรอบหน้าอีกด้วย
โรคประจำตัว
สาเหตุสุดท้ายของการเกิดฝ้าอาจจะเกิดมาจากโรคประจำตัว ที่ตัวยาที่เราทานหรืออาการป่วยส่งผลต่อฮอร์โมนจนทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายขึ้นนั่นเองจ้า
ซึ่งฝ้ามักเกิดตรงบริเวณที่โดนแสงบ่อย เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก คาง หรือไรหนวดนั่นเอง
ฝ้ามีกี่ชนิด
ฝ้าที่สาวๆคุ้นได้ยินชื่อ หรือคุ้นเคยกันก็คงจะเป็นฝ้าแดด แต่รู้ไหมคะว่าฝ้ามีหลายชนิด ที่เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป มาจ้า วันนี้เราได้รวบรวมชนิดของฝ้าต่างๆมาฝากสาวๆกันแล้ว
ฝ้าแดด
สำหรับฝ้าแดด เป็นฝ้าที่เกิดจากแสงแดดนั่นเองจ้า เพราะเป็นผลจากรังสียูวีเอยูวีบีที่กระตุ้นการเกิดเม็ดสีใต้ผิวหนัง
ฝ้าเลือด
เป็นฝ้า ที่มีลักษณะเป็นปื้นสีแดง เกิดจากที่ร่างกายมีฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงนั่นเอง เช่น การทานยาคุม
ฝ้าตื้น
เป็นฝ้าที่มีลักษณะสีน้ำตาลเข้ม เห็นขอบชัดเจน และเกิดขึ้นที่ผิวหนังชั้นนอก เกิดขึ้นได้ง่ายและรักษาได้ง่ายเช่นกัน
ฝ้าลึก
ฝ้าลึกจะมีสีน้ำตาลอ่อน เทา หรือม่วง เห็นขอบไม่ชัด และรักษายากมาก เพราะเกิดลึกในระดับชั้นผิวหนังแท้
ฝ้าแบบผสม
ฝ้าแบบผสม เป็นการผสมของฝ้าทั้งสองแบบ มีลักษณะเข้ม แต่ขอบจะจาง การรักษาต้องใช้หลายวิธี
ฝ้า กระ จุดด่างดำ ต่างกันอย่างไร
สำหรับกระ และจุดด่างดำจะมีลักษณะคล้ายกับฝ้ามาก และยังขึ้นในบริเวณที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย สาวๆหลายๆคนถึงกับงงกันไปเลย ว่าที่อยู่บนหน้าเรานี้จะเรียกว่าฝ้า หรือกระดีนะ เอ๊ะแต่มองดีๆก็เหมือนจุดด่างดำนะเนี่ย แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฝ้า กระ จุดด่างดำจะคล้ายกันมาก แต่ก็ยังแตกต่างกันในหลายจุด ทำให้เราสามารถแยกได้อย่างง่ายดายเลย โดยสามารถแยกได้ดังนี้จ้า
- ฝ้า จะเป็นปื้น มีสีเข้มกว่าผิวค่อนข้างเยอะ เรียกได้ว่าเหมือนโดนรองพื้นที่ผิดเฉดสุดๆ ป้ายลงบนผิวหน้านั่นเอง ขนาดของฝ้าก็จะแตกต่างกันออกไป มีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ หากไม่หาวิธีรักษา ขนาดจะค่อยๆใหญ่ขึ้นอีกนั่นเองจ้าทุกคน
- กระ จะมีลักษณะเป็นจุด หรือรอยด่างดำ เป็นทรงกลมมีสีน้ำตาล ขนาดเล็กๆ มีขอบวงกลมชัดเจน ไม่เป็นปื้น มักจะเกิดขึ้นได้ทั้งใบหน้า และส่วนอื่นๆของร่างกายเลยจ้า
- จุดด่างดำ คือรอยบนผิว ไม่ใช่ฝ้าหรือกระ แต่เกิดจากการอักเสบของผิวหนังจ้า เช่นรอยด่างดำที่เกิดจากการอักเสบของสิว เมื่อสิวหายก็ทิ้งรอยด่างดำไว้เป็นของฝากบนใบหน้าของเรานั่นเอง ซึ่งรอยด่างดำจะไม่เป็นรอยกลมเหมือนกระนะ และไม่เป็นรอยปื้นเหมือนฝ้าด้วย แต่จะมีลักษณะเป็นจุด เป็นเสี้ยว เกิดขึ้นบริเวณที่เคยมีสิวอักเสบ
สรุปง่ายๆเลยนะสาวๆ ฝ้าจะเป็นปื้นเหมือนโดนอะไรป้าย หรือแต้มบนใบหน้า แต่กระจะเป็นจุดกลมๆ ส่วนจุดด่างดำจะมีรูปทรงแตกต่างกันออกไปและเกิดขึ้นบริเวณที่เคยเป็นสิวอักเสบนั่นเองจ้า
สาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ
แม้ว่าฝ้า กระ และจุดด่างดำจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่สาเหตุของการเกิดปัญหาเหล่านี้ยังมีความแตกต่างกันอยู่นะจ้ะสาวๆ ซึ่งเราควรรู้สาเหตุของการเกิดปัญหาเหล่านี้ไว้ เพื่อจะได้แก้ไขได้ถูกจุดนั่นเอง
- สาเหตุของการเกิดฝ้า มาจากปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด แสงไฟ หรือรังสียูวี หรือรังสียูวีจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคใกล้ตัวนั่นเอง ซึ่งรังสีเหล่านี้จะเข้าไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีส่วนเกิดใต้ผิวหนัง จนก่อให้เกิดฝ้าในที่สุด
- สาเหตุของการเกิดกระ ต้องบอกเลยว่ากระ มีสาเหตุการเกิดได้ทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอกก็คือรังสียูวี หรือแสงไฟ ส่วนปัจจัยภายในก็ได้แก่พันธุกรรม หรือฮอร์โมนนั่นเองจ้าสาวๆ และกระสามารถเกิดได้ในทุกส่วนของร่างกาย ไม่จะเป็นว่าจะต้องเกิดขึ้นแค่บริเวณที่หน้า
- สาเหตุของการเกิดจุดด่างดำ สำหรับจุดด่างดำมักเกิดหลังจากเกิดการอักเสบของผิวหนัง เมื่อความอักเสบนั่นหาย ก็จะทิ้งรอยด่างดำเอาไว้ เช่น สิวอักเสบนั่นเองจ้า และเมื่อจุดด่างดำไปเจอกับรังสียูวี ก็จะยิ่งกระตุ้นการผลิตเม็ดสีภายใต้ผิวหนังมากยิ่งขึ้น ทำให้จุดด่างดำบนผิวหน้าของเรายิ่งเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
การรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ
สำหรับการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ สาวๆต้องใจเย็นๆ เย็นๆ เป็นเทือกเขาน้ำแข็งเลยนะคะ แม้ว่าฝ้า กระ จุดด่างดำจะรักษายาก และต้องใช้เวลา แต่รักษาได้แน่นอนจ้า โดยวิธีการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ สามารถทำได้ดังนี้
ทาครีมกันแดด
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ฝ้า กระ จุดด่างดำ ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากแสงแดด ดังนั้นการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 30 จะช่วยป้องกันผิวจากรังสีต่างๆจากแสงแดด และหน้าจอโทรศัพท์อีกด้วย เป็นการช่วยลดโอกาสการเกิดฝ้าในระยะยาวได้ดีเลยจ้า
ยารักษาฝ้า
เป็นยาที่ผลิตมารักษาฝ้าที่ต้นเหตุโดยเฉพาะเลยค่ะ แม้ว่ายารักษาฝ้าจะใช้เวลานาน แต่สามารถรักษาฝ้าให้หายได้ แต่การใช้ยารักษาฝ้า ต้องระวังผิวบอบบางและการระคายเคืองด้วยนะคะ
การเลเซอร์
อีกหนึ่งวิธีรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำที่เป็นที่นิยมอย่างมาก นั่นคือการเลเซอร์ เพราะสามารถรักษาได้ตรงจุด และเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว แต่ เมื่อรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์แล้ว ควรทาครีมกันแดด อย่างต่อเนื่องเลยเพื่อไม่ให้น้องฝ้า กระ จุดด่างดำ กลับมาที่ผิวหน้าของเราได้ง่ายๆอีกครั้ง
การลอกผิวหน้า
สำหรับวิธีนี้ต้องพบแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ และทำโดยแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ แต่การลอกผิวเป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว แต่ต้องใช้ความละเอียดสูงในการทำ เพราะหากลอกผิวหนังลึกจนเกินไป อาจเสี่ยงที่จะเกิดเป็นรอยแผลเป็นได้นั่นเองจ้า
การป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำแบบธรรมชาติ
แม้ว่าฝ้า กระ จุดด่างดำจะสามารถรักษาให้หาย แต่! ไม่เป็นเลยคงจะดีกว่าใช่ไหมคะ สำหรับวิธีการป้องกันฝ้า กระ จุดด่างดำนั่น สามารถทำได้ง่ายๆเลย เรียกได้ว่าทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีใดๆเลยก็ว่าได้นะ
หลีกเลี่ยงแสงแดด
เพราะแสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำนั่นเอง ดังนั้น การหลีกเลี่ยงแสงงแดดจึงช่วยปกป้องผิวของเราจากฝ้า กระ จุดด่างดำได้ดี
ทาครีมกันแดด
การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เป็นการปกป้องผิวของเราจากรังสียูวีต่างๆ และทางเราก็ยังขอแนะนำให้ใช้กันแดดทุกวันนะคะ เพราะเมืองไทย เมืองร้อน แบบโอ้โหร้อนมาก ไม่รู้จะหลีกเลี่ยงแดดได้ยังไง ก็ใช้กันแดดเถอะค่ะ
พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นสิ่งที่พูดง่าย แต่ที่ยากมาก แต่ยังไงก็อยากให้สาวๆทุกคนพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ เพราะเมื่อร่างกายพักผ่อน จะเกิดกระบวนการฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอนั่นเอง ทำให้ผิวได้มีการซ่อมแซม ลดโอกาสการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือรอยแดงอื่นๆได้อีก
ไม่ใช้เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน
การใช้เครื่องสำอางที่ได้ได้มาตรฐานจะส่งผลระยะยาวต่อผิวหน้าของเรา เพราะสารเคมีจากเครื่องสำอางเหล่านั้นจะตกค้างในผิว จนสะสมทำให้ผิวหนังของเราเสีย และยากที่จะรักษาอีกด้วย
ฝ้า กระ จุดด่างดำนั้น แม้จะมีลักษณะต่างกันนิดหน่อย แต่สาเหตุการเกิดคล้ายๆกัน นั่นก็คือแสงแดดตัวดีนั่นเอง โอ้โหแล้วอยู่เมืองไทย เราจะหลีกเลี่ยงยังไง แนะนำให้สาวๆทาครีมกันแดดทุกวันนะคะ เพราะสามารถช่วยปกป้องผิวของให้ห่างไกลจากฝ้า กระ จุดด่างดำได้ดีเลยค่ะ