การทานวิตามินซี เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับคนที่ต้องการเสริมสร้างร่างกายให้มีภูมิต้านทานและแข็งแรงไม่ป่วยง่ายแต่ไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย เพราะการกินวิตามินซีนั้นจะไปเติมสารอาหารที่ขาดหายไปและช่วยบำรุงให้ร่างกายแข็งแรง วันนี้เราจะมาบอกประโยชน์ของการวิตามินซีว่ามีอะไรบ้าง พร้อมบอกเคล็ดลับว่าควรกินเวลาไหนถึงจะได้ประโยชน์ประโยชน์สูงสุด
วิตามินซี คืออะไร
วิตามิน ซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) คือ วิตามินที่ร่างกายต้องการเพื่อนำไปสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น กระดูก ฟัน และผิวหนัง นอกจากนี้ วิตามินซียังมีส่วนช่วยในการสมานแผล รักษาสุขภาพของเนื้อเยื่อต่าง ๆ รวมถึงเป็นตัวช่วยในการปกป้องเซลล์ในร่างกายอีกด้วย ดังนั้นการทานวิตามินซีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคนที่อยากมีร่างกายที่แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีภูมิต้านทานที่ดีได้เลยค่ะ
วิตามินซี มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
หลายคนอาจจะเคยเข้าใจผิดว่าการกินวิตามินซี เป็นการบำรุงให้ผิวขาวขึ้น แต่จริงๆแล้ววิตามินซีไม่ได้ช่วยในเรื่องการทำให้ผิวขาวแต่ประโยชน์ของการวิตามินซีที่แท้จริงคือช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและต้านอนุมูลอิสระ และช่วยในเรื่องต่างๆดังนี้
ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
การกินวิตามินซีเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้นหรือผิวใสขึ้นมากกว่าการที่จะทำให้ผิวขาวอย่างที่หลายคนคิดกัน
ช่วยลดริ้วรอย
นอกจากจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีออร่าแล้วนั้น การกินวิตามินซียังช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้ดี ทำให้ผิวหน้าของเรานั้นดูอ่อนเยาว์ เรียกได้ว่าเป็นการบำรุงผิวจากภายในสู่นอกกันเลยทีเดียวค่ะ
เสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกาย
วิตามินซีมีประโยชน์ในการเข้าไปช่วยเสริมระบบภูมิต้านทานในร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้เราไม่ป่วยง่าย ต้านทานหวัดได้ดี หรือแม้กระทั่งคนที่เป็นภูมิแพ้หากกินวิตามินซี ควบคู่กับการออกกำลังกาย ก็จะช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรงไม่ป่วยง่ายอย่างที่เคย
ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
การกินวิตามินซีไม่เพียงแค่ช่วยเรื่องผิวพรรณอย่างเดียวนะคะ เพราะวิตามินซีมีส่วนเข้าไปช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ดี ซึ่งจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์และลดอาการอักเสบของหลอดเลือด ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆได้ยากขึ้นอีกด้วยค่ะ
วิตามินซี กินตอนไหน แบบไหน ดีที่สุด
เพื่อให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้ดีที่สุดควรต้องคำนึงถึงเวลาที่กินวิตามินซีด้วย เพราะการกินวิตามินซีในช่วงเวลาและปริมาณที่เหมาะสมก็จะทำให้ได้ประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายอย่างสูงสุด
วันนี้เราจะได้นำข้อควรรู้เกี่ยวกับการกินวิตามินซีมาให้เพื่อนๆ ได้ทำตามกันดังนี้ค่ะ
กินวิตามินพร้อมอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็น
เนื่องจากวิตามินซีจะถูกขับออกภายใน 2 – 3 ชั่วโมงหลังจากกินวิตามินซีเข้าไป ดังนั้นการควรกินพร้อมกับอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็น เพื่อรักษาระดับวิตามินซีในเลือดให้สูงซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพของเราเอง
กินวันละ 2 เวลา
เราควรกินวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 เวลา ครั้งละ 500 มิลลิกรัม เพื่อช่วยให้ระดับฮิสตามีน สารที่ทำให้น้ำตาน้ำมูกไหลลดลงได้ถึงร้อยละ 40 เป็นการช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ด้วย
สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรที่จะทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัมเป็นประจำ เพราะตัววิตามินซีจะเข้าไปช่วยลดสารอนุมูลอิสระและช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือด ทั้งช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ดีเช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย เป็นต้น
ช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ
ในช่วงที่ร่างกายเราอ่อนแอ รู้สึกว่าพักผ่อนน้อย หรือต้องเจอกับมลภาวะบ่อยๆ การกินวิตามินซีจะช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายได้
วิตามินซีแบบเม็ดฟู่
การวิตามินซีแบบเม็ดฟู่ ควรรอจนกว่าเม็ดจะละลายในน้ำจนฟองหมด แต่ในบางรายกินแล้วอาจมีแก๊สแน่นเฟ้อในท้องภายหลังได้ จึงเหมาะกับผู้สูงอายุที่มีปัญหากลืนยาเม็ดใหญ่ยาก
วิตามินซีแบบเคี้ยว
การเลือกกินวิตามินซีแบบเคี้ยว ควรเลือกชนิดที่มีปริมาณน้ำตาลน้อย ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ฟันผุได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็กๆ ผู้ปกครองควรดูแลเพิ่มเติม
วิตามินซีจากผักและผลไม้
การกินผักและผลไม้มื้อละประมาณ 400 กรัม ก็จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซีจากธรรมชาติ ในปริมาณ 210-280 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเทียบเท่าการกินวิตามินซีเสริมอาหาร
แคปซูล
วิตามินซีที่ระบุว่าเป็นประเภท Buffered, Sustained Release, Slow Release จะค่อยๆ ปล่อยวิตามินซีออกจากตัวแคปซูลช้าๆ ทำให้ออกฤทธิ์ได้นาน และไม่ทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
สิ่งที่ห้ามกินคู่ กับวิตามินซี
หลายคนคงจะรู้แล้วว่าวิตามินซีมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆเรื่อง แต่ก็มีโทษต่อร่างกายได้หากกินควบคู่ไปกับกลุ่มยาบางชนิด หรือกินในปริมาณที่มากเกินจนเกินไป ซึ่งกลุ่มยาต้องห้ามมีดังนี้เลยค่ะ
- ยารักษาโรคเบาหวาน
- ยากลุ่มผู้ป่วยโรคไต
- ยาเคลือบกระเพาะ
- ยากลุ่มเคมีบำบัด
- ยากลุ่มคุมกำเนิด
- ยาลดกรด
- ยาละลายลิ่มเลือด (Aspirin)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Warfarin)
- ยาลดไขมันสแตติน (Statin) และไนอะซิน (Niacin)
หากใครที่มีโรคประจำตัวหรือใช้ยาเหล่านี้อยู่ควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ก่อนกินวิตามินซีด้วยนะคะ เพราะที่ต้องห้ามกินควบคู่กันไปเพราะวิตามินซีอาจเข้าไปออกฤทธิ์ต่อต้านการรักษาโรค หรือส่งผลเสียกับร่างกายได้
วิตามินซี ยี่ห้อไหนดี
การเลือกวิตามินซี ควรเลือกจากยี่ห้อที่มีสารสกัดหลากหลายประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นช่วยเรื่องผิวพรรณ ต้านหวัดได้ รวมไปถึงช่วยแก้ปัญหาบนใบหน้าต่างๆเช่น ลดริ้วรอย ลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิวเป็นต้น ซึ่งยี่ห้อที่แนะนำ มีดังนี้เลยค่ะ
DHC Supplement Vitamin C
วิตามินซีตัวนี้ว่ากันว่าช่วยลดความหมองคล้ำบนใบหน้า ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ช่วยลดรอยสิว แต่ทีเด็ดคือช่วยให้ไม่เป็นหวัดง่าย ๆ ด้วย ใครที่ผิวไม่สดใสแนะนำให้กินตัวนี้เลย แต่หากอยากได้ผลดีให้ลองกินติดต่อกันอย่างน้อย 2 – 3 เดือนนะ จะเห็นผลมากที่สุด
California Gold Nutrition Vitamin C Gummies
เป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศอเมริกา วัตถุดิบปลอดสารพิษ แคลอรี่ต่ำ น้ำตาลน้อย เป็นวิตามินซีในรูปแบบกัมมี่ สามารถกินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
VISTRA Acerola Cherry
เป็นวิตามินซี ที่มีสารสกัดจากทับทิม สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และเบต้าแคโรทีนที่ช่วยในเรื่องผิวพรรณอีกด้วยนะ กินแล้วรับรองว่าผิวออร่าขึ้นได้แน่นอนค่ะ
วิตามินซี Nat C
เป็นวิตามินซีแบบเม็ดที่ถูกบรรจุอยู่ในกระปุกทึบแสง โดยปริมาณวิตามินซีต่อ 1 เม็ดจะอยู่ที่ 1,000 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีรูติน แอสคอร์เบท และแคลเซียม แอสคอร์เบทถึง 60% ที่ช่วยลดความเป็นกรดของวิตามินซี
ผลข้างเคียง การกินวิตามินซี
แม้ว่าวิตามินซีจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากแค่ไหน แต่หากกินเข้าไปในปริมาณที่มากเกินติดต่อกันเป็นเวลานานจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดโรคนิ่วในไตและเกิดอาการอื่นๆตามมาได้ดังนี้
- ท้องเสีย ท้องร่วง ปวดท้อง
- คลื่นไส้อาเจียน
- แสบร้อนกลางอก
คำถามที่พบบ่อย
วิตามินซีกินร่วมกับแคลเซียมได้ไหม
กินได้ค่ะ จริงๆแล้วเราควรกินวิตามินนซีร่วมกับแคลเซียม แมกนีเซียม และไบโอฟลาโวนอยด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินซีให้ทำงานได้ดี
กินวิตามินซีแล้วท้องเสีย เกิดจากอะไร
เพราะกินวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินไปค่ะ ซึ่งสัญญาณเมื่อได้รับวิตามินซีเกิน เช่น อาการท้องเสีย เป็นต้น ซึ่งอาจเกิดได้กับคนที่กินวิตามินซีในปริมาณที่สูงมาก ๆ เช่น 8,000 มิลลิกรัมขึ้นไป ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะเป็น เพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็สามารถย่อยวิตามินซีได้วันละหลายกรัมเลยทีเดียว จึงทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
วิตามินซี ช่วยทำให้ขาวได้จริงไหม
จริงๆแล้วการวิตามินซีช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง กระจ่างใสขึ้นเท่านั้นไม่ได้ทำให้ขาวกันอย่างที่หลายคนคิดกันเลยค่ะ หากเพื่อนๆอยากมีผิวที่ขาวควรทำด้วยวิธีอื่นร่วมไปกับการกินวิตามินซีได้นะคะ เพราะหากกินร่วมไปด้วยยิ่งจะทำให้ผิวขาวใส ดูมีออร่าสุดๆไปเลยค่ะ
สรุป
วิตามินซีเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์ ควรกินเป็นประจำทุกวันจะช่วยเสริมสร้างคุณประโยชน์หลากหลายให้ร่างกายได้มากเลยทีเดียวค่ะ หากใครชอบกินผักผลไม้ก็ให้เลือกชนิดที่มีวิตามินสูงก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ ดังนั้นวิตามินซีจึงมีประโยชน์และคู่ควรในการลงทุนมากๆเลยค่ะ