คอลลาเจนในทุกวันนี้สามารถหาได้ง่าย ไม่ว่าจะในอาหารเสริม หรือเครื่องดื่มต่างๆ ที่ออกมาเคลมว่าผสมคอลลาเจน ดื่มแล้วช่วยให้ผิวกลับมาดูดีสดใสได้ แต่หลายๆ คนยังสงสัยว่าแต่ เอ๊ะ.... กินคอลลาเจนช่วยแก้ปัญหาผิวได้จริงไหม? มาจ้า วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับคอลลาเจนกันมากให้มากขึ้น จะได้ไขข้อสงสัยเรื่องคอลลาเจนกับผิวมันเกี่ยวกันยังไง
คอลลาเจนคืออะไร
ต้องบอกเลยว่าคอลลาเจน ถือว่าเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนังเลย โดยคิดเป็นสัดส่วนได้ 1 ใน 3 ของโปรตีนทั่วร่างกายเลย ซึ่งถือว่าเยอะมาก และคอลลาเจนทำหน้าที่คล้ายกับกาว พร้อมทั้งยังเป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกายอีกด้วย เช่น ผิวหนัง เล็บ เอ็น ข้อ กล้ามเนื้อ กระดูก อีกทั้งยังมีหน้าที่ทำให้ผิวดูเต่งตึง เรียบเนียน อ่อนเยาว์ขึ้นด้วยนะจ้ะ โดยเจ้าตัวคอลลาเจนนี้จะอยู่ที่บริเวณผิวหนังชั้นล่าง หรือชั้นหนังแท้นั่นเองจ้า ดังนั้นหากเราทาครีมทั่วไปลงบนผิวหนัง เป็นไปได้ยากมากที่ครีมเหล่านั้นจะเข้าไปฟื้นฟูถึงชั้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
อายุกับปริมาณคอลลาเจน
ทุกคนรู้ไหมคะว่า คอลลาเจนที่เรามีติดตัวมาตั้งแต่เกิดเนี่ย เข้าไม่สามารถอยู่กับเราไปได้ตลอดไปนะ เมื่อเข้าสู้ช่วงชีวิตที่เริ่มมีอายุขึ้นประมาณนึง ปริมาณของเหล่าคอลลาเจนจะมีจำนวนสวนทางกับอายุเลยจ้า เพราะว่าแต่ละช่วงวัยจะมีปริมาณของคอลลาเจนที่แตกต่างกันไปดังนี้
วัย 30 - 40
สำหรับช่วงวัยนี้เป็นวัยที่เริ่มเห็นได้แล้วว่ามีความเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบนร่างกายของเรา อะไรที่ไม่เคยมีก็เริ่มมี เช่น รอยย่นบนหน้าผาก ริ้วรอยบริเวณหางตา ริ้วรอยบริเวณใต้ตา หรือรอยร่องแก้มเวลายิ้มที่จะเห็นเป็นเส้นขีดชัดขึ้นแม้ว่าเราจะไม่ได้ยิ้มแล้วนั่นเอง
วัย 40 - 50
สำหรับช่วงวัยนี้รอยย่นที่เข้ามาในช่วงก่อนหน้านี้ เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว จะเริ่มเห็ดชัดมากยิ่งขึ้น และตามมาด้วยการเริ่มมีฝ้า และเป็นฝ้าชนิดลึกลงสู่ผิวมากขึ้น ผิวแห้งได้ง่าย รูขุุมขนใหญ่มากขึ้น เริ่มมีติ่งเนื้อขึ้นกระจัดกระจายอยู่บนผิว สำหรับบางคนในวัยนี้ สิวจะเริ่มกลับมาอีกครั้ง
วัย 50 - 60
สำหรับช่วงวัยนี้ร่องรอยของผิวจะคล้ายช่วงวัยก่อนหน้า แต่จะเริ่มเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และร่องรอยบนผิว เช่น รอยย่นตามร่องแก้มจะยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่วนติ่งเนื้อที่มีการกระจัดกระจายอยู่ตามผิวหนังจะยิ่งมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เป็นช่วงวัยที่เห็นได้ชัดว่าคอลลาเจนเริ่มลดลงมากแล้ว
วัย 60 ขึ้นไป
เป็นช่วงวัยที่เห็ฯได้ชัดยิ่งกว่าเดิมว่าคอลลาเจนหายไปเยอะมากๆแล้ว เพราะจะเริ่มมีริ้วรอยทั่วหน้า ตามริมฝีปากเริ่มมีรอยย่น ผิวจะมีความหยาบ และมีความแห้งกร้านมากยิ่งขึ้น ร่องรอยบนผิวจะยิ่งลึก และยิ่งชัดขึ้น
แต่การเปลี่ยนแปลงของผิว และการเปลี่ยนแปลงของคอลลาเจนใต้ผิวหนังนั้น เป็นเรื่องธรรมชาติมากๆ ที่ทุกคนต้องพบเจอเลยค่ะ ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องนอยด์ไปนะคะ เพราะเราสามารถช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของผิวเราได้ โดยการรับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูง หรืออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนนั่นเองจ้า เพียงแค่นี้ก็จะช่วยรักษาผิวอ่อนเยาว์ของเราให้อยู่กับเราได้ยาวนานขึ้นอีกนิด
การเพิ่มปริมาณคอลลาเจนให้ผิวมีกี่แบบ
สำหรับการเพิ่มปริมาณคอลลาเจนให้ผิวมีหลายแบบเลยค่ะ อย่างที่เราอาจจะเห็นได้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนแบบดื่ม แบบกิน หรือแบบที่ผสมมากับครีมทาบำรุงผิว เรียกได้ว่ามีหลายแบบให้ได้เลือกใช้ตามความสะดวกของแต่ละบุคคลเลย แต่ทุกคนรู้ไหมคะ วิธีการเพิ่มคอลลาเจนในแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียต่างกันดังนี้
1. การทาคอลลาเจนให้ผิว
ต้องบอกเลยว่าการทาคอลลาเจนให้ผิว ที่เราพบเจอได้บ่อยในครีมบำรุงผิวต่างๆ เป็นเพียงแค่การเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเท่านั้น เพราะคอลลาเจนเป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่มาก จึงไม่สามารถซึมเข้าไปยังผิวหนังชั้นในที่เป็นแหล่งที่อยู่ของคอลลาเจนได้ จึงทำให้คอลลาเจนที่ผสมมาในครีมเหล่านี้ เคลือบแค่ผิวหนังด้านนอกเท่านั้นเองจ้า
2. การฉีดคอลลาเจนให้ผิว
สำหรับปัจจุบันนี้จะนิยมเป็นการฉีดสารเติมเต็มมากว่าคอลลาเจน อย่างเช่น การฉีดฟิลเลอร์ ที่สามารถแก้ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยได้ผลอย่างชัดเจน เพราะว่าในอดีตได้มีการฉีดคอลลาเจนที่เป็นคอลลาเจนสังเคราะห์มาจากสัตว์ แต่มีอัตราการแพ้ที่สูงมาก จนทำให้คนหักมาสนใจการฉีดสารเติมเต็มแทนนั่นเอง
3. การทานอาหารเสริมประเภทคอลลาเจน
สำหรับวิธีสุดท้ายนี้เป็นการทานอาหารเสริมที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนนั่นเอง สำหรับอาหารเสริมเหล่านี้จะมีการผสมของคอลลาเจนสังเคราะห์เข้าไปในอาหารเสริม หรือเครื่องดื่ม ทำให้ทานคอลลาเจนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากโมเลกุลขนาดใหญ่ของคอลลาเจนจะทำการย่อยในกระเพาะอาหาร ส่งผลให้ร่างกายสามารถดููดซึมคอลลาเจนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
อาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน ที่เราสามารถหากินได้ทุกวัน
นอกจากคอลลาเจนที่ผ่านการสกัดมาแล้ว หรือคอลลาเจนที่มีการผสมตามเครื่องดื่มต่างๆ รู้ไหมจ้ะทุกคน ว่าอาหารที่เรากินกันชีวิตประจำวันทั่วไปเนี่ยก็อุดมไปด้วยคอลลาเจนเหมือนกันนะจ้ะ โดยอาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนมีดังต่อไปนี้เลยจ้า
เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู
สำหรับสายเนื้อย่าง สายหมูกะทะใดๆเอย รู้กันไหมจ้ะ ว่าเรากำลังกินอาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนที่ร่างกายต้องการเลยนะ สำหรับคอลลาเจนจะถูกพบมากที่สุดในสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งเนื้อสัตว์เหล่านี้จะอุดมไปด้วยโปรตีนหลากหลายประเภท และอุดมไปด้วยโปรตีนประเภทคอลลาเจนอีกด้วย
น้ำซุปกระดูก
ต้องบอกเลยว่ากระดูกเป็นอีกหนึ่งแหล่งเจลาตินและคอลลาเจนทำธรรมชาติ ดังนั้นสำหรับน้ำซุปกระดูก ที่ได้ผ่านการเคี่ยวมาเป็นเวลาหลายๆชั่วโมง เป็นอีกหนึ่งวิธีการดึงคอลลาเจนที่อยู่ในเนื้อเยื่อกระดูกให้ออกมาเป็นผสมอยู่ในน้ำซุปอย่างดีเลย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมทำซุปกระดูกที่ดูเหมือนจะเป็นแค่ซุปธรรมดา จะอุดมไปด้วยคอลลาเจนมากมายขนาดนี้
ปลา
สำหรับปลา ไม่ว่าจะเป็นปลาธรรมดาทั่วไปที่เรากินในชีวิตประจำวันอย่างเช่น ปลาทู หรือจะปลาทูน่า แซลม่อน ก็ล้วนแต่เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนทั้งนั้นเลย เพราะปลามีกระดูก และเอ็น ที่ทำมาจากคอลลาเจนเลยจ้า และคอลลาเจนที่มาจากปลาสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 1.5 เท่า มากกว่าคอลลาเจนที่ได้จากวัวอีกด้วย
คอลลาเจนช่วยแก้ปัญหาผิวได้จริงหรือ?
สำหรับการทานคอลลาเจนช่วยแก้ปัญหาผิว ที่จริงแล้วได้มีงานวิจัยบางชิ้นบอกไว้ว่า การรับประทานคอลลาเจนเสริมให้ร่างกายนั่น จะช่วยเข้าไปเพิ่มความหนาแน่นของปริมาณคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวของเรามีความยืดหยุ่นสูง และสามารถเพิ่มความชุ่มชื่นของผิวได้อีกด้วย
แต่ทานคอลลาเจนไม่ได้มีส่วนช่วยให้ผิวขาวขึ้นนะคะทุกคน แต่คอลลาเจนจะเข้าไปมีส่วนในการซ่อมแซมผิว ทำให้ผิวมีสุขภาพดี เรียบเนียนมากยิ่งขึ้นจ้า ข้อดีอีกอย่างของคอลลาเจนคือจะมีส่วนช่วยในการลดการอักเสบ ทำให้ปัญหาสิวหายไวขึ้นนั่นเอง
ครีมบำรุงผิวที่มีคอลลาเจนช่วยแก้ปัญหาผิวได้จริงไหม
สำหรับใครที่สงสัยว่าครีมบำรุงผิวต่างๆที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนจะช่วยแก้ปัญหาผิวได้จริงไหม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวหยาบ ผิวแห้งกร้าน ผิวมีริ้วรอย หรือเหล่าปัญหาผิวอื่นๆ แม้ว่าคอลลาเจนจะมีจุดเด่นมากในการคงความอ่อนเยาว์ให้อยู่กับผิวของเรา แต่การทาครีมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนนั่น จะเคลือบคอลลาเจนแค่ผ่านนอกของผิวเท่านั้นค่ะทุกคน คอลลาเจนไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปสู่ผิวชั้นในเพื่อแก้ปัญหาผิวมาจากภายในได้ เมื่อไม่มีการดูดซึมเข้าไปฟื้นฟูผิวมาจากภายในร่างกาย ครีมบำรุงผิวผสมคอลลาเจนจึงไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาผิวนั่นเองจ้า แต่อย่างไรก็ดีพวกครีมผสมคอลลาเจนต่างๆที่เราเห็นได้ง่ายๆตามท้องตลาด ก็ยังคงมีประโยชน์อยู่นะคะ เพราะยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ดี ทำให้ผิวนุ่มขึ้น และยังดูสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย
คอลลาเจนทำให้ผิวขาวขึ้นไหม
สำหรับใครที่กำลังอยากจะใช้คอลลาเจน เพราะหวังผลให้ผิวขาวขึ้นนั้น ขอบอกเลยค่ะว่าคอลลาเจนไม่สามารถช่วยในเรื่องความขาวของผิวเราได้ค่ะ เพราะคอลลาเจนเป็นสารที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังช่วยเรื่องความเต่งตึงของผิวเท่านั้น แต่อาจจะมีครีมบำรุงบางตัว หรืออาหารเสริมบางยี่ห้อ ที่มีคอลลาเจนและมีส่วนผสมของอย่างอื่นอีก เช่น กลูต้าไธโอน สารสกัดจากผลไม้ วิตามินต่างๆ และผิวที่ขาวขึ้นมานั้น เป็นผลมาจากส่วนผสมอื่นๆ แต่ไม่ใช่คอลลาเจนนั่นเองจ้า
ควรกินคอลลาเจนวันละเท่าไหร่
หากต้องการกินคอลลาเจนเสริม ใน 1 วันควรกินคอลลาเจนประมาณวันละ 2.5 - 15 กรัม เพราะเป็นปริมาณที่สามารถกินได้อย่างปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงใดๆต่อร่างกายจ้า
ประโยชน์ของคอลลาเจน
แน่นอนว่าเราต่างรู้กันอยู่แล้วนะคะว่าคอลลาเจนมีประโยชน์ต่อเรื่องสุขภาพผิวพรรณอย่างมาก เป็นตัวช่วยไม่ให้ผิวของเราหย่อนคล้อยได้ง่าย อีกทั้งยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆที่น่าสนใจดังนี้อีกด้วย
- คอลลาเจนจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวของเรา อีกทั้งยังมีส่วนช่วยลดความหยาบกร้านของผิว พร้อมทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี ส่งผลให้ผิวดูฟู อิ่มน้ำ สุขภาพผิวดี
- คอลลาเจนช่วยทำให้ริ้วรอยบนผิวของเราดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด
- คอลลาเจนสามารถช่วยลดอาการการปวดข้อต่อต่างๆตามร่างกายได้ดี อีกทั้งยังช่วยป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก และช่วยรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมอีกด้วย
- คอลลาเจนจะทำให้เล็บของเราแข็งแรง ไม่เปราะแตกง่าย
สำหรับหัวข้อคอลลาเจนช่วยแก้ปัญหาผิวได้จริงไหม ต้องบอกเลยว่าการรับประทานคอลลาเจนให้เพียงพอสามารถช่วยรักษาความอ่อนเยาว์ของผิวให้อยู่คู่กับเราไปได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น และสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้บางส่วนอย่างที่เราได้เห็นประโยชน์ของคอลลาเจนกันไป หากใครที่กำลังมองหาวิธีการเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว ทางเราก็อยากแนะนำวิธีการกินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน รวมไปทั้งการรับประมาณอาหารที่มีคอลลาเจนสูง และประประทานอาหารให้ครบ 5 หมูู่ควบคู่กันไปด้วยก็จะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกายและผิวของเรามากยิ่งขึ้นนะคะ